Ford Fiesta There is a time-based evolution can be divided as follows: version 6.Version 1 (b.e. 2519-2526 (1983)) [edit] Ford Fiesta Version 1ฟอร์ด เฟียสตา รุ่นแรก มีความแตกต่างจากรถ Subcompact รุ่นอื่นๆ ในยุคนั้น ตรงที่การออกแบบนั้นได้นำโปรแกรมคอมพิวเตอร์เสมือนจริงมาช่วยในการออกแบบ รวมทั้งมีนวัตกรรมที่ทันสมัยและภายในหรูหรากว่ารถ Subcompact รุ่นอื่นๆ (สมัยนั้น อุปกรณ์เสริมความหรูหรามักติดตั้งในรถขนาดใหญ่ ราคาแพง เกรดสูงๆ ไม่ใช่รถ Subcompact) เช่น กระจกนิรภัย, เข็มขัดนิรภัยดึงกลับอัตโนมัติแบบปรับระดับสูง-ต่ำได้ และอุปกรณ์ไล่ฝ้าที่กระจกหลัง, มูนรูฟ (หน้าต่างบนหลังคา เปิดดูดาวได้) ฯลฯ ซึ่งส่วนมากในยุคนั้นอุปกรณ์ประเภทนี้จะมีในรถขนาดกลางขึ้นไป ซึ่งความทันสมัยดังกล่าวได้กลายเป็นเอกลักษณ์ของเฟียสตาเรื่อยมาถึงปัจจุบันนอกจากนี้การออกแบบโดยใช้โปรแกรมช่วย ทำให้สามารถออกแบบรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีค่าสัมประสิทธิ์ความเสียดทานเพียง 0.42 (ต่ำมากเมื่อเทียบกับรถรุ่นอื่นๆ ในยุคเดียวกัน) ทำให้รถลู่ลม ไม่ต้านลม เครื่องยนต์จึงทำงานเบาลง ส่งผลให้เครื่องยนต์ใช้น้ำมันน้อยลง และยังช่วยให้อัตราเร่งดีขึ้นด้วย โดยเครื่องยนต์รุ่นมาตรฐาน(ลูกสูบเล็กที่สุด) เป็นเครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาด 957 ซีซี ให้กำลัง 40 แรงม้า มีอัตราการใช้น้ำมันอยู่ที่ 17.8 กิโลเมตร/ลิตร (ประหยัดมาก แม้เมื่อเทียบกับรถสมัยใหม่) ส่วนเครื่องยนต์ที่ให้แรงมากกว่า ก็จะนิยมรุ่น 1298 ซีซี ให้กำลัง 66 แรงม้า มีอัตราการใช้น้ำมันอยู่ที่ 16.1 กิโลเมตร/ลิตรIn just three years, as 2522 Ford Fiesta can make a cumulative sales of 1 million vehicles and get another 1 million to 2 million vehicles in the year, total sales at 2524 much faster.Version 2 (b.e. 2526-2532 (1989)) [edit] Ford Fiesta Version 2There are 2 versions of the Fiesta highlights is the engine (local 1298 CC) gasoline and unleaded has a automatic or CVT continuously variable ratios (CVT gearbox using other Japan approximately 2543 etc.). The overview section is the other engine is more environmentally friendly, but are slightly less.But that bizarre and called the attention of the Fiesta is the most commonly mentioned is of a car that has the shape of a car freak, the normal needle needle every general measure are located in Bao Bao, but one big Fiesta version 2 in foreign countries. Each gauge gauges are located in small flasks. Each gauge orbit or not.3rd generation (2532-2540 (1997)) [edit] Ford Fiesta Version 3.เฟียสตารุ่นที่ 3 มีการผลิตรถแฮทช์แบคแบบ 5 ประตูเป็นครั้งแรก (ก่อนหน้านี้มักจะมีแต่แบบ 3 ประตู) เปิดตัวในเดือนกุมภาพันธ์ 2532 ก่อนการเปิดตัว 2 เดือน ต้นแบบรถเฟียสตารุ่นที่ 3 จำนวน 250 คัน ได้ถูกส่งมอบไปให้กลุ่มลูกค้ารายใหญ่ของบริษัท เพื่อเข้าสู่กระบวนการทดสอบรถบนการใช้งานจริง โดยเฟียสตาใหม่ มีระบบควบคุมการหยุด (อังกฤษ: Stop Control System-SCS) และระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (อังกฤษ: Anti-lock Breaking System-ABS) ทำให้มีความน่าเชื่อถือในการใช้งานภายในปีแรกหลังการเปิดตัว ฟอร์ดสามารถขายเฟียสตาใหม่ได้ถึง 500,000 คัน และในปีที่สองมียอดขายสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 649,781 คัน และนอกจากนี้ ยังมีการเสริมระบบความปลอดภัย เช่น เปลี่ยนวัสดุที่บุพวงมาลัยให้สามารถดูดซับแรงกระแทกได้ดีขึ้น เพื่อลดการบาดเจ็บจากการที่ศีรษะกระแทกพวงมาลัยหากรถชน, ติดตั้งถุงลมนิรภัยเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน, ตัวถังที่แข็งแรงขึ้นเพื่อป้องกันการกระแทกจากด้านข้าง, เข็มขัดนิรภัยที่มีระบบดึงกลับและปรับความตึงอัตโนมัติ, เบาะคู่หน้าแบบป้องกันการลื่นไถล, ปุ่มฉุกเฉิน กดเพื่อตัดการจ่ายเชื้อเพลิงออกจากถังในทันทีในกรณีเกิดอุบัติเหตุที่อาจมีเชื้อเพลิงรั่วไหล ดังนั้น ถึงแม้เฟียสตาอาจมีความปลอดภัยต่ำกว่ารถรุ่นอื่นๆ เป็นบางรุ่น ก็เป็นธรรมดาของรถขนาดเล็กที่มีความสามารถในการปกป้องผู้โดยสารต่ำกว่ารถใหญ่โดยธรรมชาติอยู่แล้ว แต่ถ้าเทียบกับรถขนาดเดียวกันแล้ว ถือว่า "ปลอดภัยไร้เทียมทาน"นอกจากนี้ เฟียสตารุ่น 3 ยังสามารถกวาดรางวัลจากหน่วยงานต่างๆ ได้มากมาย เช่น รางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี 1989 จากนิตยสาร What Car?, รางวัลรถขนาดกะทัดรัดยอดเยี่ยมจากการโหวตของผู้ว่านนิตยสาร Auto, Motor und Sport, รางวัลรถซิตี้คาร์ยอดเยี่ยมจากนิตยสาร Neue Revue, รางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมอันดับ 3 ของยุโรปประจำปี 1990 (อังกฤษ: European Car of the Year)รุ่นที่ 4 (พ.ศ. 2538 - 2545)[แก้] ฟอร์ด เฟียสตา รุ่นที่ 4เฟียสตารุ่นที่ 4 ได้รับการออกแบบใหม่ให้มีความโค้งมนรอบขึ้น เหลี่ยมมุมต่างๆ ถูกแทนที่ด้วยลายเส้นโค้ง ทำให้ลู่ลมได้ดีขึ้น ช่องระบายอากาศด้านล่างถูกเปลี่ยนใหม่, มีแผงไฟขนาดใหญ่ขึ้น, ระบบกันสะเทือนด้านหน้าออกแบบใหม่โดยใช้เหล็กเสริมกันโครง, และด้านหลังมีการออกแบบคานบิดใหม่และติดตั้งระบบควบคุมการยึดเกาะ Traction Control เพื่อเพิ่มความสามารถในการทรงตัว, มีการติดตั้งระบบเบรกแบบ ABS 4 Channel, เครื่องยนต์ใหม่ ประหยัดน้ำมันและปล่อยไอเสียในระดับต่ำ จนได้รางวัล รถยนต์สีเขียวฟอร์ด เฟียสตา รุ่นที่ 4 เป็นรถที่มียอดขายสูงที่สุดในสหราชอาณาจักร 3 ปีซ้อน และมีภาพรวมเป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่ขายดีที่สุดในยุโรปรุ่นที่ 5 (พ.ศ. 2545 - 2551)[แก้] ฟอร์ด เฟียสตา รุ่นที่ 5เฟียสตารุ่นที่ 5 ออกแบบให้ทันสมัยขึ้นอย่างก้าวกระโดด และมีการติดตั้งถุงลมนิรภัยด้านข้างในภาพรวมแล้ว เฟียสตาเริ่มเสื่อมความนิยมลงในแถบยุโรป โดยกลายเป็นรถที่มียอดขายอันดับ 3 รองจาก โอเปิล คอร์ซา (อังกฤษ: Opel Corsa) และ เปอโยต์ 206 (อังกฤษ: Peugeot 206) แต่ยังได้รับความนิยมอย่างสูงสุดในประเทศ บราซิลรุ่นที่ 6 (พ.ศ. 2551 - ปัจจุบัน)[แก้] ฟอร์ด เฟียสตา รุ่นที่ 6ฟอร์ด เฟียสตา รุ่นที่ 6 เปิดตัวในงานแฟรงค์เฟิร์ตมอเตอร์โชว์ 2008 และเริ่มขายตลาดไปทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ที่ฟอร์ดประเทศไทย ได้นำเฟียสตาเข้ามาผลิตและจำหน่าย
การแปล กรุณารอสักครู่..
