ศักยภาพหมู่บ้าน : หมู่บ้านกิ่วแลน้อยประวัติความเป็นมาของหมู่บ้านงานแกะ การแปล - ศักยภาพหมู่บ้าน : หมู่บ้านกิ่วแลน้อยประวัติความเป็นมาของหมู่บ้านงานแกะ อังกฤษ วิธีการพูด

ศักยภาพหมู่บ้าน : หมู่บ้านกิ่วแลน้อ

ศักยภาพหมู่บ้าน : หมู่บ้านกิ่วแลน้อย
ประวัติความเป็นมาของหมู่บ้าน
งานแกะสลักไม้ของหมู่บ้านกิ่วแลน้อยได้รับการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นมาเกือบหกทศวรรษ จากช่างฝีมือด้านการแกะสลัก คือ พ่อบุญมี ท้าวปินตา ท่านมีบ้านเดิมอยู่ที่ตัวเมืองจังหวัดเชียงใหม่ ต่อมาประมาณ พ.ศ. 2497 พ่อบุญมีได้ย้ายมาสร้างครอบครัวและตั้งถิ่นฐานอยู่ที่หมู่บ้านกิ่วแลน้อย ในสมัยนั้นหมู่บ้านกิ่วแลน้อยเป็นหมู่บ้านที่ทุรกันดาร การคมนาคมไม่สะดวก พ่อบุญมีไม่มีทรัพย์สมบัติใดนอกจากความรู้ที่ตนเองได้เรียนรู้สืบทอดวิชามาจากบิดามารดา นั่นคือ การแกะสลักช้าง ท่านจึงได้คิดริเริ่มประกอบอาชีพแกะสลักช้างเพื่อหารายได้เลี้ยงครอบครัว จากความวิริยะ อุตสาหะของพ่อบุญมี ทำให้ฐานะความเป็นอยู่ของครอบครัวมั่นคงเป็นปึกแผ่น 
 
ในปี พ.ศ. 2515 ร้านนารายณ์ภัณฑ์และห้างเซ็นทรัล กรุงเทพมหานครจากกระทรวงอุตสาหกรรมได้มาติดต่อซื้อขายงานฝีมือแกะสลักของพ่อบุญมีและท่านได้ส่งผลิตภัณฑ์ไม้แกะสลักรูปช้างเข้าประกวด ฝีมืองานหัตถกรรมอันประณีตของท่าน ทำให้ได้รับรางวัลชนะเลิศเหรียญทองพร้อมเกียรติบัตร รางวัลในครั้งนี้ทำให้งานแกะสลักไม้ของพ่อบุญมีได้รับความนิยมมากขึ้น ญาติพี่น้องบ้านใกล้เรือนเคียงรวมถึงชาวบ้านในชุมชนกิ่วแลน้อยต่างก็มาเรียนการแกะสลักจากพ่อบุญมี ความสำเร็จในขึ้นแรกนี้จึงเป็นกำลังใจครั้งสำคัญที่ผลักดันให้พ่อบุญมีมุ่งมั่นถ่ายทอดภูมิปัญญาในการแกะสลักไม้ให้กับบรรดาลูกศิษย์ต่างๆ เพื่อให้มีอาชีพสร้างรายได้จุนเจือครอบครัว และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น 
 
ต่อมา พ่อคำปัน ทองต้น ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านในขณะนั้น เห็นว่าชาวบ้านบางส่วนยังไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง บ้างก็รับจ้างทำไร่ทำนา บ้างก็รับจ้างในชุมชนที่ห่างไกลออกไป พ่อคำปันเห็นว่าการแกะสลักไม้สามารถสร้างรายได้ดีให้แก่หมู่บ้านและช่วยให้ชาวบ้านมีอาชีพและมีความเป็นอยู่ดีขึ้นได้ จึงติดต่อ พ่อครูตา ธรรมรังสี ซึ่งเป็นญาติกับพ่อคำปัน เดิมเป็นคนกิ่วแลน้อยแต่ไปแต่งงานและตั้งรกรากอยู่ที่อำเภอฝางให้กลับมาช่วยอนุรักษ์ภูมิปัญญาของบิดามารดา โดยการถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับงานช่างไม้แกะสลักให้กับคนในหมู่บ้าน เริ่มแรกนั้นมีพ่อครู 2 คนที่เริ่มสอนการแกะสลักลายไทยลงบนแผ่นไม้ คือพ่อครูใจ๋ มโนแก้ว และพ่อครูตา ธรรมรังสี ครูช่างทั้งสองคนนี้มีความเชี่ยวชาญในเรื่องการแกะสลักลายไทย วิถีชีวิตชนบท ช้างลากซุง ภาพวิวป่าต่าง ๆ 
 
นอกจากพ่อครูทั้งสองแล้ว ยังมีพ่อหนานธงชัย กิ่วแก้ว ที่มีความเชี่ยวชาญและเป็นพ่อครูสอนการแกะสลักไม้ในด้านลายพุทธประวัติและวรรณคดี คุณแม่บัวเกี๋ยง กิ่วแก้ว เล่าว่า พ่อหนานธงชัยเดิมเคยบวชเป็นพระมาก่อนและได้เริ่มฝึกการแกะสลักไม้จากฝาตู้หรือไม้เก่า โดยเริ่มฝึกแกะสลักไม้เป็นลายพุทธประวัติ ต่อมาจึงสึกจากการบวชพระมาเริ่มต้นอาชีพแกะสลักไม้และพัฒนาฝีมือจนมีความเชี่ยวชาญในการแกะสลักลายวรรณคดี รามเกียรติ์ พุทธประวัติต่างๆ ต่อมาในปี 2510 ได้แต่งงานกับคุณแม่บัวเกี๋ยง ซึ่งเดิมเป็นคนอำเภอแม่วาง จากนั้นพ่อหนานธงชัยก็ได้เริ่มถ่ายทอดการแกะสลักไม้ลายพุทธประวัติและวรรณคดีต่างๆให้แก่คุณแม่บัวเกี๋ยงและมีลูกศิษย์อีกประมาณ 10 คน เช่น คุณเดช สถานมูลคำ คุณสนิทและคุณสนอม มะลิกุล คุณดวงทิพย์ คำเมือง รวมถึงคุณเจน นวลสุภา หนึ่งในช่างไม้แกะสลักที่มีชื่อเสียงในปัจจุบัน 
 
จนกระทั่งในปีพ.ศ. 2545 ท่านนายอำเภอภุชงค์ โพธิกุฎสัย และคุณแม่ศิวพร ทองจ่าม ประธานสหกรณ์ในขณะนั้น ร่วมกับหน่วยราชการส่งเสริมให้มีการอนุรักษ์ภูมิปัญญาด้านการแกะสลักไม้และหัตถกรรม ผลักดันให้ผลิตภัณฑ์ไม้แกะสลักนี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานสู่สากล จนกระทั่งงานแกะสลักไม้ของหมู่บ้านกิ่วแลน้อยได้รับเลือกให้เป็นผลิตภัณฑ์ หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) และเป็นผลิตภัณฑ์อันดับหนึ่งของอำเภอสันป่าตอง ได้รับตราสัญลักษณ์เชียงใหม่แบรนด์ จากสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ ต่อมาหมู่บ้านกิ่วแลน้อยก็ได้รับเลือกให้เป็นหมู่บ้านหัตถกรรมเพื่อการท่องเที่ยว หรือ หมู่บ้านต้นแบบ OTOP ในปีพ.ศ. 2548 เพื่อเป็นศูนย์ข้อมูลและแสดงผลิตภัณฑ์ 
 
ภูมิปัญญาการแกะสลักไม้ของหมู่บ้านกิ่วแลน้อยมีทั้งหมด 3 แขนงด้วยกัน เริ่มแรกนั้นคือการแกะสลักช้าง ต่อมาด้วยการแกะสลักแผ่นไม้ลายไทยและวิถีชีวิตชนบท ต่อด้วยการแกะสลักภาพพุทธประวัติและวรรณคดีต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดภูมิปัญญากันมารุ่นสู่รุ่น ลูกศิษย์ต่างร่ำเรียนและกลับไปยึดอาชีพการแกะสลักที่บ้านของตนเอง ทำให้ภูมิปัญญาการแกะสลักกระจายไปทั่วอำเภอสันป่าตอง ปัจจุบันหมู่บ้านกิ่วแลน้อยถือเป็นหมู่บ้านต้นแบบในการแกะสลักไม้ เป็นที่ตั้งของศูนย์หัตถกรรมการแกะสลักไม้แห่งอำเภอสันป่าตอง ภายในหมู่บ้านยังคงมีการแกะสลักไม้กันทุกวันและยังเป็นศูนย์รวมของครูช่างมากมาย ซึ่งครูช่างก็จะสาธิตและสอนการแกะสลักให้นักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจด้วย 
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
Potential of the village: the village of KIO Lae less.The history of the village.Wood carvings of the little village of bath has been closely, inherited from generation to generation for nearly six decades. From the artisans to carve is the father of merit with Thao pin eye. Your home is at the town of Chiang Mai Province. Later, there were approximately 2497 (1954) father merit moving build families and settlers are at least closely, KIO village. In those villages, the village of bath is not running wild. Transport is not convenient. There is no merit to his father, which in addition to the knowledge that they have learned the inheritance Department comes from parents that are carved elephants, he has carved a career initiative for raising incomes, Chang family from wiriya. Utsaha father there the merit of a stable family.  ในปี พ.ศ. 2515 ร้านนารายณ์ภัณฑ์และห้างเซ็นทรัล กรุงเทพมหานครจากกระทรวงอุตสาหกรรมได้มาติดต่อซื้อขายงานฝีมือแกะสลักของพ่อบุญมีและท่านได้ส่งผลิตภัณฑ์ไม้แกะสลักรูปช้างเข้าประกวด ฝีมืองานหัตถกรรมอันประณีตของท่าน ทำให้ได้รับรางวัลชนะเลิศเหรียญทองพร้อมเกียรติบัตร รางวัลในครั้งนี้ทำให้งานแกะสลักไม้ของพ่อบุญมีได้รับความนิยมมากขึ้น ญาติพี่น้องบ้านใกล้เรือนเคียงรวมถึงชาวบ้านในชุมชนกิ่วแลน้อยต่างก็มาเรียนการแกะสลักจากพ่อบุญมี ความสำเร็จในขึ้นแรกนี้จึงเป็นกำลังใจครั้งสำคัญที่ผลักดันให้พ่อบุญมีมุ่งมั่นถ่ายทอดภูมิปัญญาในการแกะสลักไม้ให้กับบรรดาลูกศิษย์ต่างๆ เพื่อให้มีอาชีพสร้างรายได้จุนเจือครอบครัว และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น  ต่อมา พ่อคำปัน ทองต้น ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านในขณะนั้น เห็นว่าชาวบ้านบางส่วนยังไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง บ้างก็รับจ้างทำไร่ทำนา บ้างก็รับจ้างในชุมชนที่ห่างไกลออกไป พ่อคำปันเห็นว่าการแกะสลักไม้สามารถสร้างรายได้ดีให้แก่หมู่บ้านและช่วยให้ชาวบ้านมีอาชีพและมีความเป็นอยู่ดีขึ้นได้ จึงติดต่อ พ่อครูตา ธรรมรังสี ซึ่งเป็นญาติกับพ่อคำปัน เดิมเป็นคนกิ่วแลน้อยแต่ไปแต่งงานและตั้งรกรากอยู่ที่อำเภอฝางให้กลับมาช่วยอนุรักษ์ภูมิปัญญาของบิดามารดา โดยการถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับงานช่างไม้แกะสลักให้กับคนในหมู่บ้าน เริ่มแรกนั้นมีพ่อครู 2 คนที่เริ่มสอนการแกะสลักลายไทยลงบนแผ่นไม้ คือพ่อครูใจ๋ มโนแก้ว และพ่อครูตา ธรรมรังสี ครูช่างทั้งสองคนนี้มีความเชี่ยวชาญในเรื่องการแกะสลักลายไทย วิถีชีวิตชนบท ช้างลากซุง ภาพวิวป่าต่าง ๆ  นอกจากพ่อครูทั้งสองแล้ว ยังมีพ่อหนานธงชัย กิ่วแก้ว ที่มีความเชี่ยวชาญและเป็นพ่อครูสอนการแกะสลักไม้ในด้านลายพุทธประวัติและวรรณคดี คุณแม่บัวเกี๋ยง กิ่วแก้ว เล่าว่า พ่อหนานธงชัยเดิมเคยบวชเป็นพระมาก่อนและได้เริ่มฝึกการแกะสลักไม้จากฝาตู้หรือไม้เก่า โดยเริ่มฝึกแกะสลักไม้เป็นลายพุทธประวัติ ต่อมาจึงสึกจากการบวชพระมาเริ่มต้นอาชีพแกะสลักไม้และพัฒนาฝีมือจนมีความเชี่ยวชาญในการแกะสลักลายวรรณคดี รามเกียรติ์ พุทธประวัติต่างๆ ต่อมาในปี 2510 ได้แต่งงานกับคุณแม่บัวเกี๋ยง ซึ่งเดิมเป็นคนอำเภอแม่วาง จากนั้นพ่อหนานธงชัยก็ได้เริ่มถ่ายทอดการแกะสลักไม้ลายพุทธประวัติและวรรณคดีต่างๆให้แก่คุณแม่บัวเกี๋ยงและมีลูกศิษย์อีกประมาณ 10 คน เช่น คุณเดช สถานมูลคำ คุณสนิทและคุณสนอม มะลิกุล คุณดวงทิพย์ คำเมือง รวมถึงคุณเจน นวลสุภา หนึ่งในช่างไม้แกะสลักที่มีชื่อเสียงในปัจจุบัน  จนกระทั่งในปีพ.ศ. 2545 ท่านนายอำเภอภุชงค์ โพธิกุฎสัย และคุณแม่ศิวพร ทองจ่าม ประธานสหกรณ์ในขณะนั้น ร่วมกับหน่วยราชการส่งเสริมให้มีการอนุรักษ์ภูมิปัญญาด้านการแกะสลักไม้และหัตถกรรม ผลักดันให้ผลิตภัณฑ์ไม้แกะสลักนี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานสู่สากล จนกระทั่งงานแกะสลักไม้ของหมู่บ้านกิ่วแลน้อยได้รับเลือกให้เป็นผลิตภัณฑ์ หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) และเป็นผลิตภัณฑ์อันดับหนึ่งของอำเภอสันป่าตอง ได้รับตราสัญลักษณ์เชียงใหม่แบรนด์ จากสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ ต่อมาหมู่บ้านกิ่วแลน้อยก็ได้รับเลือกให้เป็นหมู่บ้านหัตถกรรมเพื่อการท่องเที่ยว หรือ หมู่บ้านต้นแบบ OTOP ในปีพ.ศ. 2548 เพื่อเป็นศูนย์ข้อมูลและแสดงผลิตภัณฑ์  ภูมิปัญญาการแกะสลักไม้ของหมู่บ้านกิ่วแลน้อยมีทั้งหมด 3 แขนงด้วยกัน เริ่มแรกนั้นคือการแกะสลักช้าง ต่อมาด้วยการแกะสลักแผ่นไม้ลายไทยและวิถีชีวิตชนบท ต่อด้วยการแกะสลักภาพพุทธประวัติและวรรณคดีต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดภูมิปัญญากันมารุ่นสู่รุ่น ลูกศิษย์ต่างร่ำเรียนและกลับไปยึดอาชีพการแกะสลักที่บ้านของตนเอง ทำให้ภูมิปัญญาการแกะสลักกระจายไปทั่วอำเภอสันป่าตอง ปัจจุบันหมู่บ้านกิ่วแลน้อยถือเป็นหมู่บ้านต้นแบบในการแกะสลักไม้ เป็นที่ตั้งของศูนย์หัตถกรรมการแกะสลักไม้แห่งอำเภอสันป่าตอง ภายในหมู่บ้านยังคงมีการแกะสลักไม้กันทุกวันและยังเป็นศูนย์รวมของครูช่างมากมาย ซึ่งครูช่างก็จะสาธิตและสอนการแกะสลักให้นักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจด้วย
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
Potential: the village village deflated care less

. The history of the villageWood carvings of the village deflated and little has been passed down from generation to generation for nearly six decades. From the artisans in carving is the father Boonmee, pinta, he has a house in the town of Chiang Mai Province later around BC.2497 father Boonmee has moved to build a family and settled at the village of compressed and less. In those days the village is deflated and little village wilderness, transportation is convenient.That is, the carving elephant. You have initiated a career to earn money to feed their families carved elephants from the persistence, patience. I Boonmee. The status of the family firm as unified as
."
in 2002.Store and 2515 Narai pHand central. Bangkok from the Ministry of industry as dealing carving crafts of father Boonmee and he sent wood products carved elephant into the contest. Hand crafting intricate.The making of wood carving of father Boonmee is more popular. Relative neighborhood include people in the community are deflated care less Marian carving จากพ่อ Boonmee.To support our family occupation make money And live better lives.
."
.Later, my words share the gold trees, which is a village in the moment. That some villagers have no career is the main source of some mercenaries, dying, some to be employed in the community that far away.Called my dad eyes. ธรรมรังสี, which is related to my words pan. The original is deflated and less but, married and settled at Fang back to help conserve the wisdom of the parents.The beginning is my dad 2 who began to teach carving type onto a sheet of wood, my dad got mano glass and my dad. ธรรมรังสี I really you two have expertise in Thai carving Rural life, elephant to haul logs. The view different forest.
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: