บทคัดย่อ การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึก

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาเชิงพรรณนา (Descriptive Study) เป็นการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรมการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืช ของเกษตรกรกลุ่มเสี่ยง เขตพื้นที่ตำบลยาง อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ได้เก็บรวมรวมข้อมูลใช้การหาค่าสัดส่วนประชากรขนาดเล็ก ได้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 282 คน เครื่องมือที่ใช้คือแบบสอบถาม สร้างขึ้นจากการศึกษาค้นคว้างานวิจัยที่เกี่ยวข้อง วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าความสัมพันธ์ทางสถิติ Pearson Correlation
ผลการศึกษาพบว่า เกษตรกรกลุ่มเสี่ยงที่ศึกษา ส่วนใหญ่ เป็นเพศชายร้อยละ77.3 ส่วนมากมีอายุ อยู่ระหว่าง 41-50 ปี ร้อยละ 43.3 สถานภาพสมรส คู่ ร้อยละ 91.5 มีระดับการศึกษาอยู่ในระดับ ประถมศึกษา ร้อยละ 51.8 รายได้เฉลี่ยต่อปี ระหว่าง 10,001-50,000 บาท ร้อยละ 53.9 ชนิดของพืชที่ทำการเพาะปลูก ส่วนใหญ่ปลูกข้าว ร้อยละ 90.8 ชนิดของสารเคมีที่ใช้ ส่วนใหญ่ใช้ยาฆ่าหญ้า ร้อยละ 70.6 ระยะเวลาใช้สารเคมี ส่วนใหญ่มีการใช้สารเคมีมาแล้ว 3-6 ปี ร้อยละ 35.8 จำนวนพื้นที่ในการใช้สารเคมี ส่วนใหญ่มากกว่า 10 ไร่ ร้อยละ 44.3 ช่วงระยะเวลาที่ฉีดพ่นสารเคมี ส่วนใหญ่มีช่วงเวลาการฉีดพ่นสารเคมี มากกว่า 4 ชั่วโมง/ครั้ง ร้อยละ 41.1 การศึกษาด้านความรู้ พบว่าเกษตรกรส่วนใหญ่มีความรู้ในการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืช อยู่ในระดับสูง ร้อยละ 67.0 การศึกษาด้านทัศนคติ พบว่า เกษตรกรกลุ่มเสี่ยง มีทัศนคติการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืช อยู่ในระดับดี ร้อยละ 81.6 ค่าเฉลี่ย 2.47 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.23 การศึกษาด้านการปฏิบัติ พบว่าเกษตรกรกลุ่มเสี่ยง มีการปฏิบัติในการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืช อยู่ในระดับดี ร้อยละ 93.6 ค่าเฉลี่ย 2.70 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.22 และการศึกษาความสัมพันธ์สัมพันธ์ พบว่า ความรู้ เกี่ยวกับการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชของเกษตรกรกลุ่มเสี่ยง กับการปฏิบัติในการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชของเกษตรกรกลุ่มเสี่ยง มีความสัมพันธ์กันในทิศทางเดียวกัน และสัมพันธ์กันในระดับน้อยมาก อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ (p≤ .001) r = 0.279 และ ทัศนคติในการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชของเกษตรกรกลุ่มเสี่ยง กับการปฏิบัติในการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชของเกษตรกรกลุ่มเสี่ยง มีความสัมพันธ์กันในทิศทางเดียวกัน และสัมพันธ์กันในระดับน้อยมาก อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ (p≤.001) r = 0.286 กล่าวคือ การแสดงออกทางพฤติกรรมของบุคคลเกิดจากความสัมพันธ์ระหว่างความรู้ ทัศนคติ ถ้าบุคคลมีความรู้ ก็มักจะก่อเกิด ทัศนคติ ต่อเรื่องนั้นในลักษณะนั้นซึ่งจะส่งผลต่อ การปฏิบัติ หรือพฤติกรรมการแสดงออกที่สังเกตได้
ผู้ศึกษาจึงมีข้อเสนอแนะแก่ผู้บังคับบัญชา และบุคลากรทางสาธารณสุข ให้มีการจัดอบรมให้ความรู้ เพื่อเพิ่มทักษะในการป้องกันโรคจากการใช้สารเคมี ให้แก่เกษตรกรกลุ่มเสี่ยง เพื่อจะได้มีความรู้ ทัศนคติ การปฏิบัติที่ถูกต้องอย่างยั่งยืน และให้มีบริการตรวจหา สารเคมีตกค้างในกระแสเลือด (โคลีนเอสเตอเรส) อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

Abstract The study is a study of description (Descriptive Study) is the study of the relationship between knowledge, attitude and behavior to use chemicals to get rid of the pest threat prevented the metaphor used was mainly rubber bottom water district, a zone province Ubon Ratchathani, collected data is used to find the proportion of the population, a small number of samples were 282 people, a tool that is used in the query. Based on research and related research. Analyze data with statistics. Per cent average, standard deviation and statistical Correlation Pearson correlation values. ผลการศึกษาพบว่า เกษตรกรกลุ่มเสี่ยงที่ศึกษา ส่วนใหญ่ เป็นเพศชายร้อยละ77.3 ส่วนมากมีอายุ อยู่ระหว่าง 41-50 ปี ร้อยละ 43.3 สถานภาพสมรส คู่ ร้อยละ 91.5 มีระดับการศึกษาอยู่ในระดับ ประถมศึกษา ร้อยละ 51.8 รายได้เฉลี่ยต่อปี ระหว่าง 10,001-50,000 บาท ร้อยละ 53.9 ชนิดของพืชที่ทำการเพาะปลูก ส่วนใหญ่ปลูกข้าว ร้อยละ 90.8 ชนิดของสารเคมีที่ใช้ ส่วนใหญ่ใช้ยาฆ่าหญ้า ร้อยละ 70.6 ระยะเวลาใช้สารเคมี ส่วนใหญ่มีการใช้สารเคมีมาแล้ว 3-6 ปี ร้อยละ 35.8 จำนวนพื้นที่ในการใช้สารเคมี ส่วนใหญ่มากกว่า 10 ไร่ ร้อยละ 44.3 ช่วงระยะเวลาที่ฉีดพ่นสารเคมี ส่วนใหญ่มีช่วงเวลาการฉีดพ่นสารเคมี มากกว่า 4 ชั่วโมง/ครั้ง ร้อยละ 41.1 การศึกษาด้านความรู้ พบว่าเกษตรกรส่วนใหญ่มีความรู้ในการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืช อยู่ในระดับสูง ร้อยละ 67.0 การศึกษาด้านทัศนคติ พบว่า เกษตรกรกลุ่มเสี่ยง มีทัศนคติการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืช อยู่ในระดับดี ร้อยละ 81.6 ค่าเฉลี่ย 2.47 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.23 การศึกษาด้านการปฏิบัติ พบว่าเกษตรกรกลุ่มเสี่ยง มีการปฏิบัติในการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืช อยู่ในระดับดี ร้อยละ 93.6 ค่าเฉลี่ย 2.70 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.22 และการศึกษาความสัมพันธ์สัมพันธ์ พบว่า ความรู้ เกี่ยวกับการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชของเกษตรกรกลุ่มเสี่ยง กับการปฏิบัติในการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชของเกษตรกรกลุ่มเสี่ยง มีความสัมพันธ์กันในทิศทางเดียวกัน และสัมพันธ์กันในระดับน้อยมาก อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ (p≤ .001) r = 0.279 และ ทัศนคติในการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชของเกษตรกรกลุ่มเสี่ยง กับการปฏิบัติในการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชของเกษตรกรกลุ่มเสี่ยง มีความสัมพันธ์กันในทิศทางเดียวกัน และสัมพันธ์กันในระดับน้อยมาก อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ (p≤.001) r = 0.286 กล่าวคือ การแสดงออกทางพฤติกรรมของบุคคลเกิดจากความสัมพันธ์ระหว่างความรู้ ทัศนคติ ถ้าบุคคลมีความรู้ ก็มักจะก่อเกิด ทัศนคติ ต่อเรื่องนั้นในลักษณะนั้นซึ่งจะส่งผลต่อ การปฏิบัติ หรือพฤติกรรมการแสดงออกที่สังเกตได้ ผู้ศึกษาจึงมีข้อเสนอแนะแก่ผู้บังคับบัญชา และบุคลากรทางสาธารณสุข ให้มีการจัดอบรมให้ความรู้ เพื่อเพิ่มทักษะในการป้องกันโรคจากการใช้สารเคมี ให้แก่เกษตรกรกลุ่มเสี่ยง เพื่อจะได้มีความรู้ ทัศนคติ การปฏิบัติที่ถูกต้องอย่างยั่งยืน และให้มีบริการตรวจหา สารเคมีตกค้างในกระแสเลือด (โคลีนเอสเตอเรส) อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

Abstract: This study was a descriptive study (Descriptive Study) explores the relationship between knowledge, attitudes and behavior of chemical pesticides. Farmers risk groups Yang Ban Nam Yuen district of Ubon Ratchathani. The collected information is used to determine the proportion of the population is small. The sample consisted of 282 questionnaires were used. Built from research related research. Data were analyzed by percentage, mean, standard deviation. And the statistical correlation Pearson Correlation study found. Farmers vulnerable groups of mostly male 77.3 percent. Most were between 41-50 years, 43.3 percent were married, 91.5 percent have a degree in elementary education, 51.8 percent of income per year between 10001-50000 baht 53.9 percent of the cultivated plants. Most rice 90.8 percent of the chemicals used. Most of the kill 70.6 percent uptime chemicals. Most of the chemicals already 3-6 years, 35.8 percent of the space in the use of chemicals. Most of the more than 10 hectares of 44.3 percent during the spraying. Most of the time the spraying of more than 4 hours / time 41.1 percent of education knowledge. Found that most farmers are knowledgeable in the use of chemical pesticides. At a high level, 67.0 per cent of the research found that farmers risk. Attitude to the use of chemical pesticides. Good level of 81.6 percent, average, standard deviation 2.47 0.23 Education practice. Farmers found that vulnerable groups With practice in the use of chemical pesticides. Good level of 93.6 per cent on average 2.70 standard deviation 0.22, and the study found that the relationship between knowledge about the use of chemical pesticides by farmers at risk. With practice in the use of chemical pesticides by farmers at risk. A relationship in the same direction. And relate to a low level. Level of statistical significance (p≤ .001) r = 0.279 and attitudes in the use of chemical pesticides by farmers at risk. With practice in the use of chemical pesticides by farmers at risk. A relationship in the same direction. And relate to a low level. Level of statistical significance (p≤.001) r = 0.286, ie the expression of a person's behavior is due to the relationship between knowledge and attitudes if people have knowledge. It's often the attitude towards the subject in a manner that will not affect the performance or behavior observed in the study are recommendations to supervisors. And public health personnel Providing a seminar. To increase the skills in the prevention of the use of chemicals. Risk to farmers In order to have the knowledge, attitudes, practices that were sustainable. And detection services Chemicals in the blood (Choline Trieste Forest), at least 1 time per year.

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

Abstract

.This study was descriptive Descriptive Study) is to study the relationship between the knowledge, attitude and behavior of pesticide usage. Of the risk, tambon Yang Bo kluea district.It gathered data used to find the value of proportion small, subjects were 282 people. The questionnaire. Made up of study related research were analyzed by statistics, percentage, average.