สายธารน้ำหลั่งใหลไม่เคยหวนกลับ จิตใจของคนเรานั้นก็เป็นดั่งเหมือนสายน้ำที่เมื่อไหลไปแล้วยากนักที่จะเรียกให้กลับมาได้ สมองเป็นศูนย์กลางควบคุมการกระทำ แต่หัวใจเรานั้นเป็นศูนย์กลางควบคุมความรู้สึก ส่วนการรักใครสักคนก็เช่นเดียวกัน หากรั้งเขาไว้แล้วเอาไม่อยู่ ก็เปรียบดั่งสายธารน้ำที่กำลังใหลเชี่ยว และเหมือนกับสมองที่พร้อมจะสั่งการให้ทำทุกอย่างตามใจต้องการ การมีความรักให้กับคนที่เรารักมันช่างมีความสุข แต่การที่คนที่เรารักนั้นมีความรักให้แก่เราด้วยมันมีความสุขยิ่งกว่าแต่มันจะสั้นแค่เสี้ยววินาทีหรือจะตลอดไปหรือไม่นั้นขึ้นอยู่ที่ตัวเราเป็นคนกำหนด เรื่องมีอยู่ว่า มีสาวน้อยคนหนึ่งได้ไปสถานเริงรมย์ซึ่งเป็นการไปครั้งของเขาขณะที่เขากำลังเต้นอยู่นั้นสายตาของสาวน้อยผู้นั้นก็ไปประสบเข้ากับแววตาของหนุ่มรูปงามที่ยืนร้องเพลงอยู่บนเวทีขณะนั้นแววตาของทั้งคู่ประสานกันเป็นหนึ่งราวกับมีกระแสไฟฟ้าส่งพลังงานให้แก่กัน ภายในใจของสาวน้อยในช่วงเวลาที่เห็นแววตาของหนุ่มหล่อคนนั้นเสียงหัวใจของเธอร้องตะโกนออกมาแค่คำเดียวคือ ‘ฉันจะทำยังไงดี เขามองมาที่ฉันด้วย” หลังจากคืนนั้นไป สาวน้อยก็เริ่มพยามเข้าใกล้ชิดเพื่อจะทำความรู้จักกับหนุ่มหล่อคนนั้นให้มากยิ่งขึ้นและเข้าไปอยู่ในใจของเขา แต่บางครั้งการที่เราจะทำให้ตัวเราไปอยู่ในใจเขานั้นทำได้ง่ายที่ไหนกัน สาวน้อยพยายามเข้าไปคุยกับเขาในfacebook เพราะเป็นทางเดียวที่เข้าถึงตัวเขาได้ง่ายที่สุด ตอนแรกก็เหมือนจะไปได้สวยแต่ก็ล้มเหลวเพราะเขาเป็นคนรำคาญง่ายแต่สาวน้อยยังคงมุ่งมั่นต่อไป สาวน้อยยังคงนึกถึงภาพเธอและหนุ่มหล่อคนนั้นได้เป็นอย่างดีตอนที่พวกเขาทั้งสองจ้องมองกัน และสาวน้อยก็คิดมาตลอดว่า หนุ่มนักร้องคนนั้นต้องมีใจให้เธอด้วยเช่นกัน โดยความจริงแล้วเธอคิดไปเองทั้งหมด ความรักของเธอช่างไร้เดียงสาเสียจริง สาวน้อยได้พูดขอเบอร์หนุ่มหล่อไป แต่ก็ไม่ได้คำตอบอะไรจากเขา และในที่สุดเขาก็หายลับไป ติดต่อไม่ได้ สาวน้อยได้แต่รำพึงรำพันกับตังเองว่า เขาหนีฉันไปแล้ว เขาไปจากฉันแล้ว สาวน้อยเพิ่งเริ่มต้นเรียนรู้ความเจ็บปวดจากคนที่รักและไม่ได้รับความรักจากชายหนุ่มรูปงามผู้นั้น ความรักเป็นสิ่งสวยงาม แต่หากเราใช้มันหาผลประโยชน์เพื่อตัวแก่เราเอง มันจะให้โทษแก่เราอย่างแสนสาหัส ความรักไม่ใช่การโหยหา แต่เป็นการเรียนรู้และเข้าใจกันระหว่างคนสองคน หากเรามองความรักคือการได้ครอบครอง ความทุกข์จะมายืนรอคุณอยู่ข้างหน้าเช่นเดียวกัน…………………………………….