Chapter 2The documents and related research.Operations project, "Kim ju knew, rich" working group has gathered documents and related research as follows: 1. the history and characteristics of Western political phrik.2. planting Hardy Kim ju and careHistory and political science, Western style phrik Picture 2.1 guavaGuava Guava has an ordinary name, called "scientific" name for Psidium guajava Linn ", a" tree-house "Myrtacceae" in Thailand, we call the Western name varies according to region of the country, as follows:-Northern region called "Ma" kuai ".-Central region called "farang".-North East, called "bug SIDA".-The South called "Ya Ya" or "pig pig."The history of chewing gum.Guava is a tropical plant and durable good drivers focus on arid countries originated in Brazil (Brazil), Central America, and later expanded the plant a row state of Florida State, California, in the United States. Country India The Philippines, Thailand, and Langkawi Guava is grown in the country, Thailand. Who is going to bring into the country in Thailand? From which countries. , Why is this called a "guava fruit, '' nobody knows, but it assumes that the" Western "coming into the country through Thailand originate from two countries: India. และมาจากทางประเทศจีนทางหนึ่ง ซึ่งเรียกกันตามชื่อของประเทศที่นำมา เช่น นำมาจากอินเดียก็เรียก “ฝรั่งอินเดีย” และนำมาจากจีนก็เรียก “ฝรั่งจีน” เป็นต้น แต่คำว่า “ฝรั่ง” นั้น คงจะหมายถึงผลไม้ที่นำมาจากเมืองฝรั่งก็อาจเป็นได้ ฝรั่งที่นำมาปลูกในประเทศไทยมีรสอร่อย และฝรั่งที่ปลูกที่ตำบลบางเสาธงนั้น ความจริงเป็นฝรั่งที่นำมาจากประเทศจีนเข้ามาปลูกในเมืองไทย และฝรั่งพันธุ์นี้หลวงตั้งสื่อ (หลวงท่องสื่อ) เป็นผู้นำมาจากประเทศจีน และต่อมาได้ขยายพันธุ์ไปปลูกกันในที่อื่นๆ อีกมาก ในปัจจุบัน ฝรั่งที่ปลูกเป็นส่วนใหญ่ ก็มีอยู่แถวฝั่งธนบุรี และตามชานเมืองฝั่งพระนครและจังหวัดปทุมธานี เช่น แถวท้องที่อำเภอ บางเขนและอำเภอธัญบุรี เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีการปลูกฝรั่งในจังหวัดต่างๆ อีกมากเหมือนกัน และนอกจากสวนใหญ่ๆ ดังกล่าวแล้ว ฝรั่งยังเป็นต้นไม้ผลที่ปลูกหลังบ้านกันบ้านละต้นสองต้นทั่วๆ ไป ส่วนฝรั่งพันธุ์อินเดียนั้นเข้ามาในประเทศไทยซึ่งมีอยู่หลายพันธุ์ด้วยกัน แต่เท่าที่นิยมกันอยู่มี 2-4 พันธุ์เท่านั้น คือฝรั่งอินเดียธรรมดา-ฝรั่งอินเดียไม่มี เมล็ดหรืออีแห้ว และพันธ์ฝรั่งอินเดียค่อม เป็นต้นลักษณะทางพฤกษศาสตร์ฝรั่งเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง มีลำต้นสูงประมาณ 2-3 เมตร และกิ่งก้านสาขากว้าง และมักจะแตกกิ่งเล็กๆ ตาม บริเวณโคนต้น ลำต้นมีผิวเรียบปนสีแดง เปลือกลอกได้เป็นแผ่นๆ บางๆ ใบจะยาวประมาณ 5-15 เซนติเมตร กว้าง 2- 6.5 เซนติเมตร ปลายมน ดอกฝรั่งเป็นดอกสมบูรณ์เพศ คือมีทั้งเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียอยู่ในดอกเดียวกัน มีลักษณะเป็นช่อ ซึ่งผลิจากตาที่อยู่โคนใบของกิ่งอ่อนประมาณ 2-3 ดอก หรือดอกเดียว มีกลีบเลี้ยง 4-5 กลีบ ลักษณะของผล ค่อนข้างกลมแล้วจะค่อยๆ สอบไปทางปลายผล ผลยาวประมาณ 5-12 เซนติเมตร เส้นผ่าศูนย์กลางของผลประมาณ 5-7 เซนติเมตร เมื่อผลยังดิบอยู่จะมีสีเขียวเข้ม ผลขรุขระเล็กน้อย ผลแก่จัดแต่ยังไม่สุก ผิวของผลจะมีสีเขียวอ่อน และมีรสหวานอมเปรี้ยวบ้างเล็กน้อย และกรอบ เมื่อสุกเนื้อในที่หุ้มเมล็ดอยู่มีสีเนื้อจนถึงสีชมพู เมล็ดเล็กและแข็ง มีสีเหลืองอมน้ำตาล เมล็ดจะกว้าง 0.2-0.3 เซนติเมตร ยาว 0.3-0.5 เซนติเมตร เนื้อนอกขาวนุ่ม ผิวของผลสุกจะมีสี เหลืองอ่อนเป็นมันและมีกลิ่นหอม ฝรั่งให้ผลอยู่ได้ประมาณถึง 40 ปี แต่การที่จะให้ผลดกนั้นจะไม่เกิน 15-25 ปี จากนั้นผลผลิตก็จะลดลงตามลำดับอายุที่สูงขึ้น การปลูกฝรั่งกิมจูหลังจากที่เลือกพื้นที่ปลูกได้แล้ว ถ้าต้องการจะปลูกเป็นสวนก็ควรจะจัดระยะปลูกระหว่างแถวและระหว่างต้นประมาณ 3 x 3 เมตรในเนื้อที่ 1 ไร่ จะปลูกได้ประมาณ 160 ต้นการเตรียมดิน การปลูกฝรั่งในพื้นที่ลุ่มน้ำท่วมถึงควรทำการยกร่องปลูก โดยยกร่องให้มีขนาดความกว้างของหลังร่องประมาณ 6 เมตร มีคูน้ำกว้างประมาณ 1.5 เมตร ความยาวของสันร่องแล้วแต่พื้นที่ ความสูงไม่จำกัด แต่ถ้าเป็นที่ดอนไม่จำเป็นต้องยกร่อง จากนั้นก็ปรับปรุงดินโดยการตากดินเพื่อฆ่าเชื้อโรค และเมล็ดวัชพืช ใส่ปุ๋ยคอกและปุ๋ยหมักในปริมาณเท่า ๆ กัน อัตราปุ๋ย 1 ส่วนต่อดิน 2 ส่วน เพื่อให้ดินร่วนซุยวิธีปลูก หลังจากเตรียมหลุมปลูกเรียบร้อยแล้ว ให้นำกิ่งพันธุ์ที่ชำไปปลูกลงในหลุม กลบดินให้แน่นพอสมควร แล้วใช้ไม้ปักเป็นหลักผูกกันลมโยกและรดน้ำทันที จากนั้นใช้ทางมะพร้าวมาคลุมพรางแสงแดดให้แก่ต้นฝรั่งจนกว่าต้นฝรั่งจะตั้งตัวได้ การเตรียมหลุมปลูก ขนาดของหลุมปลูกควรกว้าง 0.5 เมตร ยาว 0.5 เมตร และลึก 0.5 เมตร ที่จำเป็นต้องขุดหลุมกว้างเพื่อเปลี่ยนสภาพดินในหลุมให้ดีขึ้น ดังนี้1. ควรขุดดินโดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ดินบนและดินล่าง - ดินบน เป็นส่วนที่มีอินทรีย์วัตถุมากอยู่แล้ว ให้แยกไว้ส่วนหนึ่ง - ดินล่าง คือดินที่เมื่อขุดลึกลงไปแล้วพบว่าดินมีสีจางลงเป็นชั้นที่ไม่มีอินทรีย์วัตถุ 2. ตากดินไว้ 10-15 วัน เพื่อให้แสงแดดส่องฆ่าเชื้อโรคในหลุมปลูกและในดิน 3. กลบดินบนลงในหลุม 4. ผสมปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยหมัก 1 ส่วนต่อดินล่าง 2 ส่วน และรองก้นหลุมด้วยปุ๋ยร๊อคฟอสเฟต 0.50 กิโลกรัม แล้วจึงกลบลงไปในหลุมทับชั้นดินบน จนมีระดับสูงกว่าระดับพื้นดินธรรมดาประมาณ 10 เซนติเมตรการที่ต้องกลบดินให้สูงกว่าระดับดินเดิมนั้น เพื่อที่เมื่อเวลาปลูกแล้วดินจะยุบตัวลงเล็กน้อย ซึ่งจะทำให้พอดีกับระดับดินเดิม ถ้าไม่เผื่อไว้จะเป็นแอ่งและมีน้ำขังทำให้รากเน่าตายได้ การปฏิบัติดูแลรักษาการให้น้ำ หลังจากปลูกฝรั่งแล้วต้องหมั่นคอยรดน้ำในช่วงระยะแรกจนกว่าต้นฝรั่งจะตั้งตัวได้หลังจากนั้นก็ต้องสังเกตดูความชุ่มชื้นของดิน ถ้าดินแห้งมากต้องรีบให้น้ำ และถ้ามีฝนตกหนักก็ควรระบายน้ำออกบ้าง การให้น้ำจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นตามความต้องการของต้นฝรั่ง ปริมาณความชื้นของดินในระหว่างการออกผลมีความสำคัญ เพราะจะก่อให้เกิดการร่วง การแตก และขนาดของผล การให้ปุ๋ย โดยปกติการปลูกพืชทุกชนิดควรมีการใส่ปุ๋ยทั้งปุ๋ยคอกและปุ๋ยเคมี สูตรที่แนะนำ คือ 15-15-15 หรือ 13-13-21 ฝรั่งเมื่อออกดอกแล้วจำเป็นต้องให้น้ำและปุ๋ยไนโตรเจนเพื่อให้ได้ผลผลิตสูงขึ้นทุก ๆ ปี ควรให้ปุ๋ยประมาณ 2 กิโลกรัม/ต้น/ปี หรือมากกว่านี้ขึ้นอยู่กับอ
การแปล กรุณารอสักครู่..