ประเพณีของคนไทยเรา ที่นับถือพระพุทธ

ประเพณีของคนไทยเรา ที่นับถือพระพุทธศาสนา ส่วนมากนิยมให้ลูกหลาน ได้เข้าสู่การบรรพชาอุปสมบท เป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา
ถึงแม้ว่า จะดำรงภาวะของความเป็นนักบวช เพียงชั่วระยะเวลาอันเล็กน้อย ก็ยังมีความพอใจในภาวะเช่นนั้น ในการบวช คนโบราณ ถือว่าคนที่ยัง
ไม่ได้บวชเรียน เป็นคนที่ไม่บรรลุนิติภาวะ เป็นผู้ที่ยังไม่ควรแก่การครองเรือน
     ผู้ชายทุกคนเมื่ออายุครบแล้วจะต้องบวช การบวชถือว่าเป็นการอบรมบ่มนิสัยให้ดีมีศีลธรรม และเป็นการตอบแทนบุญคุณของบิดามารดา
ผู้ให้กำเนิด ดังนั้นการบวชจึงถือว่า เป็นประเพณีที่จำเป็นสำหรับลูกผู้ชายทุกคน
          เรื่องประเพณีบวชเป็นภูมิปัญญาของคนไทยอย่างน้อยที่สุด ก็จะได้ประโยชน์หลายประการ เช่น
          ๑.มีผู้สืบทอดอายุพระศาสนาด้วยการบวชเรียน
          ๒.ช่วงวัยดังกล่าวถือว่าอยู่ในช่วง "เลือดร้อน" หากได้บวชอยู่ในร่มเงาของผ้ากาสาวพัตร์ก็ช่วยประกันภัยต่าง ๆ ได้พอสมควร โดยเฉพาะภัย
ที่เกิดเพราะความ "เลือดร้อน"
          ๓.ทำให้มีโอกาสได้ซึมซับคำสอนมากขึ้น อันจะช่วยก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตในภายหน้าสืบต่อไป
          ๔.ทำให้พ่อแม่ ญาติพี่น้องได้มีโอกาสทำบุญเพิ่มขึ้น จะสังเกตเห็นว่า สังคมไทย พอลูกชายไปบวช คนที่เป็นพ่อเป็นแม่ หรือเป็นญาติ ๆ ก็
มักจะมีโอกาสได้ทำบุญบ่อยขึ้นกว่าแต่ก่อน เช่น ตอนลูกชายไม่ได้บวช อาจจะไม่เคยใส่บาตรเลย แต่พอลูกชายบวช พ่อแม่ก็ได้ใส่บาตร หรือไปวัด
เป็นต้น นี่เป็นที่มาของคำว่า "เกาะชายผ้าเหลืองขึ้นสวรรค์"
          การบวช เป็นศัพท์ที่ใช้ในทางศาสนาโดยมีขั้นตอนที่จะทำให้บุคคลธรรมดาผู้นับถือศาสนาต่างๆ กลายเป็นนักบวชของศาสนาที่ตนนับถือนั้น
การบวชมักประกอบไปด้วยพิธีกรรมและแบบพิธีต่าง ๆ ซึ่งขั้นตอนการบวชเองนั้นก็มีความแตกต่างกันไปตามศาสนาและชื่อเรียกขาน ผู้ที่กำลัง
เตรียมเข้าสู่การบวชเรียกว่า ผู้เตรียมบวช ในพระพุทธศาสนา
          การบรรพชาเป็นสามเณร ตามพระวินัยบัญญัติ อนุญาตให้พระอุปัชฌาย์สามารถทำการบรรพชาได้โดยไม่ต้องประชุมสงฆ์ บรรพชา หมายถึง การบวชทั่วไป การบวชอันเป็นบุรพประโยคแห่งอุปสมบท, การบวชเป็นสามเณร (เดิมทีเดียว คำว่า บรรพชา หมายความว่า บวชเป็นภิกษุ เช่น
เสด็จออกบรรพชาอัครสาวกบรรพชา เป็นต้น ในสมัยต่อมาจนถึงปัจจุบันนี้ คำว่า บรรพชา หมายถึง บวชเป็นสามเณร ถ้าบวชเป็นภิกษุ ใช้คำว่า
อุปสมบท โดยเฉพาะเมื่อใช้ควบกันว่า บรรพชาอุปสมบท)
  กุลบุตรที่จะเข้าบวชในพุทธศาสนา เป็นพุทธสาวกนั้น จะต้องประกอบด้วยคุณสมบัติหลายประการด้วยกัน ในพระวินัยบัญญัติ ท่านห้ามบุคคล
๘ จำพวก มิให้เข้ามาบรรพชาอุปสมบทในพระพุทธศาสนา คือ
          ๑. บุคคลที่เป็นโรคอันสังคมรังเกียจ เช่น เป็นโรคติดต่อ รักษาไม่ค่อยจะหายเรื้อรัง ได้แก่โรค ๑. โรคเรื้อน ๒. โรคฝี ๓. โรคกลาก
๔. โรคหืด ๕. โรคลมบ้าหมู ๖. โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ รักษาไม่หาย
          ๒. คนที่มีอวัยวะไม่สมบูรณ์ คือ บกพร่อง เช่น คนที่มือขาด เท้าขาด นิ้วมือนิ้วเท้าขาด หูขาด จมูกขาด (ไม่ว่าจะโดยกำเนิด หรือ จาก
อุบัติเหตุ) เป็นต้น คนอย่างนี้ตามพระวินัยบวชให้ไม่ได้
          ๓. คนที่มีอวัยวะไม่สมประกอบ เช่น คนที่มีมือเป็นแผ่น นิ้วมือติดกันไม่เป็นง่าม คนค่อม คนเตี้ย คนปุก (เท้าปุก) (รวมทั้ง คนที่มีอวัยวะผิด
ไปจากคนปกติ ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม) เป็นต้น บวชไม่ได้
          ๔. คนที่พิกลพิการ คือ คนตาบอดตาใส คนที่เป็นง่อย คนมือเท้าหงิก คนกระจอกเดินไม่ปกติ และ คนหูหนวก เป็นต้น
          ๕. คนที่ทุพพลภาพ เช่น คนแก่ง่อนแง่น คนที่มีกำลังน้อย ไม่อาจทำกิจการต่าง ๆ ด้วยตนเองได้ เป็นต้น เช่น กิจในการซักจีวร ย้อมจีวร
เป็นต้น คนอย่างนี้ห้ามบวช
          ๖. คนเกี่ยวข้อง หมายถึง คนที่มีพันธะผูกพัน เช่น คนที่บิดามารดา ไม่อนุญาติ คนที่มีหนี้สิน คนที่มีภรรยาแล้ว ภรรยาไม่อนุญาต ก็บวชไม่ได้
          ๗. คนเคยถูกอาชญาหลวง มีหมายปรากฎอยู่ ในสมัยก่อน ส่วนมากถูกเฆี่ยนหลังลาย หรือ คนที่เป็นนักโทษ ถูกสั่งหมายโทษเอาไว้ คนอย่าง
นี้บวชไม่ได้
          ๘. คนที่ประทุษร้ายต่อสังคม เช่น โจรผู้มีชื่อเสียง โด่งดัง ก็บวชไม่ได้ เป็นต้น
          นี่แสดงให้เห็นว่า ผู้ที่จะเข้ามาสู่พระพุทธศาสนาได้นั้น ต้องเป็นคนสมบูรณ์จริง ๆ ตามลักษณะของพระวินัยดังนั้น การบวชนั้น จึงมิใช่บวชกัน
ได้ง่าย ๆ ความยากลำบากอย่างนี้ ส่วนมากเราไม่ได้คิดกันมาก่อน แต่ถ้าเราคิดกันให้มากแล้ว เราจะเห็นว่าการที่เรามีโอกาสเกิดมาเป็นมนุษย์มี
อวัยวะครบทุกส่วน ไม่บกพร่อง นับว่าเป็นโชคลาภอันประเสริฐสุดแล้ว
          เมื่อบวชแล้ว ก็ไม่ใช่เสร็จแค่นั้นแล้วมาอยู่เฉย ๆ แต่การบวชเป็นการเริ่มต้นเท่านั้น จะต้องเพียรพยายามปฏิบัติเพื่อบรรลุผลที่เป็นจุดหมาย
ของการบวชต่อไป การที่จะบรรลุผลของการบวช ก็ต้องมีการ “เรียน” คือ ศึกษาฝึกหัดพัฒนาชีวิตของเรา ทั้งกาย วาจา จิตใจ และปัญญา ให้ดีให้
ประณีต ให้เจริญงอกงามยิ่ง ๆ ขึ้นไป จนกว่าจะละบาปกุศลได้หมด และเจริญกุศลให้เต็มที่ หลุดพ้นจากกิเลสและปวงทุกข์ มีชีวิตจิตใจที่บริสุทธิ์
ผ่องใส เป็นอิสระ สงบสุขอย่างแท้จริง เพราะฉะนั้น จึงเรียกว่า “บวชเรียน” หมายความว่า บวชเพื่อเรียน หรือว่าการบวชก็คือชีวิตแห่งการเรียน
          ในปัจจุบัน "ชีวิตเรา ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ มีโอกาสที่จะได้บวชตามพระวินัยบัญญัติ และ ปัจจุบันนี้ พระสัทธรรม ก็มีอยู่ เราทุกคนเกิดมาพบ
พระพุทธศาสนา จึงควรหาโอกาสบวชกันบ้าง สักครั้งหนึ่งในชีวิต ถึงแม้ว่าการบวชนั้น จะมิได้มุ่งหมาย ไปสู่ความหลุดพ้นทุกข์ อย่างแท้จริงก็ตาม"
ก็ยังนับว่าเป็นผู้ที่ได้ผ่านการอบรม จากสถาบันชั้นสูงของโลกมาแล้ว
          อานิสงส์จากการบวชมีหลายอย่าง นับตั้งแต่พระสงฆ์ท่าน สวดญัตติ ยกเราเป็นพระภิกษุ ขึ้นไว้ในพระพุทธศาสนา เราก็ได้รับสมัญญาถึง ๔
อย่าง ดังต่อไปนี้ คือ
 
          
  

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

The tradition of our esteemed people of Thailand most popular Buddhism, has descendants is a Buddhist monk in bapcha Buddhism.Although mothering is a theologian and a couple of short time, it is also a little satisfied in like that in ordination. Ancient people considered theAs someone who has not been ordained, underage students as a householder should. Men's age, then when everyone will have to ordain. The ordination is considered good training habits, morals, and the cure is a benefactor of the parents.Birth so ordain therefore considered necessary for the manly tradition everyone. The story is the wisdom of men ordain Thailand traditions, at least it would have several benefits, such as. 1. is the successor and ordained by religious students ayupra. 2. the said age is in the range considered "hot blood". If you are ordained in the shade of a cloth teapot girl phat insurance helped many respectable, especially disasters.That occurs because the "hot blood". 3. make available the opportunity to absorb more teachings. Which allows beneficial life to continue in the future. 4. make parents, siblings have the opportunity to make merit increases. Will notice that Thailand society? Enough to ordain my son Someone who is a mother or father it is 71.Often have the opportunity to make merit more often than before, such as the episode may not have ordained son is never enough, but a son priest ordained. Parents go to the temple or priest.Etc. This is the origin of the word "island male yellow fabric heaven." Ordination is used in religious terminology, with steps that will make the individual graves became a priest of their religion, to profess it.The ordination rituals, and often consists of various steps to ordination ceremony itself, it varies according to the religion, and call names. Individuals who are.Preparing for ordination into the preparation for ordination in Buddhism. To act as a novice by bapcha discipline Allow upatcha monk bapchadai can be made without meeting the monks. Bapcha refers to General and ordained. The burop sentence unduly upasampada ordination, ordination as a novice properties (originally a single word ordain as monks bapcha means such as.He came to the Apostles bapcha bapcha out etc. In the present, this modern, the word refers to the novice ordination bapcha. If monks are ordained. Use the wordA Buddhist, especially when a well known bapcha upasampada). A well-to-do family to attend the ordination in Buddhism are Buddhist followers, it must contain several properties together. God forbid you people act to discipline8 genera, came in a Buddhist temple is bapcha. 1. a person that is a nasty disease, sexually transmitted disease, such as Héritage society. Treatment of chronic diseases are rarely cured disease include 1.2.3. pulmonary tuberculosis disease ruean Eczema.4. asthma, epilepsy. 6. sexually transmitted diseases treatment is not damaged. 2. People with incomplete organs, such as the ones that lack the tools is a foot fault lack. Lack of ears, toes missing fingers. Lack of nose (either by birth or fromAccident), etc. Someone like this according to the discipline, are not ordained. 3. People with no appropriate organs, such as the man with the hand, finger plates, not the crotch is contiguous. Khom people. Pigmy mortar (mortar feet), people (including the person with the wrong organ.ไปจากคนปกติ ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม) เป็นต้น บวชไม่ได้ ๔. คนที่พิกลพิการ คือ คนตาบอดตาใส คนที่เป็นง่อย คนมือเท้าหงิก คนกระจอกเดินไม่ปกติ และ คนหูหนวก เป็นต้น ๕. คนที่ทุพพลภาพ เช่น คนแก่ง่อนแง่น คนที่มีกำลังน้อย ไม่อาจทำกิจการต่าง ๆ ด้วยตนเองได้ เป็นต้น เช่น กิจในการซักจีวร ย้อมจีวรเป็นต้น คนอย่างนี้ห้ามบวช ๖. คนเกี่ยวข้อง หมายถึง คนที่มีพันธะผูกพัน เช่น คนที่บิดามารดา ไม่อนุญาติ คนที่มีหนี้สิน คนที่มีภรรยาแล้ว ภรรยาไม่อนุญาต ก็บวชไม่ได้ ๗. คนเคยถูกอาชญาหลวง มีหมายปรากฎอยู่ ในสมัยก่อน ส่วนมากถูกเฆี่ยนหลังลาย หรือ คนที่เป็นนักโทษ ถูกสั่งหมายโทษเอาไว้ คนอย่างนี้บวชไม่ได้ ๘. คนที่ประทุษร้ายต่อสังคม เช่น โจรผู้มีชื่อเสียง โด่งดัง ก็บวชไม่ได้ เป็นต้น นี่แสดงให้เห็นว่า ผู้ที่จะเข้ามาสู่พระพุทธศาสนาได้นั้น ต้องเป็นคนสมบูรณ์จริง ๆ ตามลักษณะของพระวินัยดังนั้น การบวชนั้น จึงมิใช่บวชกันได้ง่าย ๆ ความยากลำบากอย่างนี้ ส่วนมากเราไม่ได้คิดกันมาก่อน แต่ถ้าเราคิดกันให้มากแล้ว เราจะเห็นว่าการที่เรามีโอกาสเกิดมาเป็นมนุษย์มีอวัยวะครบทุกส่วน ไม่บกพร่อง นับว่าเป็นโชคลาภอันประเสริฐสุดแล้ว เมื่อบวชแล้ว ก็ไม่ใช่เสร็จแค่นั้นแล้วมาอยู่เฉย ๆ แต่การบวชเป็นการเริ่มต้นเท่านั้น จะต้องเพียรพยายามปฏิบัติเพื่อบรรลุผลที่เป็นจุดหมายของการบวชต่อไป การที่จะบรรลุผลของการบวช ก็ต้องมีการ “เรียน” คือ ศึกษาฝึกหัดพัฒนาชีวิตของเรา ทั้งกาย วาจา จิตใจ และปัญญา ให้ดีให้ประณีต ให้เจริญงอกงามยิ่ง ๆ ขึ้นไป จนกว่าจะละบาปกุศลได้หมด และเจริญกุศลให้เต็มที่ หลุดพ้นจากกิเลสและปวงทุกข์ มีชีวิตจิตใจที่บริสุทธิ์ผ่องใส เป็นอิสระ สงบสุขอย่างแท้จริง เพราะฉะนั้น จึงเรียกว่า “บวชเรียน” หมายความว่า บวชเพื่อเรียน หรือว่าการบวชก็คือชีวิตแห่งการเรียน ในปัจจุบัน "ชีวิตเรา ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ มีโอกาสที่จะได้บวชตามพระวินัยบัญญัติ และ ปัจจุบันนี้ พระสัทธรรม ก็มีอยู่ เราทุกคนเกิดมาพบพระพุทธศาสนา จึงควรหาโอกาสบวชกันบ้าง สักครั้งหนึ่งในชีวิต ถึงแม้ว่าการบวชนั้น จะมิได้มุ่งหมาย ไปสู่ความหลุดพ้นทุกข์ อย่างแท้จริงก็ตาม"ก็ยังนับว่าเป็นผู้ที่ได้ผ่านการอบรม จากสถาบันชั้นสูงของโลกมาแล้ว อานิสงส์จากการบวชมีหลายอย่าง นับตั้งแต่พระสงฆ์ท่าน สวดญัตติ ยกเราเป็นพระภิกษุ ขึ้นไว้ในพระพุทธศาสนา เราก็ได้รับสมัญญาถึง ๔อย่าง ดังต่อไปนี้ คือ             

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

The tradition of the Thai people, Buddhism, most popular children has entered an ordination ปสม chapter. As Buddhist monks.Although, to maintain the state of a priest. Only for a short time a little. Have pleasure in that state in the ordination. Ancient. Treat people.Not be ordained who is not of legal age. Who also should not be to the householder.Oh oh all men at the age must be ordained. Ordination is to educate good ethics. And to repay the parents.Birth so ordination to qualify. A tradition that is necessary for all the boys.Oh oh oh oh tradition ordained as the wisdom of the people, at least. It has many benefits such asOh oh oh oh there are age, religion with learn successor ordinationShh Shh shh. 2. The ages such treats during the "hot-blooded" if it was ordained in the shade of the fabric กาสาว robe helped various insurance sufficiently. The disaster.Because the "hot-blooded".Shh Shh shh. 3. Make a chance to absorb the more. This will help bring benefits to life in the future continue.Shh Shh shh. 4. Father mother. Relatives have merit increase, will notice that the Thai society. When her son (who is a parent, or a relative.Often the chance to donate more often than before, such as when my son does not ordain. Maybe never. But when the son was ordained priest. Parents have in the bowl. Or go to the temple.This is the origin of the word "etc. ชายผ้าเหลือง Ascension Island".Oh oh oh oh ordination. A term used in religious procedures to make individual the religious activities. A priest of their religion.Ordination is often composed of ritual and ceremony the ordination process itself can also be different according to religion and name address those.Prepare to being called to prepare the ordination in Buddhism.Oh oh oh oh ordination as a novice, according to พระวินัยบัญญัติ. Allow the preceptor can the ordination without meeting the priest ordination means การบวชทั่วไป ordination as a บุรพ, sentence of ordination. Ordination is three.