วัตถุประสงค์ของงานวิจัยนี้ คือ เพื่

วัตถุประสงค์ของงานวิจัยนี้ คือ เพื่อวิเคราะห์หาอัตราส่วนพิทช์ที่เหมาะสมสำหรับการสร้างภาพเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ 4 มิติ ที่สัมพันธ์กับการหายใจในก้อนมะเร็งที่มีการเคลื่อนที่ โดยทำการศึกษาในหุ่นจำลอง ซึ่งมีการจำลองการเคลื่อนที่ของก้อนมะเร็งตามจังหวะการหายใจในแนวหัวท้าย 1 เซนติเมตร สร้างภาพเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ 4 มิติ จากระบบการเก็บข้อมูลแบบการจัดการตำแหน่งตามเวลาจริง มีการเปลี่ยนแปลงค่าอัตราส่วนพิทช์ในการเก็บข้อมูลในการสแกน 4 แบบ ได้แก่ ค่าอัตราส่วนพิทช์เดิมที่ทางโรงพยาบาลใช้ ค่าอัตราส่วนพิทช์ที่ได้จากการคำนวณด้วยสมการ ค่าอัตราส่วนพิทช์ใหม่ที่ทางบริษัทแนะนำ และค่าอัตราส่วนพิทช์เฉลี่ยระหว่างค่าที่โรงพยาบาลใช้และค่าที่ทางบริษัทแนะนำ โดยศึกษาในอัตราการหายใจ 10 15 และ 20 ครั้งต่อนาที หลังจากการเก็บข้อมูลสร้างภาพเอกซเรย์คอมพิวเตอร์จะทำการจะทำการสร้างภาพใหม่ ในเฟสการหายใจที่ 0% 25% 50% และ75% จากนั้นนำภาพเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ที่ได้ในแต่ละ โปรโตคอลมาวิเคราะห์หาค่าเปอร์เซ็นต์ความแตกต่างของปริมาตร และค่าการผิดรูป โดยเทียบกับปริมาตรของก้อนมะเร็งในการสร้างภาพเอกซเรย์คอมพิวเตอร์แบบที่ไม่มีการเคลื่อนที่ของคุณภาพของภาพที่ก้อนมะเร็ง และประเมินคุณภาพของภาพที่อัตราส่วนพิทช์ทั้ง 4 แบบ โดยรังสีแพทย์จำนวน 5 ท่าน พร้อมทั้งวิเคราะห์หาค่าอัตราส่วนพิทช์ที่เหมาะสมโดยใช้ค่าค่าจากบริษัทแนะนำเป็นค่ามาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า ค่าเปอร์เซ็นต์ความแตกต่างของปริมาตร และค่าการผิดรูป ของค่าอัตราส่วนพิทช์ที่บริษัทแนะนำ ไม่แตกต่างกับอัตราส่วนพิทช์ในกลุ่มอื่น (p-value >0.05) และคุณภาพของภาพของค่าอัตราส่วนพิทช์เฉลี่ยระหว่างค่าที่โรงพยาบาลใช้และค่าที่บริษัทแนะนำ นั้นไม่แตกต่างจากค่าอัตราส่วนพิทช์ที่บริษัทแนะนำ (p-value >0.05) ในขณะที่ค่าอัตราส่วนพิทช์แบบอื่นๆ มีความแตกต่างกับค่าที่บริษัทแนะนำอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

The purpose of this research is to analyze the phit parts locating suitable for computer-4 x-ray image dimensions that are associated with breathing in konmareng with the movement by doing a study on the simulated robots which are mobile simulation of konmareng rhythm.Breathing in horizontal head end 1 cm 4 PC x-ray images to create a dimension from the data storage system for managing positions in real time. Changes have been made to the above section phit storage in 4 types of scan rate values for best original phit hospital use. Locating the best calculated phit with equations. The above sections suggest us new phit and above average between the phit section, hospital and company values suggested by the study, breathing rate, 10 to 15 and 20 times per minute. After the x-ray image storage, the computer will continue to create new images. In the rahaichai fetka 0% 25% 50% and 75% Then bring your x-ray images in each analytical protocols for grateful percent difference in volume and value of the deteriorated against the volume of konmareng to create a computer that does not have x-ray picture of the quality of the images konmareng and evaluate ...Bits(Thailand) of the above image best 4 all medical radiation by phit 5 persons with private locating values for appropriate phit using a value from the company suggested as a standard value. Research has found that the percentage difference in the volume and value of an image of the above sections suggest company phit. Not unlike most other groups in locating phit (p-value > 0.05), and the image quality of the average rate between the phit section hospital use and suggested that the company does not differ from the above sections suggest company phit (p-value > 0.05) while the other part is locating phit คว.The mataek value that the company introduce a statistical significant (0.05 < p-value) thus, the analysis of the appropriate section above, the estimate should phit image quality that is involved. From the research, it concluded that the hospital should use phit is above the average value between the phit section of the hospital, and the company suggested that, because the radiation can help patients reduce the amount received and the quality of the x-ray image, the computer dimension 4 sufficient diagnosis.

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

วัตถุประสงค์ของงานวิจัยนี้ คือ เพื่อวิเคราะห์หาอัตราส่วนพิทช์ที่เหมาะสมสำหรับการสร้างภาพเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ 4 มิติ ที่สัมพันธ์กับการหายใจในก้อนมะเร็งที่มีการเคลื่อนที่ โดยทำการศึกษาในหุ่นจำลอง ซึ่งมีการจำลองการเคลื่อนที่ของก้อนมะเร็งตามจังหวะการหายใจในแนวหัวท้าย 1 เซนติเมตร สร้างภาพเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ 4 มิติ จากระบบการเก็บข้อมูลแบบการจัดการตำแหน่งตามเวลาจริง มีการเปลี่ยนแปลงค่าอัตราส่วนพิทช์ในการเก็บข้อมูลในการสแกน 4 แบบ ได้แก่ ค่าอัตราส่วนพิทช์เดิมที่ทางโรงพยาบาลใช้ ค่าอัตราส่วนพิทช์ที่ได้จากการคำนวณด้วยสมการ ค่าอัตราส่วนพิทช์ใหม่ที่ทางบริษัทแนะนำ และค่าอัตราส่วนพิทช์เฉลี่ยระหว่างค่าที่โรงพยาบาลใช้และค่าที่ทางบริษัทแนะนำ โดยศึกษาในอัตราการหายใจ 10 15 และ 20 ครั้งต่อนาที หลังจากการเก็บข้อมูลสร้างภาพเอกซเรย์คอมพิวเตอร์จะทำการจะทำการสร้างภาพใหม่ ในเฟสการหายใจที่ 0% 25% 50% และ75% จากนั้นนำภาพเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ที่ได้ในแต่ละ โปรโตคอลมาวิเคราะห์หาค่าเปอร์เซ็นต์ความแตกต่างของปริมาตร และค่าการผิดรูป โดยเทียบกับปริมาตรของก้อนมะเร็งในการสร้างภาพเอกซเรย์คอมพิวเตอร์แบบที่ไม่มีการเคลื่อนที่ของคุณภาพของภาพที่ก้อนมะเร็ง และประเมินคุณภาพของภาพที่อัตราส่วนพิทช์ทั้ง 4 แบบ โดยรังสีแพทย์จำนวน 5 ท่าน พร้อมทั้งวิเคราะห์หาค่าอัตราส่วนพิทช์ที่เหมาะสมโดยใช้ค่าค่าจากบริษัทแนะนำเป็นค่ามาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า ค่าเปอร์เซ็นต์ความแตกต่างของปริมาตร และค่าการผิดรูป ของค่าอัตราส่วนพิทช์ที่บริษัทแนะนำ ไม่แตกต่างกับอัตราส่วนพิทช์ในกลุ่มอื่น (p-value >0.05) และคุณภาพของภาพของค่าอัตราส่วนพิทช์เฉลี่ยระหว่างค่าที่โรงพยาบาลใช้และค่าที่บริษัทแนะนำ นั้นไม่แตกต่างจากค่าอัตราส่วนพิทช์ที่บริษัทแนะนำ (p-value >0.05) ในขณะที่ค่าอัตราส่วนพิทช์แบบอื่นๆ มีความแตกต่างกับค่าที่บริษัทแนะนำอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value <0.05) ดังนั้น การวิเคราะห์ค่าอัตราส่วนพิทช์ที่เหมาะสมนั้นควรประเมินคุณภาพของภาพที่ได้ร่วมด้วย จากงานวิจัยจึงสรุปได้ว่าค่าพิทช์ที่โรงพยาบาลควรเลือกใช้คือ ค่าอัตราส่วนพิทช์เฉลี่ยระหว่างค่าที่โรงพยาบาลใช้และค่าที่บริษัทแนะนำ เนื่องจากสามารถช่วยลดปริมาณรังสีที่ผู้ป่วยได้รับ และให้คุณภาพของภาพเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ 4 มิติ เพียงพอต่อการวินิจฉัย