Prehistoric eraWorks of art in this era created with inspiration and intuition. In the early stage, it's a natural mimic, and then later, they gradually increase their creativity into it.Age of EgyptThe arts of Egypt clearly reflected that created religious inspiration and faith. Artwork looks stable, fixed to the end of the world what's up until the.According to prepare his age.According to prepare his wife is divided into two parts. The upper part is the classic double bottom is Babylon, which is more than the rich, because in this land comprises several different religion people, ideas and different beliefs are fighting frequently from the power tussle with faith. They believe in the power of God by nature, respect for the stars. River. Other phenomena, the answer is no. At the same time, it believes that there is a reason.Greek eraWorks of art of tea, add an ellipse to show the integrity of the human body is clearly. Sculpture people will demonstrate the various organs and muscles, the most complete free garment jobs.That and the Roman era, eSculpture with an emphasis on precise shapes according to emphasize the material utilized, specifically metal casting bronze.The painting looks as flat as a wall color that burial written influenced hyaluronic recycling and Egypt.Their architecture resembles a dome with curved beams The mast head has combinations I o new khakap co Rin thian together as a composite antenna and mast head idea Nanocomposites that Canon model (similar to Doric pillars).Sculpture of Roman is important as historical evidence. Feelings on the face to show off better than Greek, but overall all the task panes, see complete green classes that.Decorative painting work of architecture, painting and jewelry are all color mosaic. The illusion has been created, far and near. With light and shadow.The middle ages.The middle ages, this sometimes is referred to as the dark ages, that they have not yet discovered the style spotlight.The sculpture created to decorate the walls, not natural proportions.The painting is still a wall has a portrait and a portrait painting documentation.Gothic era.Critics in this era is an era of reconstruction saw that opinion. Lacks artistic taste when compared to Greek and Roman, but the artist sees it is an art form with its own unique style as an admirable.Restorationในยุคนี้มีศูนย์กลางอยู่ที่อิตาลี เป็นการนำศิลปะของกรีก และโรมันมาซึ่งความเชื่อที่ว่า มนุษย์คือศูนย์กลางของจักรวาล เป็นผู้ควบคุมธรรมชาติ ยึดมั่นในเหตุผล และถือว่าคุณค่าของมนุษย์อยู่ที่ความรู้ ความคิด ความสามารถของตนเองสมัย บารอคศิลปะแบบบารอคจะเน้นหนักไปทางธรรมชาติ แสดงความอ่อนไหว มีลวดลายประดิษฐ์มาก ซับซ้อนศิลปะในแบบบาโรค และรอคโคโคนั้นใกล้เคียงกันมาก มีบางคนได้เปรียบเปรยว่า ถ้าบาโรคเหมือนกับบุรุษเพศที่มีความองอาจ สง่างาม รอคโคโคก็เหมือนกับสตรีเพศที่มีความงดงามที่นุ่มนวลและอ่อนช้อยModern classicOn the other hand, prat ญ This is the age of reason, so era art in this era, it is a job that focuses on technical reasons.Modern romanceOn the subject of romantic soul is considered to be the birth of a passion. Emotion, which is the truth of the human being.The era of real litThe real job creation even lit the real artist believes that beauty is in everywhere.Modern impress mansion onArt impress Mansion is on the art writing reasonably realistic view stretching at best.The era of post – impress mansion onโพสท์-อิมเพรสชั่นนิสม์ พวกเขาทำงานตามความคิด ความเชื่อมั่นของตนเอง ไม่มีความสัมพันธ์หรือจัดเป็นกลุ่ม งานแตกต่างกันไปคนละอย่างสมัย นีโอ – อิมเพรสชั่นนิสม์นีโออิมเพรสชั่นนิสม์ใช้แนวคิดที่ว่าแสงเป็นอนุภาค มาสร้างงานในลักษณะการแต้มสีเป็นจุดเล็ก ๆ ลงบนภาพสมัย โฟวิสม์สมัย เอ็กซเพรสชั่นนิสม์เป็นศิลปะการแสดงออกถึงอารมณ์ภายในอันเร่าร้อนรุนแรง การใช้สีและการตัดเส้นรอบนอก เพื่อให้รูปทรงดูเด่นชัดและแข็งกร้าว พวกเขาสะท้อนแนวคิดที่เกี่ยวกับสังคม การเมือง แสดงความสกปรก ความหลอกลวง ความเลวร้ายของสังคมสมัย คิวบิสม์คิวบิสม์แบ่งออกได้เป็นสามยุคยุคแรก คิวบิสม์วิเคราะห์ งานมุ่งเน้นไปที่การวิเคราะห์รูปทรงให้พัฒนานอกเหนือจากสภาพที่เป็นอยู่ในธรรมชาติ เน้นเรื่องน้ำหนัก ความแข็งแรงของวัตถุและปริมาตรยุคที่สอง ยุคทองของคิวบิสม์วิเคราะห์ ศิลปินจะจำแนกวัตถุออกเป็นส่วนต่างๆ ขยายให้เกิดมุมเด่นชัดขึ้น แล้วก็ผสมผสานวัตถุต่าง ๆ ให้ประสานสัมพันธ์กันทั้งภาพยุคที่สาม คิวบิสม์สังเคราะห์ ผลงานในยุคนี้เริ่มมีการนำวัสดุต่าง ๆ มาคละเคล้าปะติดรวมกันกับการวาดภาพสมัย ฟิวเจอริสม์พวกเขายึดหลักอยู่สองประการคือ ความเคลื่อนไหวของร่างกายในอากาศ และความเคลื่อนไหวของวิญญาณในร่างกาย (สุดท้ายศิลปะก็หนีไม่พ้นเรื่องของจิตวิญญาณอยู่ดี)
ศิลปะ นามธรรม
ศิลปะนามธรรมนี้ยังแบ่งออกเป็นสองแบบด้วยกัน ได้แก่
แบบโรแมนติก เป็นงานที่แสดงความรู้สึกอย่างมีอิสระ มีอารมณ์เป็นพื้นฐาน แสดงความรู้สึกภายในออกมาเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า In formalist (ไม่มีระเบียบกฎเกณฑ์)
แบบคลาสสิก ซึ่งมีสิ่งดลใจจากรูปทรงเรขาคณิต มีการวางแผน มีกฎเกณฑ์ กฎที่ว่าอาจคิดขึ้นเองได้ พวกนี้เรียกว่า Formalist (มีระเบียบกฎเกณฑ์)
ศิลปะ ดาดา
แนวความคิดของกลุ่มนี้อยู่บนพื้นฐานทางอามรณ์ อันต้องการปลดเปลื้องความคิดผิด ๆ แบบเก่าให้หมดไป และเป็นผลมาจากความเสื่อมโทรมในสังคมและศิลปะวิทยา
ศิลปะ เซอร์เรียลลิสม์
เซอร์เรียลิสม์ นี่เอง มีความหมายว่าเหนือความจริง เพราะศิลปะแนวนี้ถ่ายทอดเรื่องราวเหนือธรรมชาติ ถ่ายทอดสิ่งที่อยู่ในความฝันออกมา
งานเซอร์เรียลิสม์มีความสำคัญอยู่ที่ การแสดงออกของจิตใต้สำนึกอย่างอิสระ ปราศจากการควบคุมของเหตุผล มีความฝันและอารมณ์ จินตนาการ ค่อนข้างโน้มเอียงไปในทางกามวิสัย
ศิลปะ ซูพรีมาตีสม์
ซูปรีมาติสม์ เป็นรูปแบบของศิลปะที่แสดงความรู้สึกบริสุทธิ์อย่างสูงส่ง ปรากฏเป็นศิลปะที่ก่อให้เกิดความสร้างสรรค์ ไม่คำนึงถึงรูปร่างแท้จริงขอ
การแปล กรุณารอสักครู่..