วามถี่ของจีโนไทป์หนึ่งๆ คือ สัดส่วนระหว่างบุคคลที่มีจีโนไทป์นั้นต่อจำน การแปล - วามถี่ของจีโนไทป์หนึ่งๆ คือ สัดส่วนระหว่างบุคคลที่มีจีโนไทป์นั้นต่อจำน อังกฤษ วิธีการพูด

วามถี่ของจีโนไทป์หนึ่งๆ คือ สัดส่วน


วามถี่ของจีโนไทป์หนึ่งๆ คือ สัดส่วนระหว่างบุคคลที่มีจีโนไทป์นั้นต่อจำนวนบุคคล

ทั้งหมดในประชากร ในตัวอย่างข้างต้น ความถี่ของจีโนไทป์ BB คือ 1490/1000 หรือ 0.49 และความถี่ของจีโนไทป์ Bb และ bb เท่ากับ 0.42 (42/1000) และ 0.09 (90/1000) ตามลำดับ เป็นต้นสำหรับความถี่ของแอลลีลหนึ่งๆ คือ จำนวนแอลลีลนั้นต่อจำนวนแอลลีลทั้งหมดของยีนหนึ่งๆ ในประชากร เช่น ความถี่ของแอลลีล B เท่ากับจำนวนแอลลีล B ทั้งหมด หารด้วยผลรวมของจำนวนแอลลีล B และแอลลีล b ในประชากร โดยที่ในจีโนไทป์ของแต่ละบุคคลยีนหนึ่งๆ ประกอบด้วยสองแอลลีล ดังนั้นประชากรตัวอย่างจึงมีจำนวนแอลลีลของยีนแต่ละยีนเท่ากับ 2,000 (2 × 1,000) แอลลีล เพราะฉะนั้นความถี่ของแอลลีล B จึงคำนวณจาก จำนวนบุคคลที่มีจีโนไทป์ BB 490 คน ซึ่งคิดเป็นจำนวนแอลลีล B ได้ 980 (490 × 2) แอลลีล รวมกับจำนวนแอลลีล B 420 แอลลีลจากบุคคลที่มีจีโนไทป์ Bb 420 คน จำนวนของแอลลีล B ในประชากรนี้จึงเท่ากับ 1400 (980 + 420) แอลลีล คิดเป็นความถี่ของแอลลีล B ได้เท่ากับ 0.7 (1400/2000) ในทำนองเดียวกัน จำนวนแอลลีล b เท่ากับ 0.3 (600/2000) ซึ่งเมื่อรวมความถี่ของแอลลีล B และแอลลีล b มีค่าเท่ากับ 1 (0.7 + 0.3)

 

 

เมื่อระยะเวลาผ่านไปมีการเปลี่ยนแปลงยีนพูลของประชากร โดยสำรวจพบว่าความถี่ของแอลลีลและความถี่ของจีโนไทป์ต่างไปจากเดิม แสดงว่าประชากรมีวิวัฒนาการเกิดขึ้น ในทางตรงกันข้าม ถ้าพบว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงความถี่ของแอลลีลและความถี่ของจีโนไทป์ในแต่ละชั่วรุ่น แสดงว่าประชากรนั้นไม่มีวิวัฒนาการนั่นเอง ประชากรที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงความถี่ของแอลลีลและความถี่ของจีโนไทป์ในแต่ละชั่วรุ่น เป็นประชากรที่มีความสมดุลทางพันธุกรรม (genetic equilibrium) เรียกว่า ประชากรในภาวะสมดุล (equilibrium population)

 

 

ในปี ค.ศ. 1908 ก๊อดเฟรด์ ฮาร์ดี (Godfrey Hardy) นักคณิตศาสตร์ชาวอังกฤษ และวิลเฮล์มไวน์เบิร์ก (Wilhelm Weinberg) อธิบายความสมดุลทางพันธุกรรมของประชากรโดยใช้วิธีการทางคณิตศาสตร์ ซึ่งปัจจุบันเรียกว่า หลักฮาร์ดี-ไวน์เบิร์ก (Hardy-Weinberg Principle) โดยอธิบายว่า

"ในประชากรขนาดใหญ่ที่มีการผสมพันธุ์ระหว่างสมาชิกแบบสุ่ม (random mating) ถ้าไม่มีการกลาย การอพยพ และการคัดเลือกตามธรรมชาติเกิดขึ้น ความถี่ของแอลลีลและความถี่ของจีโนไทป์ในรุ่นถัดไปจะไม่เปลี่ยนแปลง"

 

จากหลักฮาร์ดี-ไวน์เบิร์ก กำหนดให้ยีนพูลของประชากรหนึ่งมีความถี่ของแอลลีลที่ 1(สมมติให้เป็นแอลลีลเด่น) = p และความถี่ของแอลลีลที่ 2 (สมมติให้เป็นแอลลีลด้อย) = q โดย p+q มีค่าเท่ากับ 1 ดังนั้นความถี่ของจีโนไทป์แบบต่างๆ ในประชากรจึงมีค่า ดังต่อไปนี้

 

ความถี่ของจีโนไทป์แบบฮอมอไซกัสโดมิแนนท์ = p2
ความถี่ของจีโนไทป์แบบฮอมอไซกัสรีเซสซีพ = q2
และ ความถี่ของจีโนไทป์แบบเฮเทอโรไซกัส = 2pq
เพราะฉะนั้นความถี่รวมของจีโนไทป์แบบต่างๆ ในประชากร คือ p2 + 2pq + q2 และเขียน
เป็นสมการการกระจายความถี่ของจีโนไทป์ต่างๆ ในประชากรได้ ดังนี้

  p2 + 2pq + q2 = (p + q)2 เพราะว่า p + q = 1 จึง
แปลงสมการเป็น p2 + 2pq + q2 = 1
สมการนี้เรียกว่า สมการฮาร์ดี-ไวน์เบิร์ก สามารถใช้สมการนี้ในการตรวจสอบความถี่ของแอลลีลและความถี่ของจีโนไทป์ในประชากรที่อยู่ในภาวะสมดุลได้
ประชากรตามหลักฮาร์ดี-ไวน์เบิร์ก เป็นประชากรในอุดมคติ ความสมดุลทางพันธุกรรมของประชากรเกิดขึ้นได้ภายใต้ข้อสมมติ (assumption) ต่อไปนี้

1. ประชากรขนาดใหญ่ (large population) จำนวนสมาชิกในประชากรมีมาก ดังนั้นเมื่อสูญเสียบุคคลที่มีจีโนไทป์ใดจีโนไทป์หนึ่งไปโดยบังเอิญจึงไม่ส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงความถี่ของแอลลีล เช่น ในประชากรตัวอย่างข้างต้น ถ้ามีการสูญเสียบุคคลที่มีจีโนไทป์ BB ไปบ้างโดยบังเอิญ ความถี่ของแอลลีล B ในยีนพูลไม่เปลี่ยนแปลง

2. การผสมแบบสุ่ม (random mating) หมายถึง การที่บุคคลที่มีจีโนไทป์แบบต่างๆ ในประชากรไม่มีการเลือกจีโนไทป์ในการผสมพันธุ์ เช่น ประชากรที่มีจีโนไทป์ 3 แบบคือ BB, Bb และ bb บุคคลที่มีจีโนไทป์ BB มีโอกาสผสมพันธุ์กับบุคคลที่มีจีโนไทป์BB หรือ Bb หรือ bb ได้เท่าเทียมกัน

3. ไม่มีการกลาย (no mutation) ในประชากรไม่มีการกลายของยีน เช่น การกลายของแอลลีล b เป็นแอลลีล B หรือ การกลายของแอลลีล B เป็นแอลลีล b เกิดขึ้น จึงไม่มีการเพิ่มหรือการสูญเสียแอลลีลใดจากประชากร

4. ไม่มีการอพยพ (no migration) สมาชิกของประชากรไม่มีการย้ายออกไป และไม่มีสมาชิกจากประชากรกลุ่มอื่นอพยพย้ายเข้ามา จึงไม่มีการนำแอลลีลออก หรือเข้าสู่ประชากร

5. ไม่มีการคัดเลือกตามธรรมชาติ (no natural selection) บุคคลที่มีจีโนไทป์ต่างๆ ในประชากรสามารถเติบโตจนถึงวัยเจริญพันธุ์ และสืบพันธุ์ถ่ายทอดยีนของแต่ละบุคคลไปยังชั่วรุ่นถัดไปได้เท่าเทียมกัน

 

ในธรรมชาติประชากรที่มีความสมดุลทางพันธุกรรมมีน้อยมาก ส่วนใหญ่แล้วประชากรมีการเปลี่ยนแปลงความถี่ของแอลลีล และความถี่ของจีโนไทป์อยู่ตลอดเวลา โดยเป็นการเปลี่ยนแปลงทีละน้อยเพื่อตอบสนองต่อสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนไปภายในช่วงเวลาสั้นๆ จัดเป็น วิวัฒนาการในระดับจุลภาค (microevolution) ปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงความถี่ของแอลลีลในประชากร คือ ปัจจัยที่มีมีผลตรงกันข้ามกับข้อสมมติของหลักฮาร์ดี-ไวน์เบิร์กที่กล่าวไว้ข้างต้นเช่น ประชากรขนาดเล็กมีจำนวนสมาชิกน้อย ประชากรขนาดใหญ่ที่ลดขนาดลงอย่างฉับพลัน มีการผสมพันธุ์ระหว่างสมาชิกในประชากรแบบเลือกลักษณะหรือเลือกจีโนไทป์ มีการอพยพของสมาชิกต่างประชากรเข้ามาอย่างต่อเนื่อง มีการกลายซึ่งก่อให้เกิดความผันแปรทางพันธุกรรมระหว่างบุคคลในประชากร และมีการคัดเลือกตามธรรมชาติเกิดขึ้น เป็นต้น ดังนั้นเมื่อมีปัจจัยเหล่านี้เกิดขึ้นกับสมาชิกของประชากร จะส่งผลให้ประชากรมีวิวัฒนาการ

 

 

การคัดเลือกตามธรรมชาติ (Natural Selection)

ตามทฤษฎีของดาร์วิน การคัดเลือกตามธรรมชาติเป็นกลไกการเกิดวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต โดยสมาชิกที่ประสบความสำเร็จในการปรับตัวต่อสภาพแวดล้อมมีโอกาสอยู่รอดและสืบพันธุ์ถ่ายทอดลักษณะไปยังรุ่นลูกได้มากกว่าสมาชิกที่ไม่สามารถปรับตัวได้ กล่าวคือ ในประชากรหนึ่งประกอบด้วยสมาชิกที่มีลักษณะทางฟีโนไทป์หลากหลายโดยส่วนใหญ่เป็นลักษณะที่กำหนดโดยพันธุกรรม ในสภาวะแวดล้อมบางสภาวะอาจมีลักษณะไม่เหมาะสมต่อการดำรงชีวิตขณะที่มีบางลักษณะเหมาะสมต่อสภาพแวดล้อมสามารถอยู่รอดและดำรงชีวิตต่อไปได้ อย่างไรก็ตามการมีชีวิตรอดของสมาชิกที่มีลักษณะเหมาะสมไม่ได้เป็นสิ่งกำหนดว่าสมาชิกที่มีลักษณะนั้นๆจะสามารถถ่ายทอดยีนไปสู่รุ่นลูกได้มากกว่าพว
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
Of a specific frequency of phenotypic proportion between individuals with the total phenotypic person g.ทั้งหมดในประชากร ในตัวอย่างข้างต้น ความถี่ของจีโนไทป์ BB คือ 1490/1000 หรือ 0.49 และความถี่ของจีโนไทป์ Bb และ bb เท่ากับ 0.42 (42/1000) และ 0.09 (90/1000) ตามลำดับ เป็นต้นสำหรับความถี่ของแอลลีลหนึ่งๆ คือ จำนวนแอลลีลนั้นต่อจำนวนแอลลีลทั้งหมดของยีนหนึ่งๆ ในประชากร เช่น ความถี่ของแอลลีล B เท่ากับจำนวนแอลลีล B ทั้งหมด หารด้วยผลรวมของจำนวนแอลลีล B และแอลลีล b ในประชากร โดยที่ในจีโนไทป์ของแต่ละบุคคลยีนหนึ่งๆ ประกอบด้วยสองแอลลีล ดังนั้นประชากรตัวอย่างจึงมีจำนวนแอลลีลของยีนแต่ละยีนเท่ากับ 2,000 (2 × 1,000) แอลลีล เพราะฉะนั้นความถี่ของแอลลีล B จึงคำนวณจาก จำนวนบุคคลที่มีจีโนไทป์ BB 490 คน ซึ่งคิดเป็นจำนวนแอลลีล B ได้ 980 (490 × 2) แอลลีล รวมกับจำนวนแอลลีล B 420 แอลลีลจากบุคคลที่มีจีโนไทป์ Bb 420 คน จำนวนของแอลลีล B ในประชากรนี้จึงเท่ากับ 1400 (980 + 420) แอลลีล คิดเป็นความถี่ของแอลลีล B ได้เท่ากับ 0.7 (1400/2000) ในทำนองเดียวกัน จำนวนแอลลีล b เท่ากับ 0.3 (600/2000) ซึ่งเมื่อรวมความถี่ของแอลลีล B และแอลลีล b มีค่าเท่ากับ 1 (0.7 + 0.3)  เมื่อระยะเวลาผ่านไปมีการเปลี่ยนแปลงยีนพูลของประชากร โดยสำรวจพบว่าความถี่ของแอลลีลและความถี่ของจีโนไทป์ต่างไปจากเดิม แสดงว่าประชากรมีวิวัฒนาการเกิดขึ้น ในทางตรงกันข้าม ถ้าพบว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงความถี่ของแอลลีลและความถี่ของจีโนไทป์ในแต่ละชั่วรุ่น แสดงว่าประชากรนั้นไม่มีวิวัฒนาการนั่นเอง ประชากรที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงความถี่ของแอลลีลและความถี่ของจีโนไทป์ในแต่ละชั่วรุ่น เป็นประชากรที่มีความสมดุลทางพันธุกรรม (genetic equilibrium) เรียกว่า ประชากรในภาวะสมดุล (equilibrium population)  ในปี ค.ศ. 1908 ก๊อดเฟรด์ ฮาร์ดี (Godfrey Hardy) นักคณิตศาสตร์ชาวอังกฤษ และวิลเฮล์มไวน์เบิร์ก (Wilhelm Weinberg) อธิบายความสมดุลทางพันธุกรรมของประชากรโดยใช้วิธีการทางคณิตศาสตร์ ซึ่งปัจจุบันเรียกว่า หลักฮาร์ดี-ไวน์เบิร์ก (Hardy-Weinberg Principle) โดยอธิบายว่า"ในประชากรขนาดใหญ่ที่มีการผสมพันธุ์ระหว่างสมาชิกแบบสุ่ม (random mating) ถ้าไม่มีการกลาย การอพยพ และการคัดเลือกตามธรรมชาติเกิดขึ้น ความถี่ของแอลลีลและความถี่ของจีโนไทป์ในรุ่นถัดไปจะไม่เปลี่ยนแปลง" จากหลักฮาร์ดี-ไวน์เบิร์ก กำหนดให้ยีนพูลของประชากรหนึ่งมีความถี่ของแอลลีลที่ 1(สมมติให้เป็นแอลลีลเด่น) = p และความถี่ของแอลลีลที่ 2 (สมมติให้เป็นแอลลีลด้อย) = q โดย p+q มีค่าเท่ากับ 1 ดังนั้นความถี่ของจีโนไทป์แบบต่างๆ ในประชากรจึงมีค่า ดังต่อไปนี้ ความถี่ของจีโนไทป์แบบฮอมอไซกัสโดมิแนนท์ = p2ความถี่ของจีโนไทป์แบบฮอมอไซกัสรีเซสซีพ = q2และ ความถี่ของจีโนไทป์แบบเฮเทอโรไซกัส = 2pqเพราะฉะนั้นความถี่รวมของจีโนไทป์แบบต่างๆ ในประชากร คือ p2 + 2pq + q2 และเขียนเป็นสมการการกระจายความถี่ของจีโนไทป์ต่างๆ ในประชากรได้ ดังนี้
  p2 + 2pq + q2 = (p + q)2 เพราะว่า p + q = 1 จึง
แปลงสมการเป็น p2 + 2pq + q2 = 1
สมการนี้เรียกว่า สมการฮาร์ดี-ไวน์เบิร์ก สามารถใช้สมการนี้ในการตรวจสอบความถี่ของแอลลีลและความถี่ของจีโนไทป์ในประชากรที่อยู่ในภาวะสมดุลได้
ประชากรตามหลักฮาร์ดี-ไวน์เบิร์ก เป็นประชากรในอุดมคติ ความสมดุลทางพันธุกรรมของประชากรเกิดขึ้นได้ภายใต้ข้อสมมติ (assumption) ต่อไปนี้

1. ประชากรขนาดใหญ่ (large population) จำนวนสมาชิกในประชากรมีมาก ดังนั้นเมื่อสูญเสียบุคคลที่มีจีโนไทป์ใดจีโนไทป์หนึ่งไปโดยบังเอิญจึงไม่ส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงความถี่ของแอลลีล เช่น ในประชากรตัวอย่างข้างต้น ถ้ามีการสูญเสียบุคคลที่มีจีโนไทป์ BB ไปบ้างโดยบังเอิญ ความถี่ของแอลลีล B ในยีนพูลไม่เปลี่ยนแปลง

2. การผสมแบบสุ่ม (random mating) หมายถึง การที่บุคคลที่มีจีโนไทป์แบบต่างๆ ในประชากรไม่มีการเลือกจีโนไทป์ในการผสมพันธุ์ เช่น ประชากรที่มีจีโนไทป์ 3 แบบคือ BB, Bb และ bb บุคคลที่มีจีโนไทป์ BB มีโอกาสผสมพันธุ์กับบุคคลที่มีจีโนไทป์BB หรือ Bb หรือ bb ได้เท่าเทียมกัน

3. ไม่มีการกลาย (no mutation) ในประชากรไม่มีการกลายของยีน เช่น การกลายของแอลลีล b เป็นแอลลีล B หรือ การกลายของแอลลีล B เป็นแอลลีล b เกิดขึ้น จึงไม่มีการเพิ่มหรือการสูญเสียแอลลีลใดจากประชากร

4. ไม่มีการอพยพ (no migration) สมาชิกของประชากรไม่มีการย้ายออกไป และไม่มีสมาชิกจากประชากรกลุ่มอื่นอพยพย้ายเข้ามา จึงไม่มีการนำแอลลีลออก หรือเข้าสู่ประชากร

5. ไม่มีการคัดเลือกตามธรรมชาติ (no natural selection) บุคคลที่มีจีโนไทป์ต่างๆ ในประชากรสามารถเติบโตจนถึงวัยเจริญพันธุ์ และสืบพันธุ์ถ่ายทอดยีนของแต่ละบุคคลไปยังชั่วรุ่นถัดไปได้เท่าเทียมกัน

 

ในธรรมชาติประชากรที่มีความสมดุลทางพันธุกรรมมีน้อยมาก ส่วนใหญ่แล้วประชากรมีการเปลี่ยนแปลงความถี่ของแอลลีล และความถี่ของจีโนไทป์อยู่ตลอดเวลา โดยเป็นการเปลี่ยนแปลงทีละน้อยเพื่อตอบสนองต่อสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนไปภายในช่วงเวลาสั้นๆ จัดเป็น วิวัฒนาการในระดับจุลภาค (microevolution) ปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงความถี่ของแอลลีลในประชากร คือ ปัจจัยที่มีมีผลตรงกันข้ามกับข้อสมมติของหลักฮาร์ดี-ไวน์เบิร์กที่กล่าวไว้ข้างต้นเช่น ประชากรขนาดเล็กมีจำนวนสมาชิกน้อย ประชากรขนาดใหญ่ที่ลดขนาดลงอย่างฉับพลัน มีการผสมพันธุ์ระหว่างสมาชิกในประชากรแบบเลือกลักษณะหรือเลือกจีโนไทป์ มีการอพยพของสมาชิกต่างประชากรเข้ามาอย่างต่อเนื่อง มีการกลายซึ่งก่อให้เกิดความผันแปรทางพันธุกรรมระหว่างบุคคลในประชากร และมีการคัดเลือกตามธรรมชาติเกิดขึ้น เป็นต้น ดังนั้นเมื่อมีปัจจัยเหล่านี้เกิดขึ้นกับสมาชิกของประชากร จะส่งผลให้ประชากรมีวิวัฒนาการ

 

 

การคัดเลือกตามธรรมชาติ (Natural Selection)

ตามทฤษฎีของดาร์วิน การคัดเลือกตามธรรมชาติเป็นกลไกการเกิดวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต โดยสมาชิกที่ประสบความสำเร็จในการปรับตัวต่อสภาพแวดล้อมมีโอกาสอยู่รอดและสืบพันธุ์ถ่ายทอดลักษณะไปยังรุ่นลูกได้มากกว่าสมาชิกที่ไม่สามารถปรับตัวได้ กล่าวคือ ในประชากรหนึ่งประกอบด้วยสมาชิกที่มีลักษณะทางฟีโนไทป์หลากหลายโดยส่วนใหญ่เป็นลักษณะที่กำหนดโดยพันธุกรรม ในสภาวะแวดล้อมบางสภาวะอาจมีลักษณะไม่เหมาะสมต่อการดำรงชีวิตขณะที่มีบางลักษณะเหมาะสมต่อสภาพแวดล้อมสามารถอยู่รอดและดำรงชีวิตต่อไปได้ อย่างไรก็ตามการมีชีวิตรอดของสมาชิกที่มีลักษณะเหมาะสมไม่ได้เป็นสิ่งกำหนดว่าสมาชิกที่มีลักษณะนั้นๆจะสามารถถ่ายทอดยีนไปสู่รุ่นลูกได้มากกว่าพว
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:[สำเนา]
คัดลอก!

One genotype frequencies of the ratio between the number of individuals with the genotype that individuals in the population. In the above example, The frequency of genotype BB is 1490/1000 or frequency of genotypes Bb and bb 0.49 and 0.42 (42/1000) and 0.09 (90/1000), respectively, for the frequency of alleles is one of the alleles. The number of alleles of genes of the population, such as the frequency of alleles B is equal to the number of alleles B divided by the sum of the number of alleles and B alleles b in the population by that. The genotype of each gene, one other person. It consists of two alleles The sample comprises alleles of each gene transcripts were 2,000 (2 × 1,000) alleles, so the frequency of alleles B is calculated by the number of individuals with genotype BB 490 people representing a number of LA. Lille B was 980 (490 × 2) alleles with the number of alleles B 420 alleles from individuals with genotype Bb 420 the number of alleles B in this population is equal to 1400 (980. + 420) alleles representing frequencies of alleles B is equal to 0.7 (1400/2000) Similarly, the number of alleles 0.3 b (600/2000) which, when combined frequencies of alleles B. alleles and b is equal to 1 (0.7: 0.3) over time to change the gene pool of a population. The survey found that the frequency of allele and genotype frequencies different from the original. Show that populations evolve happen. On the other hand If that does not change the frequency of an allele and genotype frequencies of each generation. Show that the population is not evolution itself. The population does not change the frequency of alleles and genotypes frequencies in each generation. The population is balanced genetic (genetic equilibrium) the population in equilibrium (equilibrium population) in 1908 Godley Hotel Frederick Hardy (Godfrey Hardy) British mathematician. And Wilhelm M. Weinberg (Wilhelm Weinberg) describe the genetic balance of the population using a mathematical algorithm. Which today is called Main Hardy - Weinberg. (Hardy-Weinberg Principle) by explaining that "in a large population with random mating between members (random mating) if there is no mutation, migration and natural selection occur. Frequencies of alleles and genotypes frequency in the next generation will not change " from the Hardy - Weinberg. The gene pool of a population at a frequency of alleles. 1 (assuming a dominant alleles) = p and frequency of alleles at two (assuming that the alleles are recessive) = q by p + q is equal to 1, so the frequency of different genotypes. In population, it is The following frequencies of genotypes in Homburg the site Gus Dominguez Nantwich = p2 frequency of genotypes in Homburg the site Vegas Resort Spa Sea = q2 and frequency of genotypes with Heather Heterocyclic Vegas. = 2pq hence the frequency of genotypes different in population is p2 + 2pq + q2 and write the equation of the frequency distribution of genotypes in the population has the   p2 + 2pq + q2 = (p + q) 2 because p + q = 1. The conversion equation is p2 + 2pq + q2 = 1 equation is called. Equation Hardy - Weinberg. This equation can be used to determine the frequencies of alleles and genotypes frequency in the population is in equilibrium the population by Hardy - Weinberg. The ideal population The balance of population genetic occur under the assumption (assumption) the following : 1. a large population (large population) have very many members of the population. So when a person has lost any genotype genotype one accidentally does not result in a change in the frequency of alleles in a population, such as the example above. If the losing party genotype BB somewhat by chance. The frequency of alleles in the gene pool unchanged B 2. The random mix (random mating) means that individuals with different genotypes. The population has not been selected genotypes in breeding populations like genotype 3 is BB, Bb and bb individuals with genotype BB had a chance to mate with individuals with genotype BB or Bb or bb is equal third. No mutation (no mutation) in a population without the mutation of genes such as mutation of alleles b are alleles B or mutation of alleles B is alleles b thus no increase. or any loss of alleles from the population 4. No evacuation (no migration) of the population is moving away. And no members of other immigrant groups move in. The lack of alleles out. Or to the population 5. No natural selection (no natural selection) individuals with different genotypes. The population can grow to reproductive age. And reproduction of individual genes to the next generation as equal in natural populations balanced genetic minimal. Most of the population is changing the frequency of alleles. And genotype frequencies of the time. The gradual change in response to environmental changes within a short period of evolution at the micro level. (Microevolution) factors that cause a change in the frequency of alleles in a population are the factors that have an effect contrary to the assumptions of the Hardy - Weinberg mentioned above, for example. Members of a small minority. A large population of scaled-down abruptly. Mating between members of a selected population characteristics, or genotype. The evacuation of the population, continued. Has become a cause of genetic variation between individuals in a population. And natural selection has occurred, etc. So when these factors occur with members of the population. Will result in a population to evolve, natural selection (Natural Selection) , according to Darwin's theory. Natural selection as the mechanism of evolution of living organisms. Members who succeed in adapting to the environment is likely to survive and reproduce, transferring to the progeny have more members who are unable to adapt, namely the population consisting of members with characteristic phenotypic diversity. Most of the manner determined by genetics. In environmental conditions may be unsuitable for life as a certain manner appropriate to the environment can survive and live longer. However, the surviving members of a right, not a requirement that members are then able to transfer the gene to the future generations more.



 

 



 

 





 



 






















 



 

 



การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
อีวานในศูนย์ 2 วัน อย่างไรก็ตาม ผู้ประเมินมักใช้เวลาอีกสองวันเปรียบเทียบการสังเกตของพวกเขาและทำให้การประเมินผลสุดท้ายของแต่ละผู้สมัคร ในขณะที่บางศูนย์กระบวนการเพียง 6 คน ที่เวลาส่วนใหญ่กระบวนการ 12 อัตราส่วนของผู้ที่เข้าร่วมนอกจากนี้ยังแตกต่างจากสามคนแบบหนึ่งต่อหนึ่งอีวานในศูนย์ 2 วัน อย่างไรก็ตาม ผู้ประเมินมักใช้เวลาอีกสองวันเปรียบเทียบการสังเกตของพวกเขาและทำให้การประเมินผลสุดท้ายของแต่ละผู้สมัคร ในขณะที่บางศูนย์กระบวนการเพียง 6 คน ที่เวลาส่วนใหญ่กระบวนการ 12 อัตราส่วนของผู้ที่เข้าร่วมนอกจากนี้ยังแตกต่างจากสามคนแบบหนึ่งต่อหนึ่งอีวานในศูนย์ 2 วัน อย่างไรก็ตาม ผู้ประเมินมักใช้เวลาอีกสองวันเปรียบเทียบการสังเกตของพวกเขาและทำให้การประเมินผลสุดท้ายของแต่ละผู้สมัคร ในขณะที่บางศูนย์กระบวนการเพียง 6 คน ที่เวลาส่วนใหญ่กระบวนการ 12 อัตราส่วนของผู้ที่เข้าร่วมนอกจากนี้ยังแตกต่างจากสามคนแบบหนึ่งต่อหนึ่งอีวานในศูนย์ 2 วัน อย่างไรก็ตาม ผู้ประเมินมักใช้เวลาอีกสองวันเปรียบเทียบการสังเกตของพวกเขาและทำให้การประเมินผลสุดท้ายของแต่ละผู้สมัคร ในขณะที่บางศูนย์กระบวนการเพียง 6 คน ที่เวลาส่วนใหญ่กระบวนการ 12 อัตราส่วนของผู้ที่เข้าร่วมนอกจากนี้ยังแตกต่างจากสามคนแบบหนึ่งต่อหนึ่งอีวานในศูนย์ 2 วัน อย่างไรก็ตาม ผู้ประเมินมักใช้เวลาอีกสองวันเปรียบเทียบการสังเกตของพวกเขาและทำให้การประเมินผลสุดท้ายของแต่ละผู้สมัคร ในขณะที่บางศูนย์กระบวนการเพียง 6 คน ที่เวลาส่วนใหญ่กระบวนการ 12 อัตราส่วนของผู้ที่เข้าร่วมนอกจากนี้ยังแตกต่างจากสามคนแบบหนึ่งต่อหนึ่งอีวานในศูนย์ 2 วัน อย่างไรก็ตาม ผู้ประเมินมักใช้เวลาอีกสองวันเปรียบเทียบการสังเกตของพวกเขาและทำให้การประเมินผลสุดท้ายของแต่ละผู้สมัคร ในขณะที่บางศูนย์กระบวนการเพียง 6 คน ที่เวลาส่วนใหญ่กระบวนการ 12 อัตราส่วนของผู้ที่เข้าร่วมนอกจากนี้ยังแตกต่างจากสามคนแบบหนึ่งต่อหนึ่งอีวานในศูนย์ 2 วัน อย่างไรก็ตาม ผู้ประเมินมักใช้เวลาอีกสองวันเปรียบเทียบการสังเกตของพวกเขาและทำให้การประเมินผลสุดท้ายของแต่ละผู้สมัคร ในขณะที่บางศูนย์กระบวนการเพียง 6 คน ที่เวลาส่วนใหญ่กระบวนการ 12 อัตราส่วนของผู้ที่เข้าร่วมนอกจากนี้ยังแตกต่างจากสามคนแบบหนึ่งต่อหนึ่งอีวานในศูนย์ 2 วัน อย่างไรก็ตาม ผู้ประเมินมักใช้เวลาอีกสองวันเปรียบเทียบการสังเกตของพวกเขาและทำให้การประเมินผลสุดท้ายของแต่ละผู้สมัคร ในขณะที่บางศูนย์กระบวนการเพียง 6 คน ที่เวลาส่วนใหญ่กระบวนการ 12 อัตราส่วนของผู้ที่เข้าร่วมนอกจากนี้ยังแตกต่างจากสามคนแบบหนึ่งต่อหนึ่งอีวานในศูนย์ 2 วัน อย่างไรก็ตาม ผู้ประเมินมักใช้เวลาอีกสองวันเปรียบเทียบการสังเกตของพวกเขาและทำให้การประเมินผลสุดท้ายของแต่ละผู้สมัคร ในขณะที่บางศูนย์กระบวนการเพียง 6 คน ที่เวลาส่วนใหญ่กระบวนการ 12 อัตราส่วนของผู้ที่เข้าร่วมนอกจากนี้ยังแตกต่างจากสามคนแบบหนึ่งต่อหนึ่งอีวานในศูนย์ 2 วัน อย่างไรก็ตาม ผู้ประเมินมักใช้เวลาอีกสองวันเปรียบเทียบการสังเกตของพวกเขาและทำให้การประเมินผลสุดท้ายของแต่ละผู้สมัคร ในขณะที่บางศูนย์กระบวนการเพียง 6 คน ที่เวลาส่วนใหญ่กระบวนการ 12 อัตราส่วนของผู้ที่เข้าร่วมนอกจากนี้ยังแตกต่างจากสามคนแบบหนึ่งต่อหนึ่งอีวานในศูนย์ 2 วัน อย่างไรก็ตาม ผู้ประเมินมักใช้เวลาอีกสองวันเปรียบเทียบการสังเกตของพวกเขาและทำให้การประเมินผลสุดท้ายของแต่ละผู้สมัคร ในขณะที่บางศูนย์กระบวนการเพียง 6 คน ที่เวลาส่วนใหญ่กระบวนการ 12 อัตราส่วนของผู้ที่เข้าร่วมนอกจากนี้ยังแตกต่างจากสามคนแบบหนึ่งต่อหนึ่งอีวานในศูนย์ 2 วัน อย่างไรก็ตาม ผู้ประเมินมักใช้เวลาอีกสองวันเปรียบเทียบการสังเกตของพวกเขาและทำให้การประเมินผลสุดท้ายของแต่ละผู้สมัคร ในขณะที่บางศูนย์กระบวนการเพียง 6 คน ที่เวลาส่วนใหญ่กระบวนการ 12 อัตราส่วนของผู้ที่เข้าร่วมนอกจากนี้ยังแตกต่างจากสามคนแบบหนึ่งต่อหนึ่งอีวานในศูนย์ 2 วัน อย่างไรก็ตาม ผู้ประเมินมักใช้เวลาอีกสองวันเปรียบเทียบการสังเกตของพวกเขาและทำให้การประเมินผลสุดท้ายของแต่ละผู้สมัคร ในขณะที่บางศูนย์กระบวนการเพียง 6 คน ที่เวลาส่วนใหญ่กระบวนการ 12 อัตราส่วนของผู้ที่เข้าร่วมนอกจากนี้ยังแตกต่างจากสามคนแบบหนึ่งต่อหนึ่งอีวานในศูนย์ 2 วัน อย่างไรก็ตาม ผู้ประเมินมักใช้เวลาอีกสองวันเปรียบเทียบการสังเกตของพวกเขาและทำให้การประเมินผลสุดท้ายของแต่ละผู้สมัคร ในขณะที่บางศูนย์กระบวนการเพียง 6 คน ที่เวลาส่วนใหญ่กระบวนการ 12 อัตราส่วนของผู้ที่เข้าร่วมนอกจากนี้ยังแตกต่างจากสามคนแบบหนึ่งต่อหนึ่งอีวานในศูนย์ 2 วัน อย่างไรก็ตาม ผู้ประเมินมักใช้เวลาอีกสองวันเปรียบเทียบการสังเกตของพวกเขาและทำให้การประเมินผลสุดท้ายของแต่ละผู้สมัคร ในขณะที่บางศูนย์กระบวนการเพียง 6 คน ที่เวลาส่วนใหญ่กระบวนการ 12 อัตราส่วนของผู้ที่เข้าร่วมนอกจากนี้ยังแตกต่างจากสามคนแบบหนึ่งต่อหนึ่งอีวานในศูนย์ 2 วัน อย่างไรก็ตาม ผู้ประเมินมักใช้เวลาอีกสองวันเปรียบเทียบการสังเกตของพวกเขาและทำให้การประเมินผลสุดท้ายของแต่ละผู้สมัคร ในขณะที่บางศูนย์กระบวนการเพียง 6 คน ที่เวลาส่วนใหญ่กระบวนการ 12 อัตราส่วนของผู้ที่เข้าร่วมนอกจากนี้ยังแตกต่างจากสามคนแบบหนึ่งต่อหนึ่งอีวานในศูนย์ 2 วัน อย่างไรก็ตาม ผู้ประเมินมักใช้เวลาอีกสองวันเปรียบเทียบการสังเกตของพวกเขาและทำให้การประเมินผลสุดท้ายของแต่ละผู้สมัคร ในขณะที่บางศูนย์กระบวนการเพียง 6 คน ที่เวลาส่วนใหญ่กระบวนการ 12 อัตราส่วนของผู้ที่เข้าร่วมนอกจากนี้ยังแตกต่างจากสามคนแบบหนึ่งต่อหนึ่งอีวานในศูนย์ 2 วัน อย่างไรก็ตาม ผู้ประเมินมักใช้เวลาอีกสองวันเปรียบเทียบการสังเกตของพวกเขาและทำให้การประเมินผลสุดท้ายของแต่ละผู้สมัคร ในขณะที่บางศูนย์กระบวนการเพียง 6 คน ที่เวลาส่วนใหญ่กระบวนการ 12 อัตราส่วนของผู้ที่เข้าร่วมนอกจากนี้ยังแตกต่างจากสามคนแบบหนึ่งต่อหนึ่งอีวานในศูนย์ 2 วัน อย่างไรก็ตาม ผู้ประเมินมักใช้เวลาอีกสองวันเปรียบเทียบการสังเกตของพวกเขาและทำให้การประเมินผลสุดท้ายของแต่ละผู้สมัคร ในขณะที่บางศูนย์กระบวนการเพียง 6 คน ที่เวลาส่วนใหญ่กระบวนการ 12 อัตราส่วนของผู้ที่เข้าร่วมนอกจากนี้ยังแตกต่างจากสามคนแบบหนึ่งต่อหนึ่งอีวานในศูนย์ 2 วัน อย่างไรก็ตาม ผู้ประเมินมักใช้เวลาอีกสองวันเปรียบเทียบการสังเกตของพวกเขาและทำให้การประเมินผลสุดท้ายของแต่ละผู้สมัคร ในขณะที่บางศูนย์กระบวนการเพียง 6 คน ที่เวลาส่วนใหญ่กระบวนการ 12 อัตราส่วนของผู้ที่เข้าร่วมนอกจากนี้ยังแตกต่างจากสามคนแบบหนึ่งต่อหนึ่ง
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: