การรักษาเด็กที่เป็นโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้
1. การดูแลสุขภาพทั่วไป (general measures)
พักผ่อนให้เพียงพอ
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
รับประทานอาหารให้ครบหมู่
ให้ความรู้เรื่องโรคภูมิแพ้
กำจัดและหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ทุกชนิดถ้าเป็นไปได้ หรืออย่างน้อยควรขจัดสารแพ้ที่ผู้ป่วยตรวจแล้วพบว่าแพ้ โดยการตรวจทางผิวหนัง
การรักษาโดยการใช้ยา แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ตามความรุนแรงของโรคที่ได้แบ่งมาแล้วข้างต้น
Mild degree
ให้ first generation antihistamine เป็นครั้งคราวเฉพาะเวลาที่มีอาการ หรืออาจให้ second/third generation antihistamine ในเด็กที่ไปโรงเรียน
ถ้ามีอาการคัดจมูกที่จำเป็นต้องใช้ยา decongestant ชนิดกิน เช่น พวก pseudoephedrine ในเด็กให้ใช้ขนาดต่ำๆ เช่น 1-1.5 mg/kg/dose และอย่าให้ใกล้เวลานอน เพราะเด็กอาจมี irritability และไม่ยอมนอนได้
3.2 Moderate degree
ให้ antihistamine ± decongestant เช่นเดียวกับกลุ่มแรก แต่อาจต้องพิจารณาให้ชนิด long-acting และให้แบบ regular basis
ยาพ่นจมูก ใช้ในกรณีที่เด็กกินยาแล้วไม่ได้ผล หรือไม่สามารถหยุดยากินได้ อาจต้องใช้ยาพ่นจมูกชนิดที่เป็น antiallergic drug ซึ่งมี 2 ชนิด ได้แก่
Sodium cromoglycate 2% solution จัดว่าเป็นยาที่ปลอดภัยมาก แม้จะใช้เป็นเวลานาน ก็ไม่พบมีผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ที่อาจเป็นอันตราย แต่กว่าจะได้ผลมักต้องใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน ในกรณีที่เด็กมีอาการคัดจมูกมากจึงต้องเริ่มใช้ชนิดที่ผสมกับ decongestant ก่อนประมาณ 2 สัปดาห์ เพื่อให้จมูกโล่ง แล้วเปลี่ยนเป็นชนิดที่ไม่มี decongestant ผสมอยู่ ข้อเสียอีกประการหนึ่งคือ ต้องใช้บ่อยครั้ง คืออาจจะถึงวันละ 4-6 ครั้ง
Topical corticosteroid มีให้เลือกหลายชนิด และจัดว่าเป็นยาที่ช่วยลดการบวมของเยื่อบุจมูกได้ดีที่สุด แต่มีข้อต้องระวัง 2 ประการคือ หากมีการติดเชื้อของจมูกและไซนัสอักเสบร่วมด้วย ต้องรักษาด้วยยาต้านจุลชีพจนกว่าหนองในจมูกจะหมดไป จึงจะใช้ topical corticosteroid ได้ผล และในเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง และใช้ในขนาดน้อยที่สุดที่สามารถจะควบคุมอาการได้ เพื่อป้องกันผลเสียที่อาจเกิดจากยาโดยทั่วไป ไม่ควรใช้ยาในกลุ่มนี้ต่อเนื่องกันเกิน 2 สัปดาห์
ยาพ่นจมูกทั้ง 2 ชนิดนี้ออกฤทธิ์ช้า ในระยะแรกหากผู้ป่วยมีอาการมาก อาจต้องให้ร่วมกับยา antihistamine และ decongestant ชนิดกินประมาณ 3-7 วัน และยาทั้ง 2 ชนิดนี้อาจใช้แบบครั้งคราว (prn) ได้ แต่ให้ผลไม่ดีเท่ากับใช้สม่ำเสมอ
ยาพ่นจมูกชนิดที่เป็น antihistamine เริ่มมีจำหน่ายบ้างแล้ว และอาจเลือกใช้แทนชนิดกินได้
การให้น้ำเกลือ (normol saline) พ่นจมูก ในบางโอกาสที่จมูกแห้งหรือได้รับฝุ่นควันมาก อาจใช้น้ำเกลือล้างหรือพ่นจมูกได้
3.3 Severe degree แบ่งเป็น 2 กลุ่ม
1. กลุ่มที่ไม่มีแหรกซ้อน
ให้การรักษาเช่นเดียวกับกลุ่ม moderate degree ถ้าไม่ได้ผลภายใน 2 สัปดาห์ ควรส่งต่อให้ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคภูมิแพ้ร่วมวินิจฉัยและรักษา
กลุ่มที่มีโรคแทรกซ้อน เช่น ไซนัสอักเสบ, หูชั้นกลางอักเสบ, หอบหืด, ต่อม adenoid โต ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญร่วมให้การรักษา หรือทำผ่าตัด
การให้การรักษาโดยการฉีดวัคซีน (allergen immunotherapy) ควรต้องให้การรักษาโดยผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ข้อบ่งชี้ในการให้การรักษาโดยวิธีนี้ คือ
1. หลีกเลี่ยงสารที่แพ้ไม่ได้
2. มีอาการรุนแรงและใช้ยาดังที่กล่าวมาแล้วทั้งหมดแล้วไม่ได้ผลหรือไม่สามารถหยุดยาได้