ภูมิอากาศ
ภูมิอากาศของไทยเป็นแบบเขตร้อน หรือทุ่งหญ้าเมืองร้อน ทำให้อากาศของไทยเป็นแบบมรสุมเมืองร้อนเกือบตลอดทั้งปี อากาศจะร้อนที่สุด ระหว่างเดือนเมษายนถึงพฤษภาคมเป็นฤดูร้อน ระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม มีฝนตกและเมฆมากจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้เป็นฤดูฝน ส่วนในเดือนพฤศจิกายนถึงกลางเดือนมีนาคม อากาศแห้งและหนาวเย็นจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือเป็นฤดูหนาว ยกเว้นภาคใต้ซึ่งมีสภาพ อากาศแบบป่าดงดิบ ซึ่งมีอากาศร้อนชื้นตลอดทั้งปีจึงมีแค่สองฤดูคือ ฤดูร้อนกับฤดูฝน[21] มีอุณหภูมิเฉลี่ย 18-34 องศาเซลเซียส และมีปริมาณ ฝนตกเฉลี่ยตลอดปีกว่า 1,500 มิลลิเมตร
ในด้านภูมิศาสตร์และประชากรศาสตร์ ประเทศไทยมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 50 ของโลก มีเนื้อที่ 513,115 ตารางกิโลเมตร[7] และมีประชากรมากเป็นอันดับ 21 ของโลก ประมาณ 64 ล้านคน ประกอบด้วยเชื้อสายไทยประมาณร้อยละ 75 ชาวจีนร้อยละ 14 ชาวมาเลย์ร้อยละ 3[8] ได้มีการประมาณกันว่ามีผู้อพยพทั้งถูกและผิดกฎหมายในประเทศไทยประมาณ 2.2 ล้านคน[9]
ในด้านวัฒนธรรม ประเทศไทยมีภาษาราชการคือภาษาไทย ขณะที่ท้องถิ่นต่าง ๆ มีภาษาถิ่นเป็นหลากหลายภาษา อาทิ ภาษาถิ่นพายัพในภาคเหนือ ภาษาถิ่นอีสานในภาคอีสาน และภาษาถิ่นปักษ์ใต้ในภาคใต้ พลเมืองส่วนใหญ่ของประเทศนับถือพุทธศาสนานิกายเถรวาทกว่าร้อยละ 95[10] โดยวัฒนธรรมหลักของไทยได้รับอิทธิพลมาจากประเทศอินเดีย ประเทศจีน และประเทศทางตะวันตกประสมประสานกับวัฒนธรรมท้องถิ่น
ในด้านการปกครอง ประเทศไทยมีรูปแบบประเทศเป็นระบอบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ และรูปแบบการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา ซึ่งตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับปัจจุบันบัญญัติโดยรวมทั้งรูปแบบประเทศและรูปแบบการปกครองว่า ประเทศไทยมี การปกครองโดยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งพระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลปัจจุบันคือ พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช โดยทรงเป็นประมุขแห่งรัฐ พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี และพระมหากษัตริย์ที่ทรงครองราชย์ในฐานะประมุข แห่งรัฐที่นานที่สุดในโลกด้วย