---อินเดียเป็นรัฐเอกราชที่เกิดขึ้นใ

---อินเดียเป็นรัฐเอกราชที่เกิดขึ้นใหม่ แต่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน อย่างน้อยก็สมัยอารยธรรมแห่งลุ่มแม่น้ำสินธุ ซึ่งได้ตั้งขึ้นเมื่อประมาณ ๒๕๐๐ ปีก่อนพุทธกาล

---เมื่อปี พ.ศ.๒๑๗ อเล็กซานเดอร์มหาราชได้เข้ามายึดครองอินเดีย ทำให้อินเดียได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมจากกรีก ต่อมาเมื่อพุทธศตวรรษที่ ๙ พระเจ้าจันทร์คุปต์ที่ ๒ สามารถสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของอินเดียตอนเหนือ

---ในปี พ.ศ.๒๑๔๓ ชาวอังกฤษได้เริ่มเข้ามาค้าขายในอินเดีย พระราชินีเอลิซาเบธ แห่งอังกฤษ ได้มอบสิทธิบัตรให้กับบริษัทอินเดียตะวันออก โดยได้ตั้งศูนย์การค้าใหญ่ที่เมืองบอมเบย์ กัลกัตตา และมัทราส

---ในปี พ.ศ.๒๔๐๑ รัฐบาลอังกฤษได้ยุบบริษัทอินเดียตะวันออก และเข้าปกครองอินเดียโดยตรง

---ในปี พ.ศ.๒๔๖๓ โบฮันธาส การามจันท์ คานธี ผู้นำอินเดียได้ใช้วิธีอหิงสา และสามารถทำให้อินเดียได้รับเอกราชเป็นขั้น ๆ ในเวลาต่อมา

---ในปี พ.ศ.๒๔๙๐ นายกรัฐมนตรีแอตลี ของอังกฤษได้ประกาศเจตนาของรัฐบาลอังกฤษ ที่จะมอบอำนาจปกครองให้อินเดีย เนื่องจากมีความแตกแยกกัน ระหว่างฝ่ายมุสลิมกับฮินดู เกิดเป็นการจลาจลที่รุนแรง และแผ่ขยายทั่วประเทศ จึงต้องแบ่งแยกอินเดียออกเป็นสองประเทศคือ อินเดียกับปากีสถาน อินเดียประกาศเอกราชในปีเดียวกันนั้น

---หลังจากได้รับเอกราช สภาร่างรัฐธรรมนูญได้ร่างรัฐธรรมนูญกำหนดแนวทางในการปกครองประเทศไว้ครบทุกด้าน ทั้งระดับชาติ และระดับรัฐ ทำให้รัฐธรรมนูญอินเดียมีความยาวที่สุดในโลก มีบทบัญญัติถึง ๓๙๕ มาตรา ประกาศใช้เมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๓ ประกาศตนเป็นสาธารณรัฐ มีประธานาธิบดีเป็นประมุข แต่ยังคงยอมรับประมุขของอังกฤษว่า เป็นประมุขของเครือจักรภพอังกฤษ ซึ่งอินเดียรวมเป็นสมาชิกอยู่ด้วย

---โครงสร้างทางการเมือง อินเดียได้นำเอาวิธีการจัดแบ่งอำนาจหน้าที่ทางการเมือง และการปกครองของสถาบันต่าง ๆ มาจากระบบของอังกฤษคือ

*ประธานาธิบดี

---มีฐานะเป็นประมุขของประเทศที่ปกครองในระบบรัฐสภาคือ มีฐานะอยู่เหนือการเมือง และใช้อำนาจหน้าที่ตามพิธีการเท่านั้น ตามปกติประธานาธิบดีจะใช้อำนาจของตนผ่านคณะรัฐมนตรี โดยนายกรัฐมนตรีจะทำหน้าที่เป็นผู้แนะนำให้ประธานาธิบดี ใชัอำนาจในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง

---ประธานาธิบดีอินเดียได้รับเลือกตั้งโดยทางอ้อมจากประชาชน ผู้มีสิทธิเลือกตั้งประธานาธิบดีคือ สมาชิกสภาทั้งสองสภาของรัฐบาลกลาง และสมาชิกสภานิติบัญญัติของรัฐต่าง ๆ ๒๑ มลรัฐ

*อำนาจหน้าที่ของประธานาธิบดีอินเดีย แบ่งออกเป็นสามประเภทคือ

---อำนาจบริหาร มีอำนาจหน้าที่ต่าง ๆ ในฐานะประมุขของชาติ และเป็นตัวแทนของประชาชนอินเดียทั้งมวล ซึ่งรวมถึงด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

---อำนาจนิติบัญญัติ มีอำนาจในการลงนามประกาศใช้ หรือยับยั้งกฎหมายต่าง ๆ ออกกฤษฎีกาต่าง ๆ นอกสมัยประชุมรัฐสภา เป็นต้น

---อำนาจฉุกเฉิน มีอำนาจประกาศภาวะฉุกเฉิน ในกรณีที่ความมั่นคงของชาติถูกคุกคาม กลไกการปกครองตามรัฐธรรมนูญ ในส่วนมลรัฐถูกทำลาย และเมื่อเกิดวิกฤตทางการคลังในประเทศ หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของประเทศ

*คณะรัฐมนตรี

---เป็นเพียงที่ปรึกษาแนะนำ และช่วยเหลือประธานาธิบดีในการปฎิบัติหน้าที่ โดยประธานาธิบดีเป็นผู้แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ตามคำเสนอของนายกรัฐมนตรี ประธานาธิบดีจะต้องแต่งตั้งหน้าที่พรรคที่มีเสียงข้างมาก ในสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายก ผู้ที่จะได้รับแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรี อาจไม่ได้เป็นสมาชิกรัฐสภาก็ได้ แต่มีเงื่อนไขว่า ถ้าผู้ใดจะเป็นรัฐมนตรีเกินกว่า ๖ เดือนได้ จะต้องจัดการให้ผู้นั้น เป็นสมาชิกสภาใดสภาหนึ่ง ภายใน ๖ เดือน

---คณะรัฐมนตรีจะต้องลาออกจากตำแหน่ง เมื่อไม่ได้รับความไว้วางใจจากสภาผู้แทน แต่คณะรัฐมนตรีอาจขอให้ประมุขยุบสภาได้ ซึ่งจะมีผลให้มีการเลือกตั้งใหม่

---สภารัฐมนตรี (Council of Ministers) มีนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้า รับผิดชอบต่อสภาผู้แทนราษฎร นายกรัฐมนตรีเป็นสื่อติดต่อระหว่างประธานาธิบดี และสภารัฐมนตรีในกิจการทุกอย่าง สภารัฐมนตรีประกอบด้วยรัฐมนตรีสามประเภทคือ ประเภทที่ ๑ รัฐมนตรีที่เป็นสมาชิกในคณะรัฐมนตรี มีสิทธิเข้าร่วมประชุมในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เป็นผู้กำหนดและวางนโยบายของรัฐบาล ประเภทที่ ๒ รัฐมนตรีที่มิได้เป็นสมาชิกในคณะรัฐมนตรี ประเภทที่ ๓ รองนายกรัฐมนตรี

*รัฐสภา

---ประกอบด้วยสภาสองสภาคือ

---สภาแห่งรัฐหรือวุฒิสภา (Council of State) อินเดียเรียก ราชยสภา (Rajaya Sabha) ประกอบด้วยสมาชิกที่ได้รับการเลือกตั้ง หรือแต่งตั้งมาจากสภาต่าง ๆ ของรัฐ ๒๒ รัฐ มีสมาชิกไม่มากกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกในสภาผู้แทนราษฎร และต้องไม่มากกว่า ๒๕๐ คน ซึ่งในจำนวนนี้มี ๑๒ คนได้รับแต่งตั้งจากประธานาธิบดี

---สภาสูงจะถูกยุบไม่ได้ สมาชิกอยู่ในตำแหน่ง ๖ ปี แต่ทุก ๆ ๒ ปีจะต้องออกไป ๑ ใน ๓ สภานี้มีรองประธานาธิบดี เป็นประธานสภาโดยตำแหน่ง

---สภาแห่งรัฐมีอำนาจหน้าที่ในการออกกฎหมายเหมือนกับสภาผู้แทนราษฎรทุกอย่าง กฎหมายใดที่ผ่านจากสภาผู้แทนราษฎรแล้ว แต่สภาแห่งรัฐไม่อนุมัติ กฎหมายนั้นออกบังคับไม่ได้ มีอำนาจควบคุมการบริหารรัฐการแผ่นดินโดยการตั้งกระทู้ถาม ไม่ผ่านกฎหมายงบประมาณของรัฐบาล และมีอำนาจแก้ไขรัฐธรรมนูญ

---สภาผู้แทนราษฎร (House of People) อินเดียเรียกว่า โลกสภา (Lok Sabha) ประกอบด้วยสมาชิกที่ได้รับเลือกตั้ง โดยตรงจากประชาชน มีจำนวนไม่เกิน ๕๐๐ คน จากมลรัฐทั้งหมด และไม่เกิน ๒๕ คน จากดินแดนที่อยู่ในปกครองของรัฐบาลกลางที่ไม่มีฐานะเป็นรัฐ นอกจากนี้ ประธานาธิบดียังมีสิทธิแต่งตั้งผู้แทนราษฎร เพื่อเป็นตัวแทนของชนกลุ่มน้อยไม่เกิน ๒ คน

---การเลือกตั้งเป็นแบบแบ่งเขต แต่ละเขตจะเลือกผู้แทนได้คนเดียว สภามีอายุ ๕ ปี ประชาชนอินเดียที่มีสิทธิเลือกตั้ง จะต้องมีอายุไม่น้อยกว่า ๒๑ ปีบริบูรณ์ในวันเลือกตั้ง ให้มีคณะกรรมการเลือกตั้งเป็นสถาบันอิสระ มีหน้าที่จัดทำบัญชีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และควบคุมการเลือกตั้งระดับชาติและระดับรัฐ

---รัฐสภามีหน้าที่สำคัญสองประการเหมือนกับรัฐสภาอังกฤษ คือการออกกฎหมายและการควบคุมการบริหารรัฐการของคณะรัฐมนตรี

*ศาล

---รัฐธรรมนูญกำหนดให้มีศาลสูงสุด (Supreme Court) หนึ่งศาล ประกอบด้วยประธานศาลสูงสุดและผู้พิพากษาอื่นอีกไม่เกิน ๑๓ คน ศาลสูง (High Court) มีประจำรัฐต่าง ๆ รัฐละ ๑ แห่ง และศาลชั้นต้น (Primar Court) มีประจำในแต่ละเขต ภายในรัฐต่าง ๆ แบ่งเ

---เมื่อปี พ.ศ.๒๑๗ อเล็กซานเดอร์มหาราชได้เข้ามายึดครองอินเดีย ทำให้อินเดียได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมจากกรีก ต่อมาเมื่อพุทธศตวรรษที่ ๙ พระเจ้าจันทร์คุปต์ที่ ๒ สามารถสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของอินเดียตอนเหนือ

---ในปี พ.ศ.๒๑๔๓ ชาวอังกฤษได้เริ่มเข้ามาค้าขายในอินเดีย พระราชินีเอลิซาเบธ แห่งอังกฤษ ได้มอบสิทธิบัตรให้กับบริษัทอินเดียตะวันออก โดยได้ตั้งศูนย์การค้าใหญ่ที่เมืองบอมเบย์ กัลกัตตา และมัทราส

---ในปี พ.ศ.๒๔๐๑ รัฐบาลอังกฤษได้ยุบบริษัทอินเดียตะวันออก และเข้าปกครองอินเดียโดยตรง

---ในปี พ.ศ.๒๔๖๓ โบฮันธาส การามจันท์ คานธี ผู้นำอินเดียได้ใช้วิธีอหิงสา และสามารถทำให้อินเดียได้รับเอกราชเป็นขั้น ๆ ในเวลาต่อมา

---ในปี พ.ศ.๒๔๙๐ นายกรัฐมนตรีแอตลี ของอังกฤษได้ประกาศเจตนาของรัฐบาลอังกฤษ ที่จะมอบอำนาจปกครองให้อินเดีย เนื่องจากมีความแตกแยกกัน ระหว่างฝ่ายมุสลิมกับฮินดู เกิดเป็นการจลาจลที่รุนแรง และแผ่ขยายทั่วประเทศ จึงต้องแบ่งแยกอินเดียออกเป็นสองประเทศคือ อินเดียกับปากีสถาน อินเดียประกาศเอกราชในปีเดียวกันนั้น

---หลังจากได้รับเอกราช สภาร่างรัฐธรรมนูญได้ร่างรัฐธรรมนูญกำหนดแนวทางในการปกครองประเทศไว้ครบทุกด้าน ทั้งระดับชาติ และระดับรัฐ ทำให้รัฐธรรมนูญอินเดียมีความยาวที่สุดในโลก มีบทบัญญัติถึง ๓๙๕ มาตรา ประกาศใช้เมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๓ ประกาศตนเป็นสาธารณรัฐ มีประธานาธิบดีเป็นประมุข แต่ยังคงยอมรับประมุขของอังกฤษว่า เป็นประมุขของเครือจักรภพอังกฤษ ซึ่งอินเดียรวมเป็นสมาชิกอยู่ด้วย

---โครงสร้างทางการเมือง อินเดียได้นำเอาวิธีการจัดแบ่งอำนาจหน้าที่ทางการเมือง และการปกครองของสถาบันต่าง ๆ มาจากระบบของอังกฤษคือ

*ประธานาธิบดี

---มีฐานะเป็นประมุขของประเทศที่ปกครองในระบบรัฐสภาคือ มีฐานะอยู่เหนือการเมือง และใช้อำนาจหน้าที่ตามพิธีการเท่านั้น ตามปกติประธานาธิบดีจะใช้อำนาจของตนผ่านคณะรัฐมนตรี โดยนายกรัฐมนตรีจะทำหน้าที่เป็นผู้แนะนำให้ประธานาธิบดี ใชัอำนาจในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง

---ประธานาธิบดีอินเดียได้รับเลือกตั้งโดยทางอ้อมจากประชาชน ผู้มีสิทธิเลือกตั้งประธานาธิบดีคือ สมาชิกสภาทั้งสองสภาของรัฐบาลกลาง และสมาชิกสภานิติบัญญัติของรัฐต่าง ๆ ๒๑ มลรัฐ

*อำนาจหน้าที่ของประธานาธิบดีอินเดีย แบ่งออกเป็นสามประเภทคือ

---อำนาจบริหาร มีอำนาจหน้าที่ต่าง ๆ ในฐานะประมุขของชาติ และเป็นตัวแทนของประชาชนอินเดียทั้งมวล ซึ่งรวมถึงด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

---อำนาจนิติบัญญัติ มีอำนาจในการลงนามประกาศใช้ หรือยับยั้งกฎหมายต่าง ๆ ออกกฤษฎีกาต่าง ๆ นอกสมัยประชุมรัฐสภา เป็นต้น

---อำนาจฉุกเฉิน มีอำนาจประกาศภาวะฉุกเฉิน ในกรณีที่ความมั่นคงของชาติถูกคุกคาม กลไกการปกครองตามรัฐธรรมนูญ ในส่วนมลรัฐถูกทำลาย และเมื่อเกิดวิกฤตทางการคลังในประเทศ หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของประเทศ

*คณะรัฐมนตรี

---เป็นเพียงที่ปรึกษาแนะนำ และช่วยเหลือประธานาธิบดีในการปฎิบัติหน้าที่ โดยประธานาธิบดีเป็นผู้แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ตามคำเสนอของนายกรัฐมนตรี ประธานาธิบดีจะต้องแต่งตั้งหน้าที่พรรคที่มีเสียงข้างมาก ในสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายก ผู้ที่จะได้รับแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรี อาจไม่ได้เป็นสมาชิกรัฐสภาก็ได้ แต่มีเงื่อนไขว่า ถ้าผู้ใดจะเป็นรัฐมนตรีเกินกว่า ๖ เดือนได้ จะต้องจัดการให้ผู้นั้น เป็นสมาชิกสภาใดสภาหนึ่ง ภายใน ๖ เดือน

---คณะรัฐมนตรีจะต้องลาออกจากตำแหน่ง เมื่อไม่ได้รับความไว้วางใจจากสภาผู้แทน แต่คณะรัฐมนตรีอาจขอให้ประมุขยุบสภาได้ ซึ่งจะมีผลให้มีการเลือกตั้งใหม่

---สภารัฐมนตรี (Council of Ministers) มีนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้า รับผิดชอบต่อสภาผู้แทนราษฎร นายกรัฐมนตรีเป็นสื่อติดต่อระหว่างประธานาธิบดี และสภารัฐมนตรีในกิจการทุกอย่าง สภารัฐมนตรีประกอบด้วยรัฐมนตรีสามประเภทคือ ประเภทที่ ๑ รัฐมนตรีที่เป็นสมาชิกในคณะรัฐมนตรี มีสิทธิเข้าร่วมประชุมในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เป็นผู้กำหนดและวางนโยบายของรัฐบาล ประเภทที่ ๒ รัฐมนตรีที่มิได้เป็นสมาชิกในคณะรัฐมนตรี ประเภทที่ ๓ รองนายกรัฐมนตรี

*รัฐสภา

---ประกอบด้วยสภาสองสภาคือ

---สภาแห่งรัฐหรือวุฒิสภา (Council of State) อินเดียเรียก ราชยสภา (Rajaya Sabha) ประกอบด้วยสมาชิกที่ได้รับการเลือกตั้ง หรือแต่งตั้งมาจากสภาต่าง ๆ ของรัฐ ๒๒ รัฐ มีสมาชิกไม่มากกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกในสภาผู้แทนราษฎร และต้องไม่มากกว่า ๒๕๐ คน ซึ่งในจำนวนนี้มี ๑๒ คนได้รับแต่งตั้งจากประธานาธิบดี

---สภาสูงจะถูกยุบไม่ได้ สมาชิกอยู่ในตำแหน่ง ๖ ปี แต่ทุก ๆ ๒ ปีจะต้องออกไป ๑ ใน ๓ สภานี้มีรองประธานาธิบดี เป็นประธานสภาโดยตำแหน่ง

---สภาแห่งรัฐมีอำนาจหน้าที่ในการออกกฎหมายเหมือนกับสภาผู้แทนราษฎรทุกอย่าง กฎหมายใดที่ผ่านจากสภาผู้แทนราษฎรแล้ว แต่สภาแห่งรัฐไม่อนุมัติ กฎหมายนั้นออกบังคับไม่ได้ มีอำนาจควบคุมการบริหารรัฐการแผ่นดินโดยการตั้งกระทู้ถาม ไม่ผ่านกฎหมายงบประมาณของรัฐบาล และมีอำนาจแก้ไขรัฐธรรมนูญ

---สภาผู้แทนราษฎร (House of People) อินเดียเรียกว่า โลกสภา (Lok Sabha) ประกอบด้วยสมาชิกที่ได้รับเลือกตั้ง โดยตรงจากประชาชน มีจำนวนไม่เกิน ๕๐๐ คน จากมลรัฐทั้งหมด และไม่เกิน ๒๕ คน จากดินแดนที่อยู่ในปกครองของรัฐบาลกลางที่ไม่มีฐานะเป็นรัฐ นอกจากนี้ ประธานาธิบดียังมีสิทธิแต่งตั้งผู้แทนราษฎร เพื่อเป็นตัวแทนของชนกลุ่มน้อยไม่เกิน ๒ คน

---การเลือกตั้งเป็นแบบแบ่งเขต แต่ละเขตจะเลือกผู้แทนได้คนเดียว สภามีอายุ ๕ ปี ประชาชนอินเดียที่มีสิทธิเลือกตั้ง จะต้องมีอายุไม่น้อยกว่า ๒๑ ปีบริบูรณ์ในวันเลือกตั้ง ให้มีคณะกรรมการเลือกตั้งเป็นสถาบันอิสระ มีหน้าที่จัดทำบัญชีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และควบคุมการเลือกตั้งระดับชาติและระดับรัฐ

---รัฐสภามีหน้าที่สำคัญสองประการเหมือนกับรัฐสภาอังกฤษ คือการออกกฎหมายและการควบคุมการบริหารรัฐการของคณะรัฐมนตรี

*ศาล

---รัฐธรรมนูญกำหนดให้มีศาลสูงสุด (Supreme Court) หนึ่งศาล ประกอบด้วยประธานศาลสูงสุดและผู้พิพากษาอื่นอีกไม่เกิน ๑๓ คน ศาลสูง (High Court) มีประจำรัฐต่าง ๆ รัฐละ ๑ แห่ง และศาลชั้นต้น (Primar Court) มีประจำในแต่ละเขต ภายในรัฐต่าง ๆ แบ่งเ

0/5000

จาก: -

เป็น: -

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1: [สำเนา]

คัดลอก!

---India emerging as the State independence, but it has a long history at least modern civilization operates Indus River basin, which has about 2500 years ago, the era of the.---In 217 Alexander has come to occupy India. Make India influenced cultural recycling. when the owner retains the Lord on Monday, 9 2 can create as khup that. of North India.---In the year 2143. British trade in India. Queen Elizabeth of England has awarded patents to the East India Company. By a large shopping centre that is set when the statement-Bay and the Lantern Hotel Kolkata.---In English. the Government of India Company collapsed 2401 (1858) East and ruled India directly.---2463 (1920) Bo Han among check RAM Gandhi India leader Vientiane. ahimsa and can make India get independence is by degrees.---2490 (1947) @ Tli's Prime British Government Announces intent to mandate English rule, India because there are schisms. Between the parties to a Hindu-Muslim riot that drastic and spanned across the country need to divide India into two countries, namely India, with Pakistan. India declared independence the same year.-After receiving the Commonwealth Constitution drafting Assembly has drafted Constitution defines the guidelines for the entire country is all national and State level to make the Constitution of India is the longest in the world. There are provisions to Article 395 enacted as Republic 2493 (1950) announcement. With the President as head of State, but still accept the head of State of the Commonwealth of England, referred to as the head of State, which includes India belong.---Political structure. India brought the method of divided powers of political and administrative institutions of the English system is.* President ---As a head of State of the country's parliamentary system is ruled as above politics, and used only for ceremonial duties by. As usual, the President will use his power over the Cabinet by the Prime Minister to act as a guide to presidential power in using a.---President of India is elected indirectly, from the people. The presidential election is a member of the Federation Council of the Federal Government and two members of the State Legislative Assembly 21 State.* The authority of the President of India is divided into three categories, namely.-Executive duties as head of State of the nation and is the representative of India States that citizens, including the relationship between the countries.---The authority competent to sign legislation to enact any law or veto any Ordinances. Outside Parliament the Parliament etc.---Emergency powers declared emergency powers In cases where national security is threatened by the mechanisms governing Constitution. In the State and when the fiscal crisis in the country or any part of the country.* Cabinet ---Is the only consulting advice and assist the President in the obligations by the President, who appoints the Prime Minister and the Cabinet of the Prime Minister. The President would have to appoint a political party that has the majority of functions. In the House of representatives as Prime Who will be appointed as Ministers may not be members of Parliament, but provided that if any person is more than 6 months Ministers have opposed to any Council Member who is one of the Council within 6 months.---The Cabinet will have to resign from the position. To get the trust of the Council representatives. But the Council of Ministers may ask the head of the Council is dissolved, new elections.-Council of Ministers (Council of Ministers) is the Prime Minister is the head of the responsible for the House of representatives. The Prime Minister is the President and Council of Ministers communication between media in all affairs. Council of Ministers is composed of the three Ministers ' category is a category 1 member in Cabinet Ministers have the right to attend cabinet meeting the Government's policy and. Category 2 the Ministers did not belong in a category 3 Cabinet Deputy Prime Minister.* Parliament ---Consisting of two Council the Council is.---State Council or Senate (Council of State), India yotpha (Rajaya Sabha) calls Royal, consisting of members who have been elected or appointed a Council of State to come from 22 States with more than half of the members are not members of the House of representatives, and must not be greater than 250 people that there are 12 of these persons have been appointed from the Presidency.-High Council will be dissolved--No. The 6-year Member, but every 2 years to 1 in this Council, there are 3 secondary position by the President of the Presidency.---State Council has powers in legislation similar to the House of representatives, everything. The law that passed from the House of representatives, but the State Council not approve the legislation in force does not. The State has the power to control the management of the land question. Do not pass the Government's budget law, and has the power to amend the Constitution.--The House of representatives (House of People), India called a world Parliament (Lok Sabha) is composed of members who have been elected directly from the people, with a total of no more than 500 people from all States and no more than 25 people from the territories are in a Federal Government that does not have as a State. In addition The President also has the right to appoint representatives. As a representative of a minority no more than 2 people.---การเลือกตั้งเป็นแบบแบ่งเขต แต่ละเขตจะเลือกผู้แทนได้คนเดียว สภามีอายุ ๕ ปี ประชาชนอินเดียที่มีสิทธิเลือกตั้ง จะต้องมีอายุไม่น้อยกว่า ๒๑ ปีบริบูรณ์ในวันเลือกตั้ง ให้มีคณะกรรมการเลือกตั้งเป็นสถาบันอิสระ มีหน้าที่จัดทำบัญชีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และควบคุมการเลือกตั้งระดับชาติและระดับรัฐ---รัฐสภามีหน้าที่สำคัญสองประการเหมือนกับรัฐสภาอังกฤษ คือการออกกฎหมายและการควบคุมการบริหารรัฐการของคณะรัฐมนตรี*ศาล ---รัฐธรรมนูญกำหนดให้มีศาลสูงสุด (Supreme Court) หนึ่งศาล ประกอบด้วยประธานศาลสูงสุดและผู้พิพากษาอื่นอีกไม่เกิน ๑๓ คน ศาลสูง (High Court) มีประจำรัฐต่าง ๆ รัฐละ ๑ แห่ง และศาลชั้นต้น (Primar Court) มีประจำในแต่ละเขต ภายในรัฐต่าง ๆ แบ่งเ

การแปล กรุณารอสักครู่..

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:[สำเนา]

คัดลอก!

--- India is an emerging independent state. But there is a long history At least the days of the Indus Valley civilization. Which was established about 2500 years before the era --- the year 217, Alexander the Great had conquered India. India has been influenced by Greek culture. On Monday Yamakup God ninth century, the two could create a unity of north India in the year 2143 --- British begin to trade in India. Queen Elizabeth of England, the Bank has granted a patent to the East India Company. The big shopping center located in the city of Bombay, Calcutta and Madras eye --- In the year 2401 the British government abolished the East India Company. And direct rule in India in 2463 --- Bohan President of Karam municipalities Gandhi led India to use nonviolence. India gained independence and can make a step at a later time --- in 2490, Prime Minister Lee Attica. Britain has announced the intention of the British government. To empower parents to India Because there is no dissension Between Muslims and Hindus The violence caused a riot And spread nationwide It is divided India into two countries. India and Pakistan India declared independence in the same year --- after independence. Constituent Assembly to draft a constitution established guidelines to govern the country in all aspects. Both national and state levels, making the Indian Constitution is the longest in the world. The provisions of Section 395 in place since 2493, proclaimed a republic. With a president as head of state But still, the chief of the British. As Head of the Commonwealth, Which India is a member of a political structure ---. India has taken out a way to share political power. And the administration of the various institutions of the British system is * President --- as a Head of State who is the parliamentary system of government. As above politics And ceremonial duties only. As usual, the president will use its power over the cabinet. The Prime Minister will serve as an introduction to the president. Widely authority in the matter --- The President of India is elected indirectly by the people. Presidential elections are Members of both Houses of the federal government. And members of the state legislature are 21 states * The authority of the President of India. Divided into three categories --- the executive power. Acting as head of state. And a representative of the Indian nation. This includes the International Relations --- Legislative Assembly. Has the authority to sign the Declaration of Use. Or inhibit various legislative decree of the Parliament. Etc. --- emergency powers Has the power to declare a state of emergency In cases where national security is threatened. The mechanism of constitutional rule In the state of destruction The fiscal crisis in the country. Or any part of the country * Cabinet --- is just Advice Consultants. And assist the President in the performance of duty. The President appoints the Prime Minister And Cabinet According to the proposal of the Prime Minister The President must appoint the incumbent party has a majority. In the House of Representatives as President Who will be appointed a minister. Maybe not a member of Parliament. But the conditions that If any minister is more than six months will need to repent. Any member of the Council within six months --- Cabinet must resign. When not gain the trust of the House of Representatives. However, the Cabinet may be asked to head the council. This will result in a new election --- the Council of Ministers (Council of Ministers) headed by the Prime Minister. Accountability to Parliament Media contacts between the President, Prime Minister And the Council of Ministers in every work. Ministers Council of Ministers consists of three types: the first is a member of the Cabinet of Ministers. Eligible participants in the Cabinet. A determined policy of the government of the two ministers who are not members of the Cabinet of the Deputy Prime 3 : Parliament is bicameral parliament consisting --- --- State Council or Senate (Council of State) King's Indian. Council (Rajaya Sabha) is composed of members elected. Or appointed by the State Council of State has 22 members, no more than half the members of parliament. And not more than 250 people, of which 12 are appointed by the President of the High Council will be dissolved --- not. Membership in the sixth year, but every two years, will be issued to one in three council vice president. Was elected chairman by the position --- the State Council, acting as the representatives of all legislation. Any legislation passed by the House of Representatives ago. The State Council did not approve The law does not force them out Controlling the administration of the land by the questionnaire. The law did not pass the government budget And has the power to amend the Constitution --- Lower House (House of People) called the World Council of India (Lok Sabha) is composed of members elected. Directly by the people A total of 500 people from all states and not more than 25 people from the land in the region is not a federal state, the president also has the right to appoint representatives. To represent the minority of no more than two people --- the election is zoning. Each district will elect representatives alone the last five years, the Indian voters. Must be aged at least 21 years of age on election day. The Election Commission is an independent institution. Responsible for preparing the accounts voters. And national and state elections, the Congress has two important --- like the British Parliament. Is legislation the administration and control of the Cabinet in the court * --- The Constitution provides the Sanhedrin (Supreme Court) Chief Justice and judges of the Court consisting of not more than 13 members of the High Court (High Court) have a different state. 1 each state and the District Court (Primar Court) are in each county within the state of breaks the game.

การแปล กรุณารอสักครู่..

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:[สำเนา]

คัดลอก!

--- India as independent state of emerging. But there is a long history. At least the modern civilization of the Indus Valley. Which was established about ๒๕๐๐ year era

--- in 2009.21 7 Alexander the great conquered India. The Indian cultural influences from Greek and it came to pass, when late 9 God จันทร์คุปต์. 2, can create the unity of northern India

.In the 21st --- 4 3 the British began to trade in the Indian Queen Elizabeth I of England gave a patent to the East India Company The set the big shopping center city Bombay, Kolkata and Madras

--- in 2002.Good education environment, the British government dissolved the East India Company The Indian took over direct

--- the pyre 6 3 โบฮัน faith, Gara m Chand Gandhi Indian leaders ได้ใช้ how nonviolence. And can make India gained independence stage. At a later time

.--- in 2002.In 1952. Prime Minister Attlee Britain announced the intent of the UK government. To give over to India, due to a schism. Between the Muslim and Hindu. Born into a riot that severe and spread throughout the country.India and Pakistan, India independence that same year
.

.

การแปล กรุณารอสักครู่..

ภาษาอื่น ๆ

การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.