ประวัติของเครื่องถ่ายเอกสารผู้คิดค้นเครื่องถ่ายเอกสารคือ ทนายความสิทธิ การแปล - ประวัติของเครื่องถ่ายเอกสารผู้คิดค้นเครื่องถ่ายเอกสารคือ ทนายความสิทธิ อังกฤษ วิธีการพูด

ประวัติของเครื่องถ่ายเอกสารผู้คิดค้


ประวัติของเครื่องถ่ายเอกสาร

ผู้คิดค้นเครื่องถ่ายเอกสารคือ ทนายความสิทธิบัตรของบริษัท P.R. Mallory and Co Inc.ที่ชื่อ Chester Carlson ซึ่งสำเร็จปริญญาตรีสาขาฟิสิกส์ และเคยทำงานเป็นวิศวกรวิจัยที่บริษัท Bell Telephone Laboratories ก่อนหันมาทำงานเป็นทนายความสิทธิบัตรที่สำนักสิทธิบัตร ซึ่งที่นี่ทำให้เขาต้องทำสำเนาเอกสารต่างๆ เป็นจำนวนมาก แต่วิธีทำสำเนาในสมัยนั้นไม่เหมาะที่จะทำสำเนาเอกสารจำนวนมาก และยังไม่สามารถทำสำเนาได้เร็วพอ เช่น การใช้กระดาษคาร์บอน การถ่ายภาพเอกสารโดยตรงด้วยกล้องถ่ายรูป และการนำเอกสารมาให้นักพิมพ์ดีดพิมพ์ซ้ำ นี่ทำให้ Chester คิดได้ว่า เหล่าสำนักงานต่างๆ ต้องประทับใจอย่างแน่นอน ถ้ามีเครื่องมือทำสำเนาเอกสารที่ถูกต้องครบถ้วนและรวดเร็ว ดังนั้นเขาจึงใช้เวลาช่วงเย็นขลุกตัวในห้องสมุดเป็นเดือนๆ เพื่อหาความรู้เรื่องการทำสำเนาเท่าที่เขาจะหาได้ หลังจากได้ศึกษางานวิจัยก่อนหน้านี้ เขาก็พบงานวิจัยที่น่าสนใจของนักฟิสิกส์ชาวฮังกาเรียนชื่อ Paul Selenyi ที่กล่าวถึงภาพที่สร้างด้วยไฟฟ้าสถิต (electrostatic image) โดยใช้วัสดุบางชนิดที่สามารถนำไฟฟ้าได้ดีขึ้นเมื่อมีแสงมาตกกระทบ เพื่อพิสูจน์งานวิจัยดังกล่าวเขาและผู้ช่วยของเขาคือ Otto Kornei นักฟิสิกส์ชาวเยอรมัน ได้ทดลองนำสารกำมะถันมาเคลือบบนแผ่นสังกะสี หลังจากนั้นขัดแผ่นสังกะสีด้วยผ้าเช็ดหน้าให้เกิดไฟฟ้าสถิต แล้วนำแผ่นแก้วบางที่พิมพ์ข้อความ "10-22-38 ASTORIA" วางบนแผ่นสังกะสี ต่อมาปิดช่องแสงทุกช่อง เพื่อให้สภาพแวดล้อมมีความมืดมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และฉายแสงสว่างจากหลอดไฟลงบนแผ่นแก้วครู่หนึ่ง แล้วดึงแผ่นแก้วออก และพ่นผงไลโคโปเดียมลงบนผิวเคลือบกำมะถัน ค่อยๆ เป่าผงไลโคโปเดียมเหล่านั้นออกอย่างแผ่วเบา ผลก็คือผงไลโคโปเดียมบางส่วนที่ติดบนพื้นผิวมีลักษณะใกล้เคียงกับข้อความบนแผ่นแก้ว หลังจากนั้นเขาทำให้ข้อความปรากฏอย่างถาวรโดยนำไปทาบกับกระดาษไข และให้ความร้อน ไขจากกระดาษละลายและดูดเอาหมึกจากแผ่นสังกะสีให้ติดอยู่บนแผ่นกระดาษ ในที่สุดสำเนาเอกสารแผ่นแรกได้ถือกำเนิดขึ้นในวันที่ 22 ตุลาคม ค.ศ. 1938 หรือเมื่อ 76 ปีที่แล้ว เขานำกระบวนการและเทคนิคดังกล่าวไปจดสิทธิบัตร และนำไปเสนอบริษัทต่างๆ ให้พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานได้จริง แต่ผลปรากฏว่าไม่มีบริษัทไหนให้ความสนใจเลย ในระยะเวลา 6 ปี (ค.ศ. 1939 - 1944) โดนมากกว่า 20 บริษัทปฏิเสธข้อเสนอ รวมถึง 2 บริษัทยักษ์ใหญ่อย่างบริษัท IBM และบริษัท General Electric เขารู้สึกท้อแท้เมื่อโดนปฏิเสธหลายครั้งแต่ไม่ยอมหยุดนำเสนอต่อบริษัทอื่นๆ ในที่สุดสถาบัน Battelle Memorial Institute หน่วยวิจัยที่ไม่แสวงหาผลกำไรก็ให้ความสนใจ และทำสัญญาการพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ของเขา ต่อมาในปี ค.ศ. 1947 สถาบัน Battelle Memorial Institute ได้เซ็นสัญญาพัฒนาเครื่องถ่ายเอกสารกับบริษัท Haloid ผู้ผลิตและจำหน่ายกระดาษอัดรูป ในอีก 2 ปีถัดมา บริษัท Haloid ก็เปิดตัวเครื่องถ่ายเอกสารรุ่นแรกชื่อ Model A แต่ไม่เป็นที่ยอมรับ เนื่องจากการทำสำเนาเอกสารแต่ละแผ่นใช้เวลาเกือบนาที และใช้งานยากกว่าจะถ่ายได้ต้องทำตามขั้นตอนถึง 14 ขั้นตอน นอกจากนี้หากทำสำเนามากกว่า 12 ชุดเกิดปัญหา ดังนั้นบริษัท Haloid จึงปรับปรุงเครื่อง Model A โดยใช้เวลานานถึง 10 ปี จนปี ค.ศ. 1959 บริษัทซึ่งเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น XEROX เรียบร้อยแล้วได้เปิดตัวเครื่องถ่ายเอกสาร Model 914 ออกมา และประสบความสำเร็จในการขายอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ Chester Carlson กลายเป็นมหาเศรษฐีใหม่ในที่สุด

การทำงานของเครื่องถ่ายเอกสาร

วางเอกสารต้นฉบับคว่ำลงบนกระจกใสด้านบนของเครื่องถ่ายเอกสาร ปิดฝาลงและกดปุ่ม เครื่องจะทำสำเนาเอกสาร หลังจากกดปุ่มจะมีแสงสว่างลอดออกมาจากบริเวณที่วางเอกสารลงไปคือ แสงจากหลอดฟลูโอเรสเซนซ์หรือหลอดฮาโลเจนที่ส่องไปบนเอกสารต้นฉบับ เพื่อให้เกิดแสงสะท้อน ตัวอักษรหรือภาพบนกระดาษซึ่งมีสีดำจะไม่สะท้อนแสง ในขณะที่บริเวณสีขาวของกระดาษจะสะท้อนแสงได้ดี แสงสะท้อนนี้จะส่องไปยังพื้นผิวของลูกกลิ้งซึ่งมีประจุบวกกระจายอยู่อย่างสม่ำเสมอ แสงที่กระทบพื้นผิวจะทำให้เกิดประจุลบซึ่งจะหักล้างกับประจุบวกที่มีอยู่เดิม ส่วนบริเวณที่ไม่โดนแสงเนื่องจากตัวอักษรดูดกลืนแสงจากหลอดไฟไว้จะยังคงมีประจุบวกเช่นเดิม ถ้าสามารถมองเห็นได้ก็จะเห็นประจุบวกเรียงตัวกันเป็นรูปภาพหรือตัวอักษรตามแบบต้นฉบับ เพียงแต่กลับด้านเหมือนภาพจากกระจกเงา ต่อมาเครื่องจะเป่าผงหมึกที่มีประจุลบไปยังลูกกลิ้ง เมื่อลูกกลิ้งหมุนด้านที่มีประจุบวกเข้าหาผงหมึก พื้นผิวที่มีประจุบวกจะดึงดูดผงหมึกที่มีประจุลบให้ติดอยู่บนลูกกลิ้ง ขั้วไฟฟ้าภายในเครื่องจะส่งประจุบวกให้กระดาษเปล่า กระดาษแผ่นนี้จะหมุนไปตามลูกลิ้ง เมื่อผ่านบริเวณที่มีผงหมึกเกาะอยู่ ประจุบวกบนกระดาษจะดึงดูดผงหมึกจากลูกกลิ้งให้เกาะติดบนกระดาษแทน และเมื่อผ่านความร้อนผงหมึกจะละลายซึมติดแน่นในเนื้อกระดาษ ได้เป็นสำเนาเอกสารในที่สุด โดยใช้เวลาไม่ถึง 10 วินาที
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
History of photocopiersผู้คิดค้นเครื่องถ่ายเอกสารคือ ทนายความสิทธิบัตรของบริษัท P.R. Mallory and Co Inc.ที่ชื่อ Chester Carlson ซึ่งสำเร็จปริญญาตรีสาขาฟิสิกส์ และเคยทำงานเป็นวิศวกรวิจัยที่บริษัท Bell Telephone Laboratories ก่อนหันมาทำงานเป็นทนายความสิทธิบัตรที่สำนักสิทธิบัตร ซึ่งที่นี่ทำให้เขาต้องทำสำเนาเอกสารต่างๆ เป็นจำนวนมาก แต่วิธีทำสำเนาในสมัยนั้นไม่เหมาะที่จะทำสำเนาเอกสารจำนวนมาก และยังไม่สามารถทำสำเนาได้เร็วพอ เช่น การใช้กระดาษคาร์บอน การถ่ายภาพเอกสารโดยตรงด้วยกล้องถ่ายรูป และการนำเอกสารมาให้นักพิมพ์ดีดพิมพ์ซ้ำ นี่ทำให้ Chester คิดได้ว่า เหล่าสำนักงานต่างๆ ต้องประทับใจอย่างแน่นอน ถ้ามีเครื่องมือทำสำเนาเอกสารที่ถูกต้องครบถ้วนและรวดเร็ว ดังนั้นเขาจึงใช้เวลาช่วงเย็นขลุกตัวในห้องสมุดเป็นเดือนๆ เพื่อหาความรู้เรื่องการทำสำเนาเท่าที่เขาจะหาได้ หลังจากได้ศึกษางานวิจัยก่อนหน้านี้ เขาก็พบงานวิจัยที่น่าสนใจของนักฟิสิกส์ชาวฮังกาเรียนชื่อ Paul Selenyi ที่กล่าวถึงภาพที่สร้างด้วยไฟฟ้าสถิต (electrostatic image) โดยใช้วัสดุบางชนิดที่สามารถนำไฟฟ้าได้ดีขึ้นเมื่อมีแสงมาตกกระทบ เพื่อพิสูจน์งานวิจัยดังกล่าวเขาและผู้ช่วยของเขาคือ Otto Kornei นักฟิสิกส์ชาวเยอรมัน ได้ทดลองนำสารกำมะถันมาเคลือบบนแผ่นสังกะสี หลังจากนั้นขัดแผ่นสังกะสีด้วยผ้าเช็ดหน้าให้เกิดไฟฟ้าสถิต แล้วนำแผ่นแก้วบางที่พิมพ์ข้อความ "10-22-38 ASTORIA" วางบนแผ่นสังกะสี ต่อมาปิดช่องแสงทุกช่อง เพื่อให้สภาพแวดล้อมมีความมืดมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และฉายแสงสว่างจากหลอดไฟลงบนแผ่นแก้วครู่หนึ่ง แล้วดึงแผ่นแก้วออก และพ่นผงไลโคโปเดียมลงบนผิวเคลือบกำมะถัน ค่อยๆ เป่าผงไลโคโปเดียมเหล่านั้นออกอย่างแผ่วเบา ผลก็คือผงไลโคโปเดียมบางส่วนที่ติดบนพื้นผิวมีลักษณะใกล้เคียงกับข้อความบนแผ่นแก้ว หลังจากนั้นเขาทำให้ข้อความปรากฏอย่างถาวรโดยนำไปทาบกับกระดาษไข และให้ความร้อน ไขจากกระดาษละลายและดูดเอาหมึกจากแผ่นสังกะสีให้ติดอยู่บนแผ่นกระดาษ ในที่สุดสำเนาเอกสารแผ่นแรกได้ถือกำเนิดขึ้นในวันที่ 22 ตุลาคม ค.ศ. 1938 หรือเมื่อ 76 ปีที่แล้ว เขานำกระบวนการและเทคนิคดังกล่าวไปจดสิทธิบัตร และนำไปเสนอบริษัทต่างๆ ให้พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานได้จริง แต่ผลปรากฏว่าไม่มีบริษัทไหนให้ความสนใจเลย ในระยะเวลา 6 ปี (ค.ศ. 1939 - 1944) โดนมากกว่า 20 บริษัทปฏิเสธข้อเสนอ รวมถึง 2 บริษัทยักษ์ใหญ่อย่างบริษัท IBM และบริษัท General Electric เขารู้สึกท้อแท้เมื่อโดนปฏิเสธหลายครั้งแต่ไม่ยอมหยุดนำเสนอต่อบริษัทอื่นๆ ในที่สุดสถาบัน Battelle Memorial Institute หน่วยวิจัยที่ไม่แสวงหาผลกำไรก็ให้ความสนใจ และทำสัญญาการพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ของเขา ต่อมาในปี ค.ศ. 1947 สถาบัน Battelle Memorial Institute ได้เซ็นสัญญาพัฒนาเครื่องถ่ายเอกสารกับบริษัท Haloid ผู้ผลิตและจำหน่ายกระดาษอัดรูป ในอีก 2 ปีถัดมา บริษัท Haloid ก็เปิดตัวเครื่องถ่ายเอกสารรุ่นแรกชื่อ Model A แต่ไม่เป็นที่ยอมรับ เนื่องจากการทำสำเนาเอกสารแต่ละแผ่นใช้เวลาเกือบนาที และใช้งานยากกว่าจะถ่ายได้ต้องทำตามขั้นตอนถึง 14 ขั้นตอน นอกจากนี้หากทำสำเนามากกว่า 12 ชุดเกิดปัญหา ดังนั้นบริษัท Haloid จึงปรับปรุงเครื่อง Model A โดยใช้เวลานานถึง 10 ปี จนปี ค.ศ. 1959 บริษัทซึ่งเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น XEROX เรียบร้อยแล้วได้เปิดตัวเครื่องถ่ายเอกสาร Model 914 ออกมา และประสบความสำเร็จในการขายอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ Chester Carlson กลายเป็นมหาเศรษฐีใหม่ในที่สุดThe operation of photocopiersวางเอกสารต้นฉบับคว่ำลงบนกระจกใสด้านบนของเครื่องถ่ายเอกสาร ปิดฝาลงและกดปุ่ม เครื่องจะทำสำเนาเอกสาร หลังจากกดปุ่มจะมีแสงสว่างลอดออกมาจากบริเวณที่วางเอกสารลงไปคือ แสงจากหลอดฟลูโอเรสเซนซ์หรือหลอดฮาโลเจนที่ส่องไปบนเอกสารต้นฉบับ เพื่อให้เกิดแสงสะท้อน ตัวอักษรหรือภาพบนกระดาษซึ่งมีสีดำจะไม่สะท้อนแสง ในขณะที่บริเวณสีขาวของกระดาษจะสะท้อนแสงได้ดี แสงสะท้อนนี้จะส่องไปยังพื้นผิวของลูกกลิ้งซึ่งมีประจุบวกกระจายอยู่อย่างสม่ำเสมอ แสงที่กระทบพื้นผิวจะทำให้เกิดประจุลบซึ่งจะหักล้างกับประจุบวกที่มีอยู่เดิม ส่วนบริเวณที่ไม่โดนแสงเนื่องจากตัวอักษรดูดกลืนแสงจากหลอดไฟไว้จะยังคงมีประจุบวกเช่นเดิม ถ้าสามารถมองเห็นได้ก็จะเห็นประจุบวกเรียงตัวกันเป็นรูปภาพหรือตัวอักษรตามแบบต้นฉบับ เพียงแต่กลับด้านเหมือนภาพจากกระจกเงา ต่อมาเครื่องจะเป่าผงหมึกที่มีประจุลบไปยังลูกกลิ้ง เมื่อลูกกลิ้งหมุนด้านที่มีประจุบวกเข้าหาผงหมึก พื้นผิวที่มีประจุบวกจะดึงดูดผงหมึกที่มีประจุลบให้ติดอยู่บนลูกกลิ้ง ขั้วไฟฟ้าภายในเครื่องจะส่งประจุบวกให้กระดาษเปล่า กระดาษแผ่นนี้จะหมุนไปตามลูกลิ้ง เมื่อผ่านบริเวณที่มีผงหมึกเกาะอยู่ ประจุบวกบนกระดาษจะดึงดูดผงหมึกจากลูกกลิ้งให้เกาะติดบนกระดาษแทน และเมื่อผ่านความร้อนผงหมึกจะละลายซึมติดแน่นในเนื้อกระดาษ ได้เป็นสำเนาเอกสารในที่สุด โดยใช้เวลาไม่ถึง 10 วินาที
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:[สำเนา]
คัดลอก!

History of copiers , copier was invented. The company's patent attorney PR Mallory and Co Inc. named Chester Carlson, who completed a Bachelor in Physics. And worked as a research engineer at Bell Telephone Laboratories before turning to work as a patent attorney at the patent office. Which is causing him to make copies of documents and a lot of duplication in those days, but not to make copies of documents. And still can not make copies quickly enough, such as using carbon paper. Direct imaging with a camera. And bringing the document to a typist reprinted here makes Chester idea was that these offices. Certainly appreciate If there is a tool to copy accurately and quickly. So he spent the evening immersed in the library for months. To learn about reproduction as much as he can find. After studying previous research. His research found that the interest of the Hungarian physicist named Paul Selenyi that the image generated by static electricity. (Electrostatic image), using some materials that conduct electricity better when light is incident. To prove such research, he and his assistant, the German physicist Otto Kornei. The pilot sulfur coating on a zinc plate. After that, contrary to ESD zinc plate with a handkerchief. Then the thin glass sheets that typing "10-22-38 ASTORIA" put on a zinc plate. Later closed all channels light. So that the environment is dark as much as possible. And emits light from the lamp onto a glass plate for a moment. Then pull out a sheet of glass Live Cattle Depot Stadium and throws powder on the sulfur coating powder Live Cattle Depot Stadium, gently blow them out gently. The result is powder Live Cattle Depot Stadium, some mounted on a surface similar to the text on a sheet of glass. Then he makes the text appear permanently grafted to the paper. And heating Wax melts and absorbs the ink from the paper zinc sheets stuck on the paper. The first copy of the disc was born on October 22, 1938 or when 76 years ago he led the patented process and techniques. And presented to various companies To develop a product that actually works. The results show that the company is not interested at all in the six-year period (AD 1939-1944) by more than 20 companies rejected the proposal includes two giant companies like IBM and General Electric when he felt discouraged. rejected several times, but did not stop to offer other companies. The research institute Battelle Memorial Institute, a non-profit was interested. And a contract to develop his invention, later in 1947, the Institute Battelle Memorial Institute have signed a development contract with the Haloid company copier manufacturer and supplier of printing paper in the next two years, Haloid company was launched. Copy the first name Model A but not accepted. The copying each piece takes almost a minute. And work harder to have taken steps to 14 steps, if more than 12 sets of reproduction problems, thus improving the company Haloid Model A takes up to 10 years until 1959, the company. which renamed the XEROX successfully launched photocopier Model 914 comes out and succeeded in selling rapidly, resulting Chester Carlson became wealthy in the operation of the machine Place the original face down. clear glass on top of the copier. Close the lid and press down Copy machine After pressing the button will light trickled out of the area put into the document. Light from fluorescent Torres Plaisance or halogen lamps to illuminate the original document. To reflect light Letters or pictures on paper with black non-reflective. While the white paper will reflect light well. This reflected light is shone onto the surface of the roller, which has a positive charge is distributed evenly. The light hitting the surface will cause a negative charge, which offset the positive charge that has ever existed. The areas not hit by light absorption due to the character of the lamp will remain positive as ever. You can see it will see positive ions arranged as a picture or character on the original model. Just back from a mirror-like image. Later, it will blow the toner has a negative charge to the roller. When the rollers rotate toward the positively charged toner. The surface has a positive charge will attract negatively charged toner to stick on the roller. Electrodes inside the device will send a positive charge to the paper. This paper will be rotated according to Roller. When the toner area is perched. The positive charge on the paper to attract the toner from the drum sticks on paper. The heat will melt the toner adhesion on paper. A copy of the document It takes less than 10 seconds.





การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:[สำเนา]
คัดลอก!



who invented history of photocopying photocopying. Patent attorney of the company P.R. Mallory and Co Inc.The name Chester Carlson which succeeded bachelor's degree in physics. And worked as a research engineer at the company Bell Telephone Laboratories prior to working as a patent attorney at the patent office. Where he copied documents.But how to in those days is not to copy many. And I still can't reproduce fast enough, such as the use of carbon paper document directly, ด้วยกล้องถ่ายรูป photography And application of a document to a reprint, this makes typingRealize the various office would certainly be impressed. If the copy document tools correctly and quickly. So he spent the evening immersed himself in the library for a month.After studies earlier. He found interesting research of physicists Paul Hungarian name Selenyi mentioned images created by electrostatic (electrostatic. Image).To prove such research, he and his assistant was Otto Kornei physicist. Try the brimstone coating on galvanized sheet. After polishing, galvanized sheet with a handkerchief to static electricity.
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: