การศึกษาแผนใหม่ในประเทศไทย อันที่จริงแล้วแรกเริ่มมาต้งแต่ พ.ศ. 2379 (ค การแปล - การศึกษาแผนใหม่ในประเทศไทย อันที่จริงแล้วแรกเริ่มมาต้งแต่ พ.ศ. 2379 (ค อังกฤษ วิธีการพูด

การศึกษาแผนใหม่ในประเทศไทย อันที่จร

การศึกษาแผนใหม่ในประเทศไทย อันที่จริงแล้วแรกเริ่มมาต้งแต่ พ.ศ. 2379 (ค.ศ. 1836) เมื่อมิสซิสแดน บีช บรัดเล่ย์ (Mrs. Dan Beach Bradley) มิชชั่นเนรี (Missionary) จากสหรัฐอเมริกา เป็นผู้บุกเบิกรุ่นแรก ได้เริ่มโรงเรียนสอนเด็กหญิงขึ้นที่บ้านของท่าน มีนักเรียนเพียง 9 คน จ้างครูมาสอนเลข อ่าน และเขียน ตัวท่านเองสอนร้องเพลงและพระคัมภีร์ อาจกล่าวได้ว่าโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัยเริ่มรกรากมาตั้งแต่ พ.ศ. 2379 (ค.ศ. 1836) ก็ว่าได้
ต่อมามิสซิสแฮเรียต เอ็ม เฮาส์ (Mr. Harriet M. House) มิชชั่นเนรีรุ่นต่อมาก็ได้กระทำเช่นเดียวกัน มีการสอนภาษาอังกฤษและเย็บปักถักร้อยเพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกัน ตัวท่านเองยังได้รับเชิญไปสอนสตรีสูงศักดิ์ในวังอีกด้วย จนเป็นที่คุ้นเคยกับพระมหากษัตริย์ (รัชกาลที่ 4) และพระบรมวงศานุวงศ์ ประกอบกับสามีของท่าน Dr. Samuel House ซึ่งเป็นแพทย์ทันสมัย ได้รับการไว้วางพระราชหฤทัยจากพระบาทสมเด็จพระจอมเล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงรับหมอเฮาส์ไว้เป็นแพทย์หลวง
ครั้นในปี พ.ศ. 2415 (ค.ศ. 1872) มิสซิสเฮาส์และครอบครัวกลับไปพักผ่อนยังบ้านเกิดเมืองนอนของท่าน (ในสหรัฐอเมริกา) เป็นเวลา 1 ปี มิสซิสเฮาส์มีความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะสถาปนาโรงเรียนสตรีให้เป็นปึกแผ่นขึ้นในประเทศไทย จึงออกไปพูดตามที่ต่างๆ ถึงงานที่ท่านกระทำอยู่ในเวลานั้น โดยเฉพาะการจัดตั้งโรงเรียน เพื่อให้การศึกษาแก่เด็กหญิงไทย มีผู้สนใจงานของท่านมากมาย จึงได้รับเงินบริจาคมาจำนวนหนึ่ง (4,000 เหรียญ) เพื่อมาสร้างโรงเรียนตามปณิธานของท่าน ฝรั่งเรียกว่าโรงเรียน “Harriet M. House School for Girls” แต่คนไทยเรียกว่า “โรงเรียนกุลสตรีวังหลัง” เพราะตั้งอยู่ที่ตำบลวังหลัง จังหวัดธนบุรี (ปัจจุบันรวมกับกรุงเทพฯ) เปิดสอนเมื่อพ.ศ. 2417 (ค.ศ. 1874) รับนักเรียนทั้งประจำและไปกลับ ให้กินอยู่และเล่าเรียนโดยไม่ต้องเสียเงินใดๆทั้งสิ้น ขณะนั้นมีนักเรียนประจำ 6 คน ไปมาคนเดียว
ใน พ.ศ. 2426 (ค.ศ. 1883) มิสเอ็ดน่า เซร่ะ โคล ซึ่งสมัครมาเป็นมิชชันนารี ในพ.ศ. 2421 (ค.ศ. 1878) แต่ไปประจำการอยู่เชียงใหม่เสีย 5 ปี ได้มารับงานโรงเรียนกุลสตรีวังหลังต่อจากมิสออมสเตด ขณะนั้นมีนักเรียน 16 คน ฐานะของโรงเรียนก็ไม่สู้จะดีนัก
มิสโคลมีรูปร่างระหง งดงาม เฉลียวฉลาด สุภาพอ่อนโยน เข้มแข็ง อดทน และเคร่งครัดในระเบียบวินัย รู้จักวางตนอย่างกุลสตรีไทย จึงเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป นับตั้งแต่สามัญชน ข้าราชการ ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์
เมื่อมิสโคลมารับงาน ท่านได้เพิ่มวิชาการ ภาษาอังกฤษ การเย็บปักถักร้อยอันเป็นงานของสตรี จำนวนนักเรียนก็มากขึ้น มิสโคลจึงเริ่มเก็บค่าเล่าเรียนและค่าเลี้ยงดูคนละ 5 บาทต่อเดือน ผู้ปกครองพากันไม่พอใจ เพราะเงิน 5 บาทไม่ใช่จำนวนเล็กน้อยในสมัยนั้น จึงมาลานักเรียนออกจากโรงเรียนเสียหลายคน ครั้นต่อมาไม่นานก็ปรากฎว่า มีนักเรียนเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม
มิสโคลผู้เล็งเห็นการณ์ไกล ใฝ่ฝันที่จะพัฒนาการศึกษาของเด็กหญิงไทยให้เจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้น ท่านจึงเริ่มออกเรี่ยไร หาเงินสำหรับซื้อที่ดินเพิ่มเติมเพื่อขยายโรงเรียน และได้เช่าอาคารโรงบ่อนซึ่งรัฐบาลเลิกไปแล้ว เพราะอยู่ใกล้กับวังหลัง จัดเป็นห้องเรียน เรียกว่า “อุทิศสถาน” เปิดสอนจนถึงชั้นมัธยม 4 (ปัจจุบัน ม.2) จัดงานแจกประกาศนียบัตร (Diploma) แก่นักเรียนจบหลักสูตรเป็นครั้งแรก เมื่อพ.ศ. 2438 (ค.ศ. 1895) มีจำนวน 7 คน นักเรียนรุ่นแรกของโรงเรียนกุลสตรีวังหลังที่เข้าสอบชั้นมัธยมบริบูรณ์ (มัธยม 6) ตามหลักสูตรนักเรียนชายของกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อ พ.ศ. 2446 (ค.ศ. 1903) จำนวน 4 คน ในการสอบครั้งนั้น น.ส. ตาด ประทีปะเสน ได้รับรางวัลวิชาไวยากรณ์ไทย และภาษาอังกฤษจากกระทรวงศึกษาธิการ
โรงเรียนวังหลังได้เปิดสอนวิชาครูขึ้นเป็นครั้งแรกใน พ.ศ. 2432 (ค.ศ. 1889) ครั้นต่อมาในปีพ.ศ. 2436 (ค.ศ. 1893) รัฐบาลเห็นคุณค่าของการศึกษา จึงได้จัดตั้งโรงเรียนสตรีขึ้น เมื่อพ.ศ. 2443 (ค.ศ. 1900) ครูสตรีที่ออกไปสอนในโรงเรียนรัฐบาล 13 แห่ง และโรงเรียนของมิชชันนารีทั่วประเทศ ล้วยสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนกุลสตรีวังหลังทั้งสิ้น
นิตยสารฉบับแรกของประเทศไทยชื่อ “แสงอรุณ (The Day Break)” ศาสนทูต เจ เอ เอกิ้น จัดทำขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2435 (ค.ศ. 1892) และมิสโคลรับทำต่อมา เปลี่ยนชื่อเป็น แมคเอซิน วัฒนา วิทยา มีข่าวสารทั้งในและนอกประเทศ เรื่องเกี่ยวกับคริสตศาสนา เรื่องแปล บทความอันเป็นสาระทั้งร้อยแก้วและร้อยกรอง ตำราอาหารและขนมต่างๆ ข่าวโรงเรียนฯลฯ น่าอ่านยิ่งนัก ออกเป็นรายเดือน กระทั่งถึงสมัยโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น “วัฒนาวิทยา” เปลี่ยนทั้งโฉมหน้าและขนาด แล้วก็กลายมาเป็นหนังสือประจำปี (Year book) นักเรียนจบหลักสูตรของโรงเรียนเป็นผู้จัดทำเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้
ชื่อเสียงของโรงเรียนกุลสตรีวังหลังเลื่องลือไปทั่ว ทั้งในด้านวิชาการ ด้านภาษาอังกฤษ ฯลฯ ดังนั้นในปี พ.ศ. 2434 (ค.ศ. 1891) เมื่อพระเจ้าซาร์ นิโคลัสที่ 2 ซึ่งในขณะนั้นดำรงพระยศเป็นมกุฎราชกุมาร พร้อมด้วยเจ้าชายยอร์ช พระเจ้าอา เสด็จมาเยือนประเทศไทย นับว่าเป็นแขกเมืองคนสำคัญ ประทับที่พระราชวังสราญรมย์ ได้จัดให้มีการคล้องช้างที่บางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พระบาทสมเด็จพระปิยมหาราช และสมเด็จพระบรมราชินีนาถก็ได้เสด็จไปประทับแรมที่นั่นด้วย นอกจากทอดพระเนตรคล้องช้างแล้ว ยังมีงานสโมสรสันนิบาต ตกแต่งประทีปโคมไฟ มีมหรสพรื่นเริง และมีเครื่องว่างต่างๆ เป็นงานเฉพาะพระบรมวงศานุวงศ์และแขกเมืองเท่านั้น
พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงนราธิปประพันธ์พงศ์ ทรงมาขอนักเรียนกุงสตรีวังหลังที่พูดภาษาอังกฤษได้ เพื่อไปเจรจากับเจ้าต่างประเทศ และผู้ติดตามที่ไม่รู้จักภาษาไทย มิสโคลได้จัดครูและนักเรียนรวม 6 คน ไปถวายงานรับแขกเมือง
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมราชินีนาถ รวมทั้งเจ้านายต่างประเทศ ทรงแปลกพระทัยมาก รับสั่งถามว่า
“เรียนหนังสืออังกฤษที่ไหน?”
เมื่อทรงได้รับคำตอบว่า
“เรียนที่กรุงเทพฯ”
กลับรับสั่งถามด้วยความไม่แน่พระทัยว่า
“ไม่ได้ไปตามประเทศหรือ?”
การรับแขกเมืองอีกครั้งหนึ่งใน พ.ศ. 2441 (ค.ศ. 1898) เป็นงานรับเสด็จ เคานต์ ออฟ ตูริน (Count of Turin) เจ้าราชวงศ์อิตาลี ครั้งนั้นพระเจ้าบนมวงศ์เธอ กรมหมื่นทิวากรวงศ์ประวัติ ทรงเป็นผู้จัดการต้อนรับ ได้ขอครูไป 4 คน หม่อมละม้ายในพระองค์ท่านเป็นผู้ดูแล บอกกับมิสโคลว่าจะไปเพียงสองคืน ครั้นครบกำหนด
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
A new plan for education in the country, Thai. In fact, the original variety, but comes from 2379 (1836) (r. 1836) as Miss Xin sadaen. Beach Valley borat (Mrs. Dan Beach Bradley) mission the nature (Missionary) from the United States as a pioneer, the first version of the girls school has started up at your home. There are only 9 students who hire teachers to teach reading and writing numbers. Teach yourself singing and Bible colleges, schools, other settlers began to come in from 2379 (1836) (r. 1836), it said. Later, Miss m riat sahae SIM House (Mr. M. Harriet House) in the subsequent version of the Dutch mission, they have done the same. Teaching English and embroidery added. At the same time. He also has been invited to teach women with dignity and high in the Palace. Until he is familiar with the King (King Rama IV) and a member of the Royal family with your husband Dr. Samuel House, which is a State-of-the-art medical has been a dominate from King Bhumibol sty head. He received a medical doctor's Royal House. But in 2415 (1872) (r. 1872) Zi Miss favorite and his family back to the homeland of the people (in the United States) for a period of 1 year is a favorite of Miss raengkla desires to establish a school for women, is more stable in the country, Thai. So to say that the work he is in that time, particularly the establishment of a school to educate Thai girls. There are plenty of people interested in your work, it has been a number of donation (4000 dollars) to build, according to the school's mission statement. Chewing gum called "school for Girls ' School House M. Harriet, but Thai is also known as" the Lady "in school, Wang because Wang is located at Tambon thon buri province, back (now combined with Bangkok) Opening teaching to 2417 (1874) (r. 1874) for both students and to return to live and study, without any money. While there are only 6 people's students back and forth alone. At 2426 (1883) (r. 1883) Miss Ed's. A missionary who is applying for Cole ra. In the 2421 (1878) (in 1878), but to 5 years of spoil in Chiang Mai, Thailand stationed had been school Lady Wang after-service-station. At that time there were 16 students as the school did not fight well, they. Miss Cole with clever beautiful rahong shapes. Strong, gentle, patient and courteous conduct on discipline known as Thai lady behave thus known as General People's Government, as well as common people, since the Royal family. When Miss Cole had been. Your academic English. Embroidery as well as women's work. The number of students increased. Miss Cole, so start collecting tuition and raising the 5 baht per month. Parents are very dissatisfied because the amount is not a small amount of baht 5 in then out of school students free mala for many people. But it turns out that it's not long later with more students than ever. Miss Cole, who forsee a situation so far Dream to study development of Thai girls make progress as well. So he started to raise funds. Looking for more land to expand the school and the Government-owned factory building, which has been leased to, and because they are located near the Palace after a classroom called "dedicated to the place," he said. Admission to secondary 4 (at present. M 2) held diploma-distribution (Diploma) students graduated curricula for the first time. When 2438 (1895) (r. 1895) with the number 7 of the first generation students who school Lady Wang, after the realization of high school exam (6 high) according to the curriculum of the Ministry of education, male students. When the number of (r. 1903) 2446 (1903) 4 people in that time. Ms. dash cover by Tat's award-winning major Thai and English grammar from the Ministry of education. After teaching school teacher Wang has opened up for the first time in 2432 (1889) (r. 1889) but later in Government-2436 (1893) (r. 1893) went to education, it has established a school for women. When a teacher (r. 1900) 2443 (1900) women out of 13 government schools in teaching and missionary schools across the country. Luai graduated from high school, Lady Wang, after all. The country's first Thai magazine called "light of dawn (The Day Break)" Prophet j AA more kin to 2435 (1892) (in 1892) and Miss Cole was made later. Rename as Mac's presence there, news, science, sin, both in and outside the country. About translation of the Church's theology The article is the essence both prose and hundreds of filters. Recipes and snacks, bulletin read miles, rian plant designers monthly to modern schools, colleges, it was renamed as "science," change of face and size, and then it became a book of the year (Year book) students graduated curricula of the school takes up until today. The reputation of the school spread a rumor back around the Palace Lady both in academic English, and therefore in 2434 (1891) (r. 1891) when God Saar. Nicholas II, which holds his rank at that time as Crown Prince with Prince yacht. God's coming visit to the Thai nation is considered to be an important town Palace, its not Saran insists an elephant at the bang PA-in, Ayutthaya. His Majesty the King in his Kingdom for piyom and the Queen has come to stamp b there. In addition to the elephant spirit and also has a social function. Decorate with festive lanterns, the light marasop and has a blank, as the only member of the Royal family and guests to the city only. Lord wonwong her Royal House of composers narathip Department came back with a student, Wang ngottri, who speaks English. To negotiate with foreign officials and followers that Thai language is unknown. Miss Cole was a teacher and students as well as 6 people to work the living city. His Majesty King Bhumibol Adulyadej and the Queen, as well as provide foreign boss will ask whether to order. "Study English anywhere?" When he gets the answer that. "Study in Bangkok," he said. Back order will certainly not asking whether. "The country has not met them?" The living city again in 2441 (1898) (r. 1898) is getting his count of Turin (Count of Turin), the owner of the times God Italy on her muang. Department of history thiwakon a thousand House reception Manager has asked teachers to 4 people as his MOM Administrator in lamai. Tell Miss Cole that goes just two nights after due.
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
การศึกษาแผนใหม่ในประเทศไทย อันที่จริงแล้วแรกเริ่มมาต้งแต่ พ.ศ. 2379 (ค.ศ. 1836) เมื่อมิสซิสแดน บีช บรัดเล่ย์ (Mrs. Dan Beach Bradley) มิชชั่นเนรี (Missionary) จากสหรัฐอเมริกา เป็นผู้บุกเบิกรุ่นแรก ได้เริ่มโรงเรียนสอนเด็กหญิงขึ้นที่บ้านของท่าน มีนักเรียนเพียง 9 คน จ้างครูมาสอนเลข อ่าน และเขียน ตัวท่านเองสอนร้องเพลงและพระคัมภีร์ อาจกล่าวได้ว่าโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัยเริ่มรกรากมาตั้งแต่ พ.ศ. 2379 (ค.ศ. 1836) ก็ว่าได้
ต่อมามิสซิสแฮเรียต เอ็ม เฮาส์ (Mr. Harriet M. House) มิชชั่นเนรีรุ่นต่อมาก็ได้กระทำเช่นเดียวกัน มีการสอนภาษาอังกฤษและเย็บปักถักร้อยเพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกัน ตัวท่านเองยังได้รับเชิญไปสอนสตรีสูงศักดิ์ในวังอีกด้วย จนเป็นที่คุ้นเคยกับพระมหากษัตริย์ (รัชกาลที่ 4) และพระบรมวงศานุวงศ์ ประกอบกับสามีของท่าน Dr. Samuel House ซึ่งเป็นแพทย์ทันสมัย ได้รับการไว้วางพระราชหฤทัยจากพระบาทสมเด็จพระจอมเล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงรับหมอเฮาส์ไว้เป็นแพทย์หลวง
ครั้นในปี พ.ศ. 2415 (ค.ศ. 1872) มิสซิสเฮาส์และครอบครัวกลับไปพักผ่อนยังบ้านเกิดเมืองนอนของท่าน (ในสหรัฐอเมริกา) เป็นเวลา 1 ปี มิสซิสเฮาส์มีความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะสถาปนาโรงเรียนสตรีให้เป็นปึกแผ่นขึ้นในประเทศไทย จึงออกไปพูดตามที่ต่างๆ ถึงงานที่ท่านกระทำอยู่ในเวลานั้น โดยเฉพาะการจัดตั้งโรงเรียน เพื่อให้การศึกษาแก่เด็กหญิงไทย มีผู้สนใจงานของท่านมากมาย จึงได้รับเงินบริจาคมาจำนวนหนึ่ง (4,000 เหรียญ) เพื่อมาสร้างโรงเรียนตามปณิธานของท่าน ฝรั่งเรียกว่าโรงเรียน “Harriet M. House School for Girls” แต่คนไทยเรียกว่า “โรงเรียนกุลสตรีวังหลัง” เพราะตั้งอยู่ที่ตำบลวังหลัง จังหวัดธนบุรี (ปัจจุบันรวมกับกรุงเทพฯ) เปิดสอนเมื่อพ.ศ. 2417 (ค.ศ. 1874) รับนักเรียนทั้งประจำและไปกลับ ให้กินอยู่และเล่าเรียนโดยไม่ต้องเสียเงินใดๆทั้งสิ้น ขณะนั้นมีนักเรียนประจำ 6 คน ไปมาคนเดียว
ใน พ.ศ. 2426 (ค.ศ. 1883) มิสเอ็ดน่า เซร่ะ โคล ซึ่งสมัครมาเป็นมิชชันนารี ในพ.ศ. 2421 (ค.ศ. 1878) แต่ไปประจำการอยู่เชียงใหม่เสีย 5 ปี ได้มารับงานโรงเรียนกุลสตรีวังหลังต่อจากมิสออมสเตด ขณะนั้นมีนักเรียน 16 คน ฐานะของโรงเรียนก็ไม่สู้จะดีนัก
มิสโคลมีรูปร่างระหง งดงาม เฉลียวฉลาด สุภาพอ่อนโยน เข้มแข็ง อดทน และเคร่งครัดในระเบียบวินัย รู้จักวางตนอย่างกุลสตรีไทย จึงเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป นับตั้งแต่สามัญชน ข้าราชการ ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์
เมื่อมิสโคลมารับงาน ท่านได้เพิ่มวิชาการ ภาษาอังกฤษ การเย็บปักถักร้อยอันเป็นงานของสตรี จำนวนนักเรียนก็มากขึ้น มิสโคลจึงเริ่มเก็บค่าเล่าเรียนและค่าเลี้ยงดูคนละ 5 บาทต่อเดือน ผู้ปกครองพากันไม่พอใจ เพราะเงิน 5 บาทไม่ใช่จำนวนเล็กน้อยในสมัยนั้น จึงมาลานักเรียนออกจากโรงเรียนเสียหลายคน ครั้นต่อมาไม่นานก็ปรากฎว่า มีนักเรียนเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม
มิสโคลผู้เล็งเห็นการณ์ไกล ใฝ่ฝันที่จะพัฒนาการศึกษาของเด็กหญิงไทยให้เจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้น ท่านจึงเริ่มออกเรี่ยไร หาเงินสำหรับซื้อที่ดินเพิ่มเติมเพื่อขยายโรงเรียน และได้เช่าอาคารโรงบ่อนซึ่งรัฐบาลเลิกไปแล้ว เพราะอยู่ใกล้กับวังหลัง จัดเป็นห้องเรียน เรียกว่า “อุทิศสถาน” เปิดสอนจนถึงชั้นมัธยม 4 (ปัจจุบัน ม.2) จัดงานแจกประกาศนียบัตร (Diploma) แก่นักเรียนจบหลักสูตรเป็นครั้งแรก เมื่อพ.ศ. 2438 (ค.ศ. 1895) มีจำนวน 7 คน นักเรียนรุ่นแรกของโรงเรียนกุลสตรีวังหลังที่เข้าสอบชั้นมัธยมบริบูรณ์ (มัธยม 6) ตามหลักสูตรนักเรียนชายของกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อ พ.ศ. 2446 (ค.ศ. 1903) จำนวน 4 คน ในการสอบครั้งนั้น น.ส. ตาด ประทีปะเสน ได้รับรางวัลวิชาไวยากรณ์ไทย และภาษาอังกฤษจากกระทรวงศึกษาธิการ
โรงเรียนวังหลังได้เปิดสอนวิชาครูขึ้นเป็นครั้งแรกใน พ.ศ. 2432 (ค.ศ. 1889) ครั้นต่อมาในปีพ.ศ. 2436 (ค.ศ. 1893) รัฐบาลเห็นคุณค่าของการศึกษา จึงได้จัดตั้งโรงเรียนสตรีขึ้น เมื่อพ.ศ. 2443 (ค.ศ. 1900) ครูสตรีที่ออกไปสอนในโรงเรียนรัฐบาล 13 แห่ง และโรงเรียนของมิชชันนารีทั่วประเทศ ล้วยสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนกุลสตรีวังหลังทั้งสิ้น
นิตยสารฉบับแรกของประเทศไทยชื่อ “แสงอรุณ (The Day Break)” ศาสนทูต เจ เอ เอกิ้น จัดทำขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2435 (ค.ศ. 1892) และมิสโคลรับทำต่อมา เปลี่ยนชื่อเป็น แมคเอซิน วัฒนา วิทยา มีข่าวสารทั้งในและนอกประเทศ เรื่องเกี่ยวกับคริสตศาสนา เรื่องแปล บทความอันเป็นสาระทั้งร้อยแก้วและร้อยกรอง ตำราอาหารและขนมต่างๆ ข่าวโรงเรียนฯลฯ น่าอ่านยิ่งนัก ออกเป็นรายเดือน กระทั่งถึงสมัยโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น “วัฒนาวิทยา” เปลี่ยนทั้งโฉมหน้าและขนาด แล้วก็กลายมาเป็นหนังสือประจำปี (Year book) นักเรียนจบหลักสูตรของโรงเรียนเป็นผู้จัดทำเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้
ชื่อเสียงของโรงเรียนกุลสตรีวังหลังเลื่องลือไปทั่ว ทั้งในด้านวิชาการ ด้านภาษาอังกฤษ ฯลฯ ดังนั้นในปี พ.ศ. 2434 (ค.ศ. 1891) เมื่อพระเจ้าซาร์ นิโคลัสที่ 2 ซึ่งในขณะนั้นดำรงพระยศเป็นมกุฎราชกุมาร พร้อมด้วยเจ้าชายยอร์ช พระเจ้าอา เสด็จมาเยือนประเทศไทย นับว่าเป็นแขกเมืองคนสำคัญ ประทับที่พระราชวังสราญรมย์ ได้จัดให้มีการคล้องช้างที่บางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พระบาทสมเด็จพระปิยมหาราช และสมเด็จพระบรมราชินีนาถก็ได้เสด็จไปประทับแรมที่นั่นด้วย นอกจากทอดพระเนตรคล้องช้างแล้ว ยังมีงานสโมสรสันนิบาต ตกแต่งประทีปโคมไฟ มีมหรสพรื่นเริง และมีเครื่องว่างต่างๆ เป็นงานเฉพาะพระบรมวงศานุวงศ์และแขกเมืองเท่านั้น
พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงนราธิปประพันธ์พงศ์ ทรงมาขอนักเรียนกุงสตรีวังหลังที่พูดภาษาอังกฤษได้ เพื่อไปเจรจากับเจ้าต่างประเทศ และผู้ติดตามที่ไม่รู้จักภาษาไทย มิสโคลได้จัดครูและนักเรียนรวม 6 คน ไปถวายงานรับแขกเมือง
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมราชินีนาถ รวมทั้งเจ้านายต่างประเทศ ทรงแปลกพระทัยมาก รับสั่งถามว่า
“เรียนหนังสืออังกฤษที่ไหน?”
เมื่อทรงได้รับคำตอบว่า
“เรียนที่กรุงเทพฯ”
กลับรับสั่งถามด้วยความไม่แน่พระทัยว่า
“ไม่ได้ไปตามประเทศหรือ?”
การรับแขกเมืองอีกครั้งหนึ่งใน พ.ศ. 2441 (ค.ศ. 1898) เป็นงานรับเสด็จ เคานต์ ออฟ ตูริน (Count of Turin) เจ้าราชวงศ์อิตาลี ครั้งนั้นพระเจ้าบนมวงศ์เธอ กรมหมื่นทิวากรวงศ์ประวัติ ทรงเป็นผู้จัดการต้อนรับ ได้ขอครูไป 4 คน หม่อมละม้ายในพระองค์ท่านเป็นผู้ดูแล บอกกับมิสโคลว่าจะไปเพียงสองคืน ครั้นครบกำหนด
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
A new study in. In fact, the first to come since 2379 (AD 1836) when Mrs. Dan beach บรัด Valley (Mrs.Dan Beach Bradley) missionary (Missionary) from the United States, as a pioneer of the first version. Began school girl up at your home. There are only 9 people to hire a teacher, math, reading, and writing. You teach singing and the Bible.B.Professor 2379 (AD 1836) that
later Mrs. Harriet M. house (Mr. Harriet M.House) missionary generation later did the same. Teaching English and embroidery increase. At the same time, you also invited to examine sleep noblewoman in the palace. To be familiar with the king.4) and members of the royal family, along with your husband Dr.
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: