คุณเคยสงสัยไหมว่าทุกสิ่งเกิดขึ้นจาก

คุณเคยสงสัยไหมว่าทุกสิ่งเกิดขึ้นจากอะไร เกิดจากผู้สร้าง หรือ ล้วนว่างเปล่า? ในทางวิทยาศาสตร์มีทฤษฎีหนึ่งกล่าวว่าจักรวาลเกิดจากการระเบิดครั้งใหญ่แล้วขยายตัวขึ้นเป็นจักรวาล แล้วคุณสงสัยไหมว่าแล้วบิ๊กแบงมาจากไหน สิ่งเริ่มต้นจริงๆมีจริงหรือไม่? ในเมื่อบิ๊กแบงเกิดจากการระเบิด แล้วอะไรทำให้มันระเบิด? ถ้าสมมุติว่าเกิดจากอนุภาคสองอย่างทำปฏิกิริยากัน แล้วอนุภาคนี้มาจากไหน เอาหละพอถึงตรงนี้ ให้คุณลองคิดย้อนกลับไป สมมุติว่าเรารู้ที่มาของอนุภาคแล้วสิ่งที่ทำให้เกิดอนุภาคนี่มาจากไหน?? หรือจริงๆแล้วทุกอย่างถูกจงใจสร้างขึ้นจากอะไรบางอย่าง(สิ่งมีชีวิตอื่นหรืออะไรก็แล้วแต่) ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ทุกอย่างถูกใครหรือสิ่งใดสิ่งหนึ่งสร้างหรือทดลองขึ้น เราอาจจะเป็นแค่เซลล์หรืออะไรสักอย่าง ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็ยิ่งเป็นคำถามที่แปลกประหลาดและยิ่งใหญ่เข้าไปอีก แล้วผู้ที่สร้างเรามีจุดประสงค์อะไรกันที่ทำอย่างนี้ แล้วเขาถือกำเนิดมาอย่างไร อ่านถึงตรงนี้หลายคนอาจจะเริ่มงง หรือว่าทุกอย่างไม่มีจริง… ทุกอย่างล้วนเป็นสิ่งสมมติ? เรามาลองหาคำตอบกัน!!!
แนวคิดเกี่ยวกับความรู้ ญาณวิทยา (epistemology) หมายถึง ศาสตร์หรือทฤษฎีเกี่ยวกับความรู้แท้ หรือความรู้ที่มีระบบ ในทางปรัชญา ความรู้ต้องเป็นความรู้ในความจริง เพราะฉะนั้นปัญหาญาณวิทยา จึงไม่ใช่เพียงว่า ความรู้คืออะไร แต่ยังเกี่ยวพันกับความจริงด้วย เช่น อะไรคือสิ่งที่เรารู้ มนุษย์รู้ความจริงได้หรือไม่ โดยวิธีใด ความจริงเป็นสิ่งสัมพัทธ์ (Relative) หรือเป็นสิ่งสัมบูรณ์ (Absolute) เป็นต้น ความจริง (truth) หรือ “สัจจะ” มีลักษณะเป็นนามธรรม เมื่อเราพูดถึงความจริงของสิ่งใดสิ่งหนึ่งเรามักหมายถึง หลักการที่มีอยู่แน่นอนมั่นคง ไม่เปลี่ยนแปลงของสิ่งนั้น เช่น “ชีวิตเป็นทุกข์” “สังขารเป็นของไม่เที่ยง” “ไม่มีอะไรเกิดจากความว่างเปล่า” ล้วนแต่เป็นการบอก “ความจริง” ทั้งสิ้น ความจริงเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับความรู้ เพราะเมื่อเราบอกว่าเรามีความรู้ ก็คือเรารู้ความจริงหรือเข้าถึงความจริงของสิ่งที่เป็นจริง (แต่อย่าลืมว่า ความจริงก็มีหลายระดับ) ดังนั้น การจะเข้าใจว่า สิ่งที่เป็นจริง หรือ reality คืออะไร และการเข้าถึงสิ่งที่เป็นจริงหรือสิ่งที่มีอยู่จริงนั้น การรู้ “ความจริง” ก็คือ การรู้ที่ตรงกับสภาวะความเป็นจริง ไม่ใช่รู้เพียงสภาวะที่ปรากฏ การรู้ความจริงของสภาวะความเป็นจริงเท่านั้นที่จะเรียกได้ว่าเป็น “ความรู้” (ในขณะที่การรู้สภาวะที่ปรากฏ เป็นเพียงการเห็น หรือข้อมูล) ในหัวข้อนี้เป็นทั้งข้อสนับสนุนและข้อปฏิเสธต่อความคิดที่มีมาแต่กำเนิดของนักปรัชญาฝ่ายเหตุผลนิยมและฝ่ายประสบการณ์นิยมมีทัศนะต่อความคิดที่มีมาแต่กำเนิด (innate idea) แตกต่างกัน โดยเดส์การ์ตเห็นว่าความคิดที่มีมาแต่กำเนิดเป็นแหล่งที่มาของความรู้ ในขณะที่นักปรัชญาฝ่ายประสบการณ์นิยมอย่างล็อคปฏิเสธความคิดที่มีมาแต่กำเนิด การจะเข้าใจทัศนะเรื่องความคิดที่มีมาแต่กำเนิด อาจจำเป็นต้องย้อนกลับไปดูถึงแนวคิดปรัชญาของเดส์การ์ตซึ่งดูเหมือนจะเป็นจุดเริ่มต้นของแนวคิดนี้ เรเน่ เดส์การ์ต เริ่มต้นปรัชญาของเขาจากการพยายามหาสิ่งที่แน่นอนที่สุด (certainty) เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างความรู้ที่มั่นคง โดยเดส์การ์ตเริ่มจากการสงสัยต่อทุกสิ่งทุกอย่างในโลกภายนอก (res extensa) เดส์การ์ตไม่ยอมรับสิ่งใดที่เราอาจจะสงสัยได้ แม้แต่ความรู้เชิงประจักษ์(Factual knowledge)ที่ปรากฏต่อประสาทสัมผัสและดูเหมือนจะปรากฏอย่างชัดเจนที่สุดก็ยังเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอนที่เราอาจจะสงสัยได้ ตัวอย่างเช่น วัตถุที่หลายครั้งเราเข้าใจว่ามันมีขนาดเล็ก แต่ในขณะเดียวกันมันอาจเป็นไปได้ที่เราจะเห็นว่ามีขนาดเล็กเพราะอยู่ในระยะไกล หรือการที่เรานั่งถือกระดาษอยู่ในมือหน้าเตาผิงก็เป็นสิ่งที่ชัดเจนอย่างมาก

คุณเคยสงสัยไหมว่าทุกสิ่งเกิดขึ้นจากอะไร เกิดจากผู้สร้าง หรือ ล้วนว่างเปล่า? ในทางวิทยาศาสตร์มีทฤษฎีหนึ่งกล่าวว่าจักรวาลเกิดจากการระเบิดครั้งใหญ่แล้วขยายตัวขึ้นเป็นจักรวาล แล้วคุณสงสัยไหมว่าแล้วบิ๊กแบงมาจากไหน สิ่งเริ่มต้นจริงๆมีจริงหรือไม่? ในเมื่อบิ๊กแบงเกิดจากการระเบิด แล้วอะไรทำให้มันระเบิด? ถ้าสมมุติว่าเกิดจากอนุภาคสองอย่างทำปฏิกิริยากัน แล้วอนุภาคนี้มาจากไหน เอาหละพอถึงตรงนี้ ให้คุณลองคิดย้อนกลับไป สมมุติว่าเรารู้ที่มาของอนุภาคแล้วสิ่งที่ทำให้เกิดอนุภาคนี่มาจากไหน?? หรือจริงๆแล้วทุกอย่างถูกจงใจสร้างขึ้นจากอะไรบางอย่าง(สิ่งมีชีวิตอื่นหรืออะไรก็แล้วแต่) ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ทุกอย่างถูกใครหรือสิ่งใดสิ่งหนึ่งสร้างหรือทดลองขึ้น เราอาจจะเป็นแค่เซลล์หรืออะไรสักอย่าง ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็ยิ่งเป็นคำถามที่แปลกประหลาดและยิ่งใหญ่เข้าไปอีก แล้วผู้ที่สร้างเรามีจุดประสงค์อะไรกันที่ทำอย่างนี้ แล้วเขาถือกำเนิดมาอย่างไร อ่านถึงตรงนี้หลายคนอาจจะเริ่มงง หรือว่าทุกอย่างไม่มีจริง… ทุกอย่างล้วนเป็นสิ่งสมมติ? เรามาลองหาคำตอบกัน!!!
 แนวคิดเกี่ยวกับความรู้ ญาณวิทยา (epistemology) หมายถึง ศาสตร์หรือทฤษฎีเกี่ยวกับความรู้แท้ หรือความรู้ที่มีระบบ ในทางปรัชญา ความรู้ต้องเป็นความรู้ในความจริง เพราะฉะนั้นปัญหาญาณวิทยา จึงไม่ใช่เพียงว่า ความรู้คืออะไร แต่ยังเกี่ยวพันกับความจริงด้วย เช่น อะไรคือสิ่งที่เรารู้ มนุษย์รู้ความจริงได้หรือไม่ โดยวิธีใด ความจริงเป็นสิ่งสัมพัทธ์ (Relative) หรือเป็นสิ่งสัมบูรณ์ (Absolute) เป็นต้น ความจริง (truth) หรือ “สัจจะ” มีลักษณะเป็นนามธรรม เมื่อเราพูดถึงความจริงของสิ่งใดสิ่งหนึ่งเรามักหมายถึง หลักการที่มีอยู่แน่นอนมั่นคง ไม่เปลี่ยนแปลงของสิ่งนั้น เช่น “ชีวิตเป็นทุกข์” “สังขารเป็นของไม่เที่ยง” “ไม่มีอะไรเกิดจากความว่างเปล่า” ล้วนแต่เป็นการบอก “ความจริง” ทั้งสิ้น ความจริงเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับความรู้ เพราะเมื่อเราบอกว่าเรามีความรู้ ก็คือเรารู้ความจริงหรือเข้าถึงความจริงของสิ่งที่เป็นจริง (แต่อย่าลืมว่า ความจริงก็มีหลายระดับ) ดังนั้น การจะเข้าใจว่า สิ่งที่เป็นจริง หรือ reality คืออะไร และการเข้าถึงสิ่งที่เป็นจริงหรือสิ่งที่มีอยู่จริงนั้น การรู้ “ความจริง” ก็คือ การรู้ที่ตรงกับสภาวะความเป็นจริง ไม่ใช่รู้เพียงสภาวะที่ปรากฏ การรู้ความจริงของสภาวะความเป็นจริงเท่านั้นที่จะเรียกได้ว่าเป็น “ความรู้” (ในขณะที่การรู้สภาวะที่ปรากฏ เป็นเพียงการเห็น หรือข้อมูล)  ในหัวข้อนี้เป็นทั้งข้อสนับสนุนและข้อปฏิเสธต่อความคิดที่มีมาแต่กำเนิดของนักปรัชญาฝ่ายเหตุผลนิยมและฝ่ายประสบการณ์นิยมมีทัศนะต่อความคิดที่มีมาแต่กำเนิด (innate idea) แตกต่างกัน โดยเดส์การ์ตเห็นว่าความคิดที่มีมาแต่กำเนิดเป็นแหล่งที่มาของความรู้ ในขณะที่นักปรัชญาฝ่ายประสบการณ์นิยมอย่างล็อคปฏิเสธความคิดที่มีมาแต่กำเนิด การจะเข้าใจทัศนะเรื่องความคิดที่มีมาแต่กำเนิด อาจจำเป็นต้องย้อนกลับไปดูถึงแนวคิดปรัชญาของเดส์การ์ตซึ่งดูเหมือนจะเป็นจุดเริ่มต้นของแนวคิดนี้ เรเน่ เดส์การ์ต เริ่มต้นปรัชญาของเขาจากการพยายามหาสิ่งที่แน่นอนที่สุด (certainty) เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างความรู้ที่มั่นคง โดยเดส์การ์ตเริ่มจากการสงสัยต่อทุกสิ่งทุกอย่างในโลกภายนอก (res extensa) เดส์การ์ตไม่ยอมรับสิ่งใดที่เราอาจจะสงสัยได้ แม้แต่ความรู้เชิงประจักษ์(Factual knowledge)ที่ปรากฏต่อประสาทสัมผัสและดูเหมือนจะปรากฏอย่างชัดเจนที่สุดก็ยังเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอนที่เราอาจจะสงสัยได้ ตัวอย่างเช่น วัตถุที่หลายครั้งเราเข้าใจว่ามันมีขนาดเล็ก แต่ในขณะเดียวกันมันอาจเป็นไปได้ที่เราจะเห็นว่ามีขนาดเล็กเพราะอยู่ในระยะไกล หรือการที่เรานั่งถือกระดาษอยู่ในมือหน้าเตาผิงก็เป็นสิ่งที่ชัดเจนอย่างมาก

0/5000

จาก: -

เป็น: -

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1: [สำเนา]

คัดลอก!

คุณเคยสงสัยไหมว่าทุกสิ่งเกิดขึ้นจากอะไร เกิดจากผู้สร้าง หรือ ล้วนว่างเปล่า? ในทางวิทยาศาสตร์มีทฤษฎีหนึ่งกล่าวว่าจักรวาลเกิดจากการระเบิดครั้งใหญ่แล้วขยายตัวขึ้นเป็นจักรวาล แล้วคุณสงสัยไหมว่าแล้วบิ๊กแบงมาจากไหน สิ่งเริ่มต้นจริงๆมีจริงหรือไม่? ในเมื่อบิ๊กแบงเกิดจากการระเบิด แล้วอะไรทำให้มันระเบิด? ถ้าสมมุติว่าเกิดจากอนุภาคสองอย่างทำปฏิกิริยากัน แล้วอนุภาคนี้มาจากไหน เอาหละพอถึงตรงนี้ ให้คุณลองคิดย้อนกลับไป สมมุติว่าเรารู้ที่มาของอนุภาคแล้วสิ่งที่ทำให้เกิดอนุภาคนี่มาจากไหน?? หรือจริงๆแล้วทุกอย่างถูกจงใจสร้างขึ้นจากอะไรบางอย่าง(สิ่งมีชีวิตอื่นหรืออะไรก็แล้วแต่) ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ทุกอย่างถูกใครหรือสิ่งใดสิ่งหนึ่งสร้างหรือทดลองขึ้น เราอาจจะเป็นแค่เซลล์หรืออะไรสักอย่าง ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็ยิ่งเป็นคำถามที่แปลกประหลาดและยิ่งใหญ่เข้าไปอีก แล้วผู้ที่สร้างเรามีจุดประสงค์อะไรกันที่ทำอย่างนี้ แล้วเขาถือกำเนิดมาอย่างไร อ่านถึงตรงนี้หลายคนอาจจะเริ่มงง หรือว่าทุกอย่างไม่มีจริง… ทุกอย่างล้วนเป็นสิ่งสมมติ? เรามาลองหาคำตอบกัน!!! แนวคิดเกี่ยวกับความรู้ ญาณวิทยา (epistemology) หมายถึง ศาสตร์หรือทฤษฎีเกี่ยวกับความรู้แท้ หรือความรู้ที่มีระบบ ในทางปรัชญา ความรู้ต้องเป็นความรู้ในความจริง เพราะฉะนั้นปัญหาญาณวิทยา จึงไม่ใช่เพียงว่า ความรู้คืออะไร แต่ยังเกี่ยวพันกับความจริงด้วย เช่น อะไรคือสิ่งที่เรารู้ มนุษย์รู้ความจริงได้หรือไม่ โดยวิธีใด ความจริงเป็นสิ่งสัมพัทธ์ (Relative) หรือเป็นสิ่งสัมบูรณ์ (Absolute) เป็นต้น ความจริง (truth) หรือ “สัจจะ” มีลักษณะเป็นนามธรรม เมื่อเราพูดถึงความจริงของสิ่งใดสิ่งหนึ่งเรามักหมายถึง หลักการที่มีอยู่แน่นอนมั่นคง ไม่เปลี่ยนแปลงของสิ่งนั้น เช่น “ชีวิตเป็นทุกข์” “สังขารเป็นของไม่เที่ยง” “ไม่มีอะไรเกิดจากความว่างเปล่า” ล้วนแต่เป็นการบอก “ความจริง” ทั้งสิ้น ความจริงเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับความรู้ เพราะเมื่อเราบอกว่าเรามีความรู้ ก็คือเรารู้ความจริงหรือเข้าถึงความจริงของสิ่งที่เป็นจริง (แต่อย่าลืมว่า ความจริงก็มีหลายระดับ) ดังนั้น การจะเข้าใจว่า สิ่งที่เป็นจริง หรือ reality คืออะไร และการเข้าถึงสิ่งที่เป็นจริงหรือสิ่งที่มีอยู่จริงนั้น การรู้ “ความจริง” ก็คือ การรู้ที่ตรงกับสภาวะความเป็นจริง ไม่ใช่รู้เพียงสภาวะที่ปรากฏ การรู้ความจริงของสภาวะความเป็นจริงเท่านั้นที่จะเรียกได้ว่าเป็น “ความรู้” (ในขณะที่การรู้สภาวะที่ปรากฏ เป็นเพียงการเห็น หรือข้อมูล) ในหัวข้อนี้เป็นทั้งข้อสนับสนุนและข้อปฏิเสธต่อความคิดที่มีมาแต่กำเนิดของนักปรัชญาฝ่ายเหตุผลนิยมและฝ่ายประสบการณ์นิยมมีทัศนะต่อความคิดที่มีมาแต่กำเนิด (innate idea) แตกต่างกัน โดยเดส์การ์ตเห็นว่าความคิดที่มีมาแต่กำเนิดเป็นแหล่งที่มาของความรู้ ในขณะที่นักปรัชญาฝ่ายประสบการณ์นิยมอย่างล็อคปฏิเสธความคิดที่มีมาแต่กำเนิด การจะเข้าใจทัศนะเรื่องความคิดที่มีมาแต่กำเนิด อาจจำเป็นต้องย้อนกลับไปดูถึงแนวคิดปรัชญาของเดส์การ์ตซึ่งดูเหมือนจะเป็นจุดเริ่มต้นของแนวคิดนี้ เรเน่ เดส์การ์ต เริ่มต้นปรัชญาของเขาจากการพยายามหาสิ่งที่แน่นอนที่สุด (certainty) เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างความรู้ที่มั่นคง โดยเดส์การ์ตเริ่มจากการสงสัยต่อทุกสิ่งทุกอย่างในโลกภายนอก (res extensa) เดส์การ์ตไม่ยอมรับสิ่งใดที่เราอาจจะสงสัยได้ แม้แต่ความรู้เชิงประจักษ์(Factual knowledge)ที่ปรากฏต่อประสาทสัมผัสและดูเหมือนจะปรากฏอย่างชัดเจนที่สุดก็ยังเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอนที่เราอาจจะสงสัยได้ ตัวอย่างเช่น วัตถุที่หลายครั้งเราเข้าใจว่ามันมีขนาดเล็ก แต่ในขณะเดียวกันมันอาจเป็นไปได้ที่เราจะเห็นว่ามีขนาดเล็กเพราะอยู่ในระยะไกล หรือการที่เรานั่งถือกระดาษอยู่ในมือหน้าเตาผิงก็เป็นสิ่งที่ชัดเจนอย่างมาก

การแปล กรุณารอสักครู่..

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:[สำเนา]

คัดลอก!

Have you ever wondered what all happened. The creator or are empty? In science, a theory of the universe caused by the explosion was large as the universe expands. Is it any wonder then that, then the big bang came from. Things start really true? When the Big Bang caused by the explosion. What made it explode? Assuming that the two particles react. These particles come from? All right, enough of this Try to think back. Suppose that we know the origin of the particles and what causes the particles come from ?? Or actually, everything was deliberately created by something (other beings, or whatever), everything is a coincidence. Everything was anyone or anything built or experimental. We may just be a cell or something. If that were true, the question was even more bizarre and mighty again. Then who created what we aim to do this. He, however, predates At this point, many readers may be puzzled. Everything that is not true ... Everything is fictional? Let's find out together !!!
concepts of epistemology of knowledge (epistemology) refers to the theories of science or true knowledge. Or knowledge in philosophical knowledge is the knowledge of the truth. Therefore, the problem of epistemology It's not just that What is knowledge But also related to the fact with what we know. Human truth or not, by any means Truth is relative (Relative) or absolute (Absolute) so the fact (truth), or "truth" is an abstraction. When we speak of the truth of something, we usually mean. Principles that are firmly on course Do not change a thing like "Life is suffering," "fairest of impermanence" "Nothing from nothing" But to tell the "truth" of truth is closely related to knowledge. When we say we have no knowledge. Is that we know the truth, or the truth of what is really accessible. (But do not forget that The fact there are many levels), so understand that. What is true or what is reality and what is actually accessed, or what is real is to know the "truth" is to know that correspond to the real situation. Not only know the conditions The truth of the situation is only to be known as the "knowledge" (while knowing the conditions. A mere opinion or information) in this section are both supporting and rejecting the idea that innate philosophical divisions rationalism and the empiricism opinion towards the idea inborn (innate idea) break. different des Karzai agreed that the idea of a congenital a source of knowledge. While the philosophical empiricism as Locke rejected the idea that a congenital. The perspective is the idea that a congenital. May need to look back to the philosophy of Des Gartner, which seemed to be the starting point of this concept Rene Des Gartner started his philosophy of trying to find the exact one (certainty) to. is the beginning of building a solid knowledge. The Des Stuttgart from doubt everything in the external world (res extensa) Des Gartner does not accept anything that may be doubted. Even empirical knowledge (Factual. knowledge) that are visible to the senses, and it appears most clearly, it is also uncertain, we may wonder, for example, the object several times, we understand that it is small. But while it may be possible for us to see that small, because at that distance. Or hold the paper in hand, we sat in front of the fireplace, it is very clear.

การแปล กรุณารอสักครู่..

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:[สำเนา]

คัดลอก!

Do you ever wonder how it all happened from what caused by the creator or are empty?In the scientific theory has one says the universe large explosion caused and grew up as the universe. Then you wonder that the big bang? Things really started there?Since the big bang caused by an explosion, and what makes it a bomb?Assuming that the reaction caused by two particles, particles come from? Where did well in this match, you think back. Suppose we know the source of the particles and what caused the particles come from??Or actually everything is deliberately created from something (another organism or whatever). Everything is not a coincidence. Everything is someone or something created or experiment.If this is true it is a strange question and great inside. And those who created us what purpose in doing this. He was born? Read to here many people may start!Everything is fictitious.We try to find the answer!!!!The concept of knowledge, epistemology (epistemology) means science or theories about the true knowledge, or knowledge system. In Philosophy Knowledge must be know in truth, so the problem is not merely that the epistemology.But also to get involved with the truth, such as what is the what we know humans know the truth or not by any method. The truth is relative. (Relative) or is absolute (Absolute) etc. the truth (truth) or "truth".When we talk about the truth of something, we always mean. The principles contained absolutely stable. Change of things, such as "life is suffering." "body is impermanent." "Nothing is nothing.""The truth". The truth is closely related to knowledge. When we say we have knowledge. It is we know really reach the truth of what is true (but do not forget that the truth has several levels). SoWhat is true or what is reality and access to what is true or what is that knowing the "truth" is knowing that match the conditions of reality. Not only the conditions appear."Knowledge" (while knowing the conditions appear to be only seen or information).(innate idea) vary by Descartes that idea congenital is the source of knowledge. While philosophers and empiricism as lock rejected the idea congenital.May need to go back to the philosophical concept of Des garment add-ons to seem to be the beginning of this concept, Rene Descartes started his philosophy from trying to find out what exactly. (certainty).By Descartes started from doubt to everything in the outside world (RES Extensa) Descartes does not accept any thing that we might suspect. Even the empirical knowledge (Factual.For example, an object that many times we understand that it is small. But at the same time, it may be possible that we will see that there are small, because be in the distance.

การแปล กรุณารอสักครู่..

ภาษาอื่น ๆ

การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.