:: โหมดความคิด 5 แบบความคิดมีกี่โหมด1. คิดทางลบคือ คิดอกุศล คิดร้าย กังวล ฟุ้งซ่าน ทุกข์ใจ อึดอัด สงสัย โลภ โกรธ วุ่นวาย เหงา เศร้า บาป อื่นๆ 2. คิดทางบวกคือ คิดกุศล คิดดี ปิติ สุข เมตตา เบาใจ โปร่ง สว่าง ชัดเจนสละ ผู้ให้ ปล่อยวาง บุญ อื่นๆ3. คิดในงาน(ทำงานด้วยจิตว่าง)คือ อยู่กับหน้าที่ตรงหน้าในปัจจุบันขณะ วินาทีต่อวินาที4. ว่างจากความคิด(หยุดคิด)คือ การระงับความคิดให้สงบนิ่งลงเป็นลำดับตั้งแต่ สมาธิระดับฌาน1-8 และนิโรธสมาบัติ 5. เห็นความคิดคือ การรู้ความคิดอย่างเป็นกลาง เห็นการเกิดดับของความคิด นำไปสู่ความรู้ว่า เราไม่ใช่เรา** The relationship of the various types of thinking mode **-Normally, most people have the idea in the first mode the most, that is, thinking delete. Result in distress and depression of your life.-Positive thinking later often occurs, delete as has already occurred. Fire and fire trucks outage comes Delete the idea is fire. Positive thinking is part fire truck. Fire truck parts will come fast in practice. A common saying is, look at the world, said celebrities.-To do their job performance is to practice working with the mind busy. Normally, if not coupled with meditation, it will have the opportunity to make very difficult. Normal people, we will think about fifty thousand stories per day. Of course, we think there is always something else, even in the time that we are working and then make our quality with reduced. - ความคิดในโหมดที่สี่ หรือการว่างจากความคิด จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อหลับลึก หรือเข้าสู่สมาธิเท่านั้น แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเกิดขึ้นกับบุคคลทั่วไป นี่เองจึงเป็นสาเหตุที่ว่า เหตุใดจึงมีคนดึงศัยภาพขั้นสูงสุดของสมอง และจิตออกมาใช้ได้น้อยมาก สิ่งนี้เองคือสาเหตุที่ทำให้คนๆ เกิดความสร้างสรรค์เหนือคนธรรมดา และกลายเป็นอัจฉริยะได้ - การเห็นความคิดในรูปแบบของโหมดที่ห้า จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าผู้ใช้ความคิดไม่ฝึกวิปัสสนา ดังเช่นที่พระพุทธเจ้าเคยตรัสเอาไว้ว่า มนุษย์โดยส่วนใหญ่ ไม่เคยเห็นการเกิดดับของจิตเลยตั้งแต่เกิดจนตาย ในโหมดนี้ หากใครทำได้เป็นปกติ ย่อมสามารถควบคุมความคิดของตนทุกโหมดได้ด้วย การเห็นความคิดนี้นอกจากจะทำให้มีความสุข และเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ชีวิตแล้ว ยังสามารถทำให้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ได้ด้วย- ธรรมชาติของมนุษย์นั้น จะเกิดความคิดในโหมดที่หนึ่งและสองสลับกันไปมา ส่วนโหมดที่สามนั้น จะเกิดได้ยาก เนื่องจากจะมีความคิดบวก คิดลบแทรกเข้ามาโดยตลอดระหว่างทำงาน ทำให้จิตละความสนใจจากงานตรงหน้าได้ง่าย สำหรับโหมดที่สี่และโหมดที่ห้านั้น จะเกิดขึ้นกับผู้ที่ฝึกจิตเท่านั้น ต่อเมื่อฝึกฝนการใช้ความคิดในโหมดที่สี่และห้าจนชำนาญแล้ว โหมดที่หนึ่งก็จะค่อยๆ ลดลง ส่งผลให้ความสุขและความสำเร็จเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด เป็นผู้ที่สามารถเอาดีได้ทั้งทางโลกและทางธรรมไปพร้อมๆ กัน "พศิน อินทรวงค์"
การแปล กรุณารอสักครู่..
