ระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ เ

ระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ เป็นสวัสดิการที่รัฐจัดให้แก่ข้าราชการและบุคคล ในครอบครัว โดยระบบดังกล่าวให้การคุ้มครองแก่ผู้มีสิทธิอย่างครอบคลุมทั้งบริการผู้ป่วยนอกและในรวมถึงเสรีภาพในการเลือกใช้บริการในสถานพยาบาลรัฐทุกแห่ง และจ่ายค่าบริการตามปริมาณการให้บริการย้อนหลังตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งปัจจุบันการเบิกจ่ายสำหรับกรณีผู้ป่วยใน ได้มีการเปลี่ยนระบบการเบิกจ่ายจากระบบการวางฎีกามาเป็นระบบเบิกจ่ายตรงค่ารักษาพยาบาลระหว่างกรมบัญชีกลางกับสถานพยาบาลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ และจ่ายค่าบริการตามกลุ่มวินิจฉัยโรคร่วม (Diagnosis Related Group: DRG) สำหรับกรณีผู้ป่วยภายนอก สามารถเบิกจ่ายได้ทั้งวิธีการนำใบเสร็จรับเงินไปเบิกจากส่วนราชการต้นสังกัดของผู้มีสิทธิ และเบิกจ่ายในระบบเบิกจ่ายตรงค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยภายนอก โดยยังเป็นการจ่ายตามรายการและอัตราที่สถานพยาบาลเรียกเก็บ (Fee-for-service) โดยกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลังได้กำหนดอัตราการเบิกจ่ายไว้ เช่น ค่าตรวจชันสูตรต่างๆ ค่าหัตถการ ค่าอวัยวะเทียม และอุปกรณ์ในการบำบัดรักษาโรค เป็นต้น
จากการดำเนินการดังกล่าวพบว่างบประมาณรายจ่ายด้านค่ารักษาพยาบาลในสิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเป็นการเพิ่มในอัตราที่ค่อนข้างสูง โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 - 2551 ค่ารักษาพยาบาลเพิ่มขึ้นจาก 37,004 ล้านบาท เป็น 46,481.05 และ 54,904.48 ล้านบาท คิดเป็นอัตราร้อยละ 25.61 และ 18.12 ตามลำดับ ซึ่งจากข้อมูลการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาล ปรากฏว่าค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยในเพิ่มขึ้นตามสมควรในอัตราที่สามารถยอมรับได้ แต่ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยภายนอกเพิ่มในอัตราที่ค่อนข้างสูงและมีสัดส่วนสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยสัดส่วนค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยภายนอกต่อค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 46 ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2545 เป็นร้อยละ 70 ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 โดยพบว่า ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยภายนอกเพิ่มขึ้นดังกล่าว ค่ายาเป็นค่าใช้จ่ายที่มีสัดส่วนสูงสุดเมื่อเทียบกับค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยภายนอกทั้งหมด (ประมาณร้อยละ 83) ทั้งนี้ ข้อมูลจากการตรวจสอบเวชระเบียนผู้ป่วยที่ใช้สิทธิเบิกจ่ายในระบบเบิกจ่ายตรงค่ารักษาพยาบาล พบว่า มีการใช้ยาอย่างไม่เหมาะสม และเกินความจำเป็น มีการโยกการจ่ายยากลับบ้านของผู้ป่วยในมาเป็นผู้ป่วยนอก การเบิกจ่ายที่ไม่เหมาะสม เช่น การเบิกค่านวดแผนไทยโดยมิได้มีข้อบ่งชี้ในการรักษาพยาบาล เป็นต้น ตลอดจนพบว่าผู้มีสิทธิบางรายและโรงพยาบาลบางแห่งมีพฤติกรรมทุจริตในการเบิกจ่ายค่ายาอีกด้วย
กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ซึ่งรับผิดชอบดูแลระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ จึงมีนโยบายให้มีการศึกษาวิเคราะห์พัฒนาข้อเสนอเพื่อกำหนดมาตรการเพื่อควบคุมการเบิกค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยภายนอกให้เป็นไปอย่างเหมาะสม มีประสิทธิภาพ และสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ในระยะยาว เช่น การปรับเปลี่ยนวิธีการจ่ายค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยภายนอกเป็นการกำหนดอัตราจ่ายล่วงหน้ารายกลุ่มโรค และมาตรการเพื่อควบคุมการเบิกจ่ายค่ายา ให้เป็นไปอย่างเหมาะสม มีประสิทธิภาพ และไม่ให้การใช้จ่ายเงินงบประมาณเกิดการรั่วไหลในทางที่ไม่สมควร

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

Medical welfare system benefits the State procurement officials are provided to civil servants and persons. In such a system, the family, the protection of those rights to comprehensive out-patient services, and include a wide range of freedom in the hospital anywhere in the State. And pay for the service by providing backward volume from the start. Currently, the disbursements for the patient in the case has changed the system of disbursements from the system to drop the Supreme Court as a direct payment system between the central accounting department medical expenses to the hospital electronically and pay for services based on a group diagnosis (DRG Diagnosis Related Group:) For external patients can present both disbursement receipts to withdraw from the charge of having government permission and payment system payment directly to external medical patients. It is paid according to the rate charged by the Hospital (Fee-for-service) by the Central accounts. The Ministry of Finance has set the rate of disbursement, such as various values hatthakan values check autopsy organs and devices in the treatment of disease, etc. จากการดำเนินการดังกล่าวพบว่างบประมาณรายจ่ายด้านค่ารักษาพยาบาลในสิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเป็นการเพิ่มในอัตราที่ค่อนข้างสูง โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 - 2551 ค่ารักษาพยาบาลเพิ่มขึ้นจาก 37,004 ล้านบาท เป็น 46,481.05 และ 54,904.48 ล้านบาท คิดเป็นอัตราร้อยละ 25.61 และ 18.12 ตามลำดับ ซึ่งจากข้อมูลการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาล ปรากฏว่าค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยในเพิ่มขึ้นตามสมควรในอัตราที่สามารถยอมรับได้ แต่ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยภายนอกเพิ่มในอัตราที่ค่อนข้างสูงและมีสัดส่วนสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยสัดส่วนค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยภายนอกต่อค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 46 ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2545 เป็นร้อยละ 70 ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 โดยพบว่า ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยภายนอกเพิ่มขึ้นดังกล่าว ค่ายาเป็นค่าใช้จ่ายที่มีสัดส่วนสูงสุดเมื่อเทียบกับค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยภายนอกทั้งหมด (ประมาณร้อยละ 83) ทั้งนี้ ข้อมูลจากการตรวจสอบเวชระเบียนผู้ป่วยที่ใช้สิทธิเบิกจ่ายในระบบเบิกจ่ายตรงค่ารักษาพยาบาล พบว่า มีการใช้ยาอย่างไม่เหมาะสม และเกินความจำเป็น มีการโยกการจ่ายยากลับบ้านของผู้ป่วยในมาเป็นผู้ป่วยนอก การเบิกจ่ายที่ไม่เหมาะสม เช่น การเบิกค่านวดแผนไทยโดยมิได้มีข้อบ่งชี้ในการรักษาพยาบาล เป็นต้น ตลอดจนพบว่าผู้มีสิทธิบางรายและโรงพยาบาลบางแห่งมีพฤติกรรมทุจริตในการเบิกจ่ายค่ายาอีกด้วย กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ซึ่งรับผิดชอบดูแลระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ จึงมีนโยบายให้มีการศึกษาวิเคราะห์พัฒนาข้อเสนอเพื่อกำหนดมาตรการเพื่อควบคุมการเบิกค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยภายนอกให้เป็นไปอย่างเหมาะสม มีประสิทธิภาพ และสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ในระยะยาว เช่น การปรับเปลี่ยนวิธีการจ่ายค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยภายนอกเป็นการกำหนดอัตราจ่ายล่วงหน้ารายกลุ่มโรค และมาตรการเพื่อควบคุมการเบิกจ่ายค่ายา ให้เป็นไปอย่างเหมาะสม มีประสิทธิภาพ และไม่ให้การใช้จ่ายเงินงบประมาณเกิดการรั่วไหลในทางที่ไม่สมควร

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

Civil Servant Medical Benefit Scheme The welfare state is prepared to civil servants and their family members by the system providing protection for the right to cover outpatient services and the freedom of choice of service in all state hospitals. And pay a fee based on the volume of services retroactively from the start. Currently, disbursements for the patient. The system has changed the issue from the petition to put an issue on medical expenses during the hospital Comptroller electronically. And pay a fee based on diagnosis related group (Diagnosis Related Group: DRG) for patients outside. How can issue the receipt to withdraw from the government agency of voters. And disbursed in the disbursement of direct patient care outside. It is paid by item and by the rate at which hospitals charged. (Fee-for-service) by the Comptroller. The Ministry of Finance has set a disbursement rate, such as the various mortem examination procedures for the prosthesis. And in the treatment of disease. Etc.
from the implementation of the budget showed that medical expenses in the health care bureaucracy has increased steadily. And an increase in rate is quite high. In fiscal year 2549 - 2551 the hospital increased from 37,004 million baht was 46481.05 and 54904.48 million baht, 25.61 and 18.12 percent, respectively, from the disbursement of medical expenses. It appears that the patient in an increase in rates can reasonably acceptable. But the patient outside of a fairly high rate and a much higher proportion. The proportion of hospital patients outside the hospital increased from 46 per cent in FY 2545 was 70 per cent in FY 2551 showed that hospital patients outside such increases. The drug is charged with the highest proportion compared with patients outside the hospital all. (About 83 percent) of data from medical records to monitor patients who use the system pay disbursed in the hospital found that the drug is used inappropriately. And redundantly Dispensing with the rocking back of the patient is ambulatory. The disbursement inappropriate as reimbursement massage Thailand without any indications of care etc. as well as find the right customers and some hospitals are behaving corruption in the disbursement of the drug with
the Department. Comptroller Ministry of Finance Administration officials responsible for health care. The study analyzes the policy to develop proposals for measures to control the reimbursement of medical expenses outside the patient is appropriate. Effective And to control costs in the long term, such as modifying the patient's medical bills outside of the rates of disease prepaid group. And measures to control the disbursement of the drug. To properly Effective And not to spend money in the budget leak unreasonable.

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

The welfare system of medical officers. As a welfare provided by the state to the officials and the people in the family.According to the quantity of service and pay back from the beginning. The current reimbursement for inpatientAnd pay according to diagnosis related group (Diagnosis Related Group:DRG) for patients outside. Can manage both how to bring the receipt to withdraw from the agency of government authority. Additional in the system to issue a direct treatment of patients with external.(Fee-for-service) by the Comptroller. The Ministry of finance, such as determining the rate of withdrawing the examination autopsy. The operative ค่าอวัย is artificial and device therapy. Etc.
.From the budget expenditure was medical treatment in welfare rights medical officials increased continuously. And the increase in rate is relatively high. In the budget.2549 - 2551 medical treatment, increased from 37 004 million to a 46 481.05, and, 54 904.48% percentage and 25.61 18.12 respectively. The reimbursement of medical information. Medical patient increase rate appeared reasonable can be accepted.The treatment of patients with external to all medical expenses cent 46 ในปีงบประมาณ B.Professor 2545 cent 70 in budget.2551 found that Treatment of patients with external increase them? The camp is cost with maximum proportion compared to the treatment of patients outside of all (ประมาณ percent 83) theFound that the drug use as inappropriate and unnecessary. The rock of patients in a medical home outpatient reimbursement unsuitable, such as picking up massage not by a indication in the treatment. And so on.
.Ministry of finance. Which is responsible for the welfare system of medical officers.Efficient and can control the cost in the long run, such as modifying how to pay medical treatment patients outside a set rate prepaid group of diseases. And the measures to control the disbursement of the camp.Effective. And not to spend money leak in a way that does not deserve.