วิภาส ศรีทอง เกิด เมื่อวันที่ 26 ก

วิภาส ศรีทอง
เกิด เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2513 พื้นเพเป็นชาวพัทลุง ย้ายตามครอบครัวมุ่งหน้าสู่เมืองกรุงตั้งแต่วัยเด็ก ศึกษาเล่าเรียนในระบบได้ไม่นาน เข้าๆ ออกๆ สลับกันไปมา เช่น ลาออกจากโรงเรียนขณะศึกษามัธยมต้น ครั้นขยับเข้ามัธยมปลายโรงเรียนสารวิทยาก็ลาออกกลางคันอีก
กลับไปอยู่บ้าน ช่วยครอบครัวทำงาน ซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า ติดตั้งเสาทีวี พร้อมสอบเทียบและเรียนด้วยตัวเอง
เอ็น ทรานซ์ติด คณะแพทยศาสตร์ รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เรียนสลับดร็อปร่วม 10 ปี กระทั่งเป็นแพทย์ฝึกหัด แต่ก็ลาออก ก่อนสำเร็จการศึกษาเป็นแพทย์เต็มรูปแบบ 3-4 เดือน
จากนั้นเขียนหนังสือ ทำหนังสั้น งานศิลปะ ควบคู่ไปกับการทำกิจการส่วนตัวเล็กๆ น้อยๆ
มี ผลงานปรากฏเป็นเรื่องสั้น ตีพิมพ์ครั้งแรกปี 2537 ปัจจุบันออกรวมเรื่องสั้นแมวเก้าชีวิต, รวมบทกวีภาษาอังกฤษ Grafti, รวมเรื่องสั้นเวลาล่วงผ่านอุโมงค์, ตรึงตากลบท และนวนิยายล่าสุด หมาหัวคน

นำนวนิยายเรื่องแรก "คนแคระ" คว้ารางวัลซีไรต์แบบชนะใจกรรมการทุกคน โดยจะเข้ารับพระราชทานรางวัล วันศุกร์ที่ 9 พฤศจิกายนนี้

"คนแคระ ของวิภาส เป็นนวนิยายที่เสนอปัญหาสัมพันธภาพระหว่างมนุษย์ เปิดเผยให้เห็นความโดดเดี่ยวอ้างว้างของกลุ่มคนซึ่งเป็นตัวแทนของสังคมร่วม สมัย โดยสะท้อนให้เห็นการขาดความตระหนักถึงคุณค่าของความเป็นมนุษย์การหมกมุ่น อยู่กับปัญหาของตนเอง และการโหยหาสัมพันธภาพระหว่างมนุษย์แต่จำกัดขอบเขตของความสัมพันธ์นั้นไว้ ทั้งหมดนี้ผู้เขียนนำเสนอผ่านตัวละครที่แสดงความเย็นชาต่อชะตากรรมของมนุษย์ และหาทางสร้างความชอบธรรมให้กับการกระทำของตัวเอง

ผู้เขียนมีกลวิธีการเล่าเรื่องเนิบช้าทว่ามีพลัง มีการสร้างจินตภาพที่ชวนให้เกิดการตีความหลากหลาย มีตัวละครซับซ้อน แปลกแยก และท้าทายกฎเกณฑ์ของสังคม คุณค่าของนวนิยายนี้จึงอยู่ที่การกระตุ้นให้เกิดการสำรวจภาวะความเป็นมนุษย์ ในโลกร่วมสมัย ในขณะเดียวกันก็ตั้งคำถามกับมโนสำนึก ความรับผิดชอบชั่วดีและสารัตถะของชีวิต"
"คนแคระ" เป็นนวนิยาย 1 ใน 7 เรื่อง ที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายรางวัลซีไรต์ 2555 เช่นเดียวกับ เดียวดายใต้ฟ้าคลั่ง ของ แดนอรัญ แสงทอง ,ในรูปเงา ของ เงาจันทร์ ,รอยแผลของสายพิณ ของ สาคร พูลสุข ,เรื่องเล่าในโลกลวงตา ของ พิเชษฐ์ศักดิ์ โพธิ์พยัคฆ์ ,ลักษณ์อาลัย ของ อุทิศ เหมะมูล และ 7.โลกประหลาดในประวัติศาสตร์ความเศร้า ของ ศิริวร แก้วกาญจน์
งานพระราชทานรางวัลซีไรต์ประจำปี 2555 (ปีที่ 34) จะจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 9 พฤศจิกายน นี้ ณ ห้องรอยัลบอลรูม โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ เวลา 19.30 น. โดยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เสด็จแทนพระองค์ ในการพระราชทานรางวัล






ผลงานที่ชื่นชอบ
เรื่องย่อ

"คนแคระ" ในหลายๆสื่อว่า "เป็น การนำเสนอปัญหาสัมพันธภาพระหว่างมนุษย์ เผยให้เห็นความโดดเดี่ยวอ้างว้างของกลุ่มคนซึ่งเป็นตัวแทนร่วมสมัย สะท้อนให้เห็นถึงการขาดการตะหนักถึงคุณค่าการเป็นมนุษย์ การหมกมุ่นอยู่กับปัญหาของตัวเอง และการโหยหาสัมพันธภาพระหว่างมนุษย์ แต่จำกัดขอบเขตของความสัมพันธ์นั้นไว้ ทั้งหมดนี้ผู้เขียนนำเสนอผ่านตัวละคร ที่แสดงความเย็นชาต่อชะตากรรมของมนุษย์ และหาทางสร้างความชอบธรรมแก่การกระทำของตัวเอง คุณค่าของนวนิยายเรื่องนี้จึงอยู่ที่การกระตุ้นให้เกิดการสำรวจภาวะความ เป็นมนุษย์ในโลกร่วมสมัย ในขณะเดียวกันก็ตั้งคำถามกับมโนสำนึก ความรับผิดชอบชั่วดี และสารัตถะของชีวิต" เพราะเนื้อหาและแก่นของเรื่อง "คนแคระ" มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ เป็นการสรุปความของหนังสือเล่มนี้ได้ดีที่สุด

ความ คิดแรกที่ผ่านเข้ามาในหัวอาจจะคิดว่า การจับคนแคระมาขังไว้ นั้นเป็นการกระทำที่แปลกประหลาด แต่เมื่อมองลึกๆถึงภาวะทางจิตใจคนตัวละครในสังคมเมืองทั้งสามคน ไม่ว่าจะเป็นเกริก พิชิต หรือ นุช กลับพบว่าการกระทำเช่นนั้นอาจไม่ใช่เรื่องไกลตัวเสียทีเดียว ภาวะของจิตใจที่เปล่าเปลี่ยว อ้างว้าง แหว่งวิ่นเหมือนมีอะไรบางอย่างขาดหายไป ความรู้สึกที่อยากจะกรีดร้องแต่ก็ไม่สามารถที่จะหาเหตุผลมาอธิบายการกระทำ ได้ เมื่อถูกเก็บกักไว้นานเข้าๆ จึงเป็นที่มาของการกระทำที่ดูไร้ซึ่งเหตุผลและจุดประสงค์ที่แน่นอนอย่าง การจับคนแคระมาขังไว้

"คน แคระ" เป็นวรรณกรรมที่มีการพรรณาเยอะ และการดำเนินเรื่องที่เนิบช้า หากใครไม่สันทัดแนวนี้คงจะอ่าน "คนแคระ" อย่างมีความสุขได้ค่อนข้างยาก แต่อย่างว่า "คนแคระ" ก็ไม่ใช่วรรณกรรมที่อ่านแล้วจะรู้สึกมีความสุข เพลิดเพลินหรือบันเทิงได้เลยตั้งแต่ต้นจนจบ ตรงกันข้าม ความรู้สึกในการอ่านกลับเป็นความหดหู่ มืดหม่น เวิ้งว้าง และไร้ซึ่งทางออก หากใครไม่มีความสุขกับชีิวิต ณ ขณะนี้ คงจะเข้าใจสภาพบรรยากาศของเรื่องราวและภาวะจิตใจของตัวละครทั้งสามได้เป็น อย่างดี และส่วนหนึ่งก็มาจากความสามารถในการเขียนของ วิภาส ศรีทอง ด้วย

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

Wiphat SI thong Born September 26, 1970, when a farmer phuenphe phatthalung. The move by the family head to the boasts from the childhood. Study on the education system. Khao ok to leave school as high school education costs now. After moving into high school, middle school, sarawittaya resignation again. Back home to help their families work. Installation, maintenance and repair of electrical appliances, tv and antenna calibration manually.N citrus next to Faculty of medicine ramathibodi, Mahidol University, Bangkok, Thailand. Dear darop, together for 10 years until the switch is a medical practice, but he resigned before graduated as a doctor, a full 3-4 months.จากนั้นเขียนหนังสือ ทำหนังสั้น งานศิลปะ ควบคู่ไปกับการทำกิจการส่วนตัวเล็กๆ น้อยๆ มี ผลงานปรากฏเป็นเรื่องสั้น ตีพิมพ์ครั้งแรกปี 2537 ปัจจุบันออกรวมเรื่องสั้นแมวเก้าชีวิต, รวมบทกวีภาษาอังกฤษ Grafti, รวมเรื่องสั้นเวลาล่วงผ่านอุโมงค์, ตรึงตากลบท และนวนิยายล่าสุด หมาหัวคน นำนวนิยายเรื่องแรก "คนแคระ" คว้ารางวัลซีไรต์แบบชนะใจกรรมการทุกคน โดยจะเข้ารับพระราชทานรางวัล วันศุกร์ที่ 9 พฤศจิกายนนี้ "คนแคระ ของวิภาส เป็นนวนิยายที่เสนอปัญหาสัมพันธภาพระหว่างมนุษย์ เปิดเผยให้เห็นความโดดเดี่ยวอ้างว้างของกลุ่มคนซึ่งเป็นตัวแทนของสังคมร่วม สมัย โดยสะท้อนให้เห็นการขาดความตระหนักถึงคุณค่าของความเป็นมนุษย์การหมกมุ่น อยู่กับปัญหาของตนเอง และการโหยหาสัมพันธภาพระหว่างมนุษย์แต่จำกัดขอบเขตของความสัมพันธ์นั้นไว้ ทั้งหมดนี้ผู้เขียนนำเสนอผ่านตัวละครที่แสดงความเย็นชาต่อชะตากรรมของมนุษย์ และหาทางสร้างความชอบธรรมให้กับการกระทำของตัวเอง The author has a narrative strategy thanks to vitality is slow, noep. With the creation of the imaginary, the variety of interpretation occurs. There is a complex character and challenge the rules of society, dissimilar. The value of this novel is to induce surveys as human beings. In the contemporary world, meanwhile, questions on in addition Mano. The responsibility for evil and sarattha of life. " "คนแคระ" เป็นนวนิยาย 1 ใน 7 เรื่อง ที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายรางวัลซีไรต์ 2555 เช่นเดียวกับ เดียวดายใต้ฟ้าคลั่ง ของ แดนอรัญ แสงทอง ,ในรูปเงา ของ เงาจันทร์ ,รอยแผลของสายพิณ ของ สาคร พูลสุข ,เรื่องเล่าในโลกลวงตา ของ พิเชษฐ์ศักดิ์ โพธิ์พยัคฆ์ ,ลักษณ์อาลัย ของ อุทิศ เหมะมูล และ 7.โลกประหลาดในประวัติศาสตร์ความเศร้า ของ ศิริวร แก้วกาญจน์ งานพระราชทานรางวัลซีไรต์ประจำปี 2555 (ปีที่ 34) จะจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 9 พฤศจิกายน นี้ ณ ห้องรอยัลบอลรูม โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ เวลา 19.30 น. โดยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เสด็จแทนพระองค์ ในการพระราชทานรางวัล ผลงานที่ชื่นชอบเรื่องย่อ "คนแคระ" ในหลายๆสื่อว่า "เป็น การนำเสนอปัญหาสัมพันธภาพระหว่างมนุษย์ เผยให้เห็นความโดดเดี่ยวอ้างว้างของกลุ่มคนซึ่งเป็นตัวแทนร่วมสมัย สะท้อนให้เห็นถึงการขาดการตะหนักถึงคุณค่าการเป็นมนุษย์ การหมกมุ่นอยู่กับปัญหาของตัวเอง และการโหยหาสัมพันธภาพระหว่างมนุษย์ แต่จำกัดขอบเขตของความสัมพันธ์นั้นไว้ ทั้งหมดนี้ผู้เขียนนำเสนอผ่านตัวละคร ที่แสดงความเย็นชาต่อชะตากรรมของมนุษย์ และหาทางสร้างความชอบธรรมแก่การกระทำของตัวเอง คุณค่าของนวนิยายเรื่องนี้จึงอยู่ที่การกระตุ้นให้เกิดการสำรวจภาวะความ เป็นมนุษย์ในโลกร่วมสมัย ในขณะเดียวกันก็ตั้งคำถามกับมโนสำนึก ความรับผิดชอบชั่วดี และสารัตถะของชีวิต" เพราะเนื้อหาและแก่นของเรื่อง "คนแคระ" มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ เป็นการสรุปความของหนังสือเล่มนี้ได้ดีที่สุด ความ คิดแรกที่ผ่านเข้ามาในหัวอาจจะคิดว่า การจับคนแคระมาขังไว้ นั้นเป็นการกระทำที่แปลกประหลาด แต่เมื่อมองลึกๆถึงภาวะทางจิตใจคนตัวละครในสังคมเมืองทั้งสามคน ไม่ว่าจะเป็นเกริก พิชิต หรือ นุช กลับพบว่าการกระทำเช่นนั้นอาจไม่ใช่เรื่องไกลตัวเสียทีเดียว ภาวะของจิตใจที่เปล่าเปลี่ยว อ้างว้าง แหว่งวิ่นเหมือนมีอะไรบางอย่างขาดหายไป ความรู้สึกที่อยากจะกรีดร้องแต่ก็ไม่สามารถที่จะหาเหตุผลมาอธิบายการกระทำ ได้ เมื่อถูกเก็บกักไว้นานเข้าๆ จึงเป็นที่มาของการกระทำที่ดูไร้ซึ่งเหตุผลและจุดประสงค์ที่แน่นอนอย่าง การจับคนแคระมาขังไว้ "คน แคระ" เป็นวรรณกรรมที่มีการพรรณาเยอะ และการดำเนินเรื่องที่เนิบช้า หากใครไม่สันทัดแนวนี้คงจะอ่าน "คนแคระ" อย่างมีความสุขได้ค่อนข้างยาก แต่อย่างว่า "คนแคระ" ก็ไม่ใช่วรรณกรรมที่อ่านแล้วจะรู้สึกมีความสุข เพลิดเพลินหรือบันเทิงได้เลยตั้งแต่ต้นจนจบ ตรงกันข้าม ความรู้สึกในการอ่านกลับเป็นความหดหู่ มืดหม่น เวิ้งว้าง และไร้ซึ่งทางออก หากใครไม่มีความสุขกับชีิวิต ณ ขณะนี้ คงจะเข้าใจสภาพบรรยากาศของเรื่องราวและภาวะจิตใจของตัวละครทั้งสามได้เป็น อย่างดี และส่วนหนึ่งก็มาจากความสามารถในการเขียนของ วิภาส ศรีทอง ด้วย

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

Illuminate the sukka
.Born on September 26 lineage is 2513 phatthalung. The family head to the city since childhood. Study on the system recently. The in-and-out switching, such as quit school while studying in junior high.Back at home, helping the family work, appliance repair, install TV towers, with calibration and self-taught
.N. trance, Faculty of medicine, Mahidol University Students switch drop in 10 years creations as an intern, but resigned before graduation is a full medical 3-4 months
.Then to write a book, make a short film art, alongside the private business small works appear as a
there is short, first published a year 2537 out short story cat, current lives. The English poems, GraftiShort story the time pass through a tunnel, the rivet, and heard the latest novel, the dog people

the first novel "dwarf" and a win over all judges Seawright By will receive the award on Friday, November 9

."The dwarf of illuminate is novel, providing the relationship between humans. Reveal loneliness lonely crowd, which is representative of society in ContemporaryWith their problems. And the relationship between human yearning but limited the scope of that relationship. All of this the author presented through the character show cold the fate of humans.
.
.In the author's narrative strategy: slow but powerful. The imagery to invite the interpretation of various a complex character alienation and challenge the norm of the society.