การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาสื่อวีดิทัศน์พัฒนาทักษะการอ่านคำศัพท์ภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 70/70 2) เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของการพัฒนาทักษะการอ่านคำศัพท์ภาษาอังกฤษโดยใช้สื่อวีดิทัศน์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ในการอ่านคำศัพท์ภาษาอังกฤษโดยใช้สื่อวีดิทัศน์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ก่อนเรียนและหลังเรียน 4) เพื่อศึกษาความพอใจของนักเรียนที่มีต่อกิจกรรมการ เรียนรู้การพัฒนาทักษะการอ่าน ภาษาอังกฤษโดยใช้สื่อวีดิทัศน์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
ผลการวิจัยพบว่า จากการวิจัยการพัฒนาทักษะการอ่านคำศัพท์ภาษาอังกฤษโดยใช้สื่อวีดิทัศน์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ปรากฏผลดังนี้
1. ผลการศึกษาการพัฒนาทักษะการอ่านคำภาษาอังกฤษโดยใช้สื่อวีดิทัศน์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จากการเก็บข้อมูลก่อนเรียนและหลังเรียนคะแนนร้อยละของแบบทดสอบก่อนเรียนคิดเป็นร้อยละ 42.22 และคะแนนร้อยละของแบบทดสอบหลังเรียนคิดเป็นร้อยละ 81.11 แปลผลได้ว่า คะแนนก่อนเรียนที่คิดเป็นร้อยละนั้นอยู่ในเกณฑ์ปรับปรุง และคะแนนหลังเรียนที่คิดเป็นร้อยละอยู่ในเกณฑ์ดีมาก เห็นได้ว่าคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียนมีความแตกต่างกันมาก จึงอ้างได้ว่าการพัฒนาทักษะการอ่านคำศัพท์ภาษาอังกฤษโดยใช้สื่อวีดิทัศน์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 นั้นได้ผลดีมาก
2. ผลการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำภาษาอังกฤษโดยใช้แบบประเมินการอ่านออกเสียง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ 86.33/81.11 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ หมายความว่า นักเรียนได้คะแนนเฉลี่ยจากการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านคำภาษาอังกฤษ คิดเป็นร้อยละ 86.33 และได้คะแนนเฉลี่ยหลังเรียนคิดเป็นร้อยละ 81.11 สื่อที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 70/70 ซึ่งเป็นไปตามสมมุติฐานที่ตั้งไว้



คำสำคัญ: (1) ความพึงพอใจ (2) ประชาชน (3) การให้บริการ

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาสื่อวีดิทัศน์พัฒนาทักษะการอ่านคำศัพท์ภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 70/70 2) เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของการพัฒนาทักษะการอ่านคำศัพท์ภาษาอังกฤษโดยใช้สื่อวีดิทัศน์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ในการอ่านคำศัพท์ภาษาอังกฤษโดยใช้สื่อวีดิทัศน์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ก่อนเรียนและหลังเรียน 4) เพื่อศึกษาความพอใจของนักเรียนที่มีต่อกิจกรรมการ เรียนรู้การพัฒนาทักษะการอ่าน ภาษาอังกฤษโดยใช้สื่อวีดิทัศน์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 Research has found that from research to develop reading skills, vocabulary, English using video media of students grade 3 appear as follows: 1. ผลการศึกษาการพัฒนาทักษะการอ่านคำภาษาอังกฤษโดยใช้สื่อวีดิทัศน์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จากการเก็บข้อมูลก่อนเรียนและหลังเรียนคะแนนร้อยละของแบบทดสอบก่อนเรียนคิดเป็นร้อยละ 42.22 และคะแนนร้อยละของแบบทดสอบหลังเรียนคิดเป็นร้อยละ 81.11 แปลผลได้ว่า คะแนนก่อนเรียนที่คิดเป็นร้อยละนั้นอยู่ในเกณฑ์ปรับปรุง และคะแนนหลังเรียนที่คิดเป็นร้อยละอยู่ในเกณฑ์ดีมาก เห็นได้ว่าคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียนมีความแตกต่างกันมาก จึงอ้างได้ว่าการพัฒนาทักษะการอ่านคำศัพท์ภาษาอังกฤษโดยใช้สื่อวีดิทัศน์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 นั้นได้ผลดีมาก 2. ผลการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำภาษาอังกฤษโดยใช้แบบประเมินการอ่านออกเสียง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ 86.33/81.11 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ หมายความว่า นักเรียนได้คะแนนเฉลี่ยจากการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านคำภาษาอังกฤษ คิดเป็นร้อยละ 86.33 และได้คะแนนเฉลี่ยหลังเรียนคิดเป็นร้อยละ 81.11 สื่อที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 70/70 ซึ่งเป็นไปตามสมมุติฐานที่ตั้งไว้คำสำคัญ: (1) ความพึงพอใจ (2) ประชาชน (3) การให้บริการ

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

This research aims: 1) to develop a video, reading skills in English for students in grade 3, efficiency criteria 70/70 2) to determine the effectiveness index of skills development. Read English vocabulary by using the video of the students grade 3, 3) to compare achievement in reading English vocabulary by using videotape the student's grade 3 before and after. 4 students) to study the students' satisfaction with the event. Learn to improve reading skills. English through the medium of video-grade students last year. 3
The results showed that From research to develop reading skills in English using the medium of video, Grade 3 students were as follows:
1. The study of reading skills in English using the medium of video. Students grade 3 of the store before and after learning the percentage of tests before learning percent 42.22 and the percentage of posttest representing 81.11 interpreted as the first. Percentage of students who are in the update. And after studying at a percentage rate in very good shape. Seen that before and after the classes are very different. He claimed that the development of reading skills in English using the medium of video. Grade 3 students had very good results
2. The learning management skills, reading and writing English spelling using assessments read aloud. Grade 3 students who study the efficiency of 86.33 / 81.11 which was higher than the set criteria meant that students had an average score of the curriculum to improve reading skills in English. Percent and averaged 86.33 percent to 81.11 after the media was more effective as the standard 70/70, which is based on the assumptions set Keywords: (1) Satisfaction (2) public (. 3) Service

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

.The purpose of this study was 1) to develop video media to develop reading skills in English vocabulary for students 3 efficiency criteria. 70 / 70 2).3 3) to compare the achievement in English reading and vocabulary using video media of students in grade 3 pre-test and post-test. 4) to study the satisfaction of students towards activities.English using video media of grade 3
.It was found that From the research, development, English reading and vocabulary skills using video media of students in grade 3 the results indicated as follows:
1.The development of reading skills in English words by using video. Study of 3 from data collected before and after percentage points of pre-test, were 42.22 and the percentage points of the test after the study was 81.