พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่บังเกิดขึ้น

พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่บังเกิดขึ้นเพื่อช่วยเหลือมนุษย์ในโลกนี้ ให้หลุดพ้นจากความทุกข์ เพราะมนุษย์ต้องอยู่เป็นกลุ่มในสังคมที่ทุกคนยอมรับว่าเป็นสังคมที่มีความเจริญรุ่งเรือง เพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายในการดำรงชีพ แต่ขณะเดียวกันก็เกิดความไม่สงบขาดความมั่นคงด้าน
จิตใจ ขาดหลักที่พึ่งทางใจทำให้มีปัญหาต่อการดำรงชีวิตของตนเองและส่วนรวม
หลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าจึงมุ่งที่สอนให้มนุษย์มีหลักที่พึ่งทางใจ และมีแนวทางการประพฤติปฏิบัติที่จะทำให้เกิดมงคลแก่ชีวิต อันจะทำให้มนุษย์สามารถอยู่รวมกันในสังคมด้วยความสงบสุขและเจริญก้าวหน้า

/พุทธธรรมเพื่อชีวิตและสังคม
พุทธธรรมเป็นเครื่องนำทางในการดำเนินชีวิตธรรมทุกข้อหากปฏิบัติตามอย่างจริงจังจะเป็นประโยชน์แก่ชีวิตอย่างมากทั้งสิ้น พุทธธรรมนั้นสอนทั้งการดำเนินชีวิตที่จะทำให้ชีวิตตนมีค่าหรือเป็นชีวิตที่ประเสริฐ ชีวิตที่อยู่กับความเจริญและคุณธรรมและสอนการดำเนินชีวิตให้สังคมอยู่ร่วมกันอย่างสามัคคี สงบ และเกิดประโยชน์แก่ส่วนรวม
หลักธรรมทางพระพุทธศาสนามีเป็นจำนวนมาก หลักธรรมที่จัดว่าเป็นแม่บทของพุทธธรรมทั้งหมดได้แก่ อริยสัจ ๔ ซึ่งจะช่วยให้เรามีความเข้าใจความเป็นจริงของธรรมชาติ และรู้จักชีวิตของตนเองอย่างแท้จริง

๑. อริยสัจ ๔ : ความจริงอันประเสริฐ ๔ อย่าง
อริยสัจ แปลว่า “ความจริงอันประเสริฐ หรือความจริงของพระอริยบุคคล” หมายความว่า ถ้าผู้ใดสามารถรู้ อริยสัจ ๔ ด้วยปัญญา ผู้นั้นก็จะเป็นพระอริยบุคคลและที่ทำให้เป็นผู้ประเสริฐนั้นก็เพราะในขณะที่รู้ อริยสัจ ๔ กิเลสทั้งหลายก็ถูกทำลายหายไปจากจิตของผู้นั้นด้วย คือ จิตจะมีสภาพใสสะอาด บริสุทธิ์ พ้นจากสภาพสามัญชนกลายเป็นพระอริยบุคคล หรือเป็นบุคคลที่ประเสริฐอริยสัจดังกล่าวนี้ เจ้าชายสิทธัตถะทรงเป็นผู้ค้นพบหรือได้ตรัสรู้เป็นบุคคลแรกในโลกจึงทำให้พระองค์กลายเป็นพระพุทธเจ้า หรือเป็นบุคคลผู้ประเสริฐกว่าเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
อริยสัจ ๔ จัดเป็นหมวดธรรมที่สำคัญมากของพระพุทธศาสนา เพราะเป็นที่สรุปรวมของพระธรรมคำสั่งสอนทั้งหมด หมายความว่า พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ในพระไตรปิฎกทั้ง ๓ คือ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก และพระอภิธรรมปิฎกนั้น ก็จะสรุปรวมลงในอริยสัจ ๔ ทั้งสิ้น
ความหมายของอริยสัจ ๔ แต่ละข้อ เพื่อจำง่ายจึงเป็นตารางได้ดังนี้
อริยสัจ ๔
คำแปล
คำขยายความ
๑. ทุกข์
๒. สมุทัย
๓. นิโรธ
๔. มรรค
ความไม่สบายกายไม่สบายใจ
เหตุให้ทุกข์เกิด
ความดับทุกข์
ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์
ที่จัดว่าเป็นทุกข์เพราะมีลักษณะเบียดเบียน บีบคั้น ทนได้ยาก
ได้แก่ ตัณหาความอยาก ๓ อย่าง
ได้แก่ การดับตัณหาให้สิ้นไป
ได้แก่ มรรค ๘ ประการ


๑.๑ ทุกข์ : ความทุกข์
ทุกข์ คือ สิ่งที่เบียดเบียนบีบคั้นทำให้เกิดความไม่สบายกาย ไม่สบายใจ อันเกิดจากร่างกายหรือจิตใจ ถูกเบียดเบียนแล้ว ทนได้ยาก หรือทนไม่ได้ จึงทำให้เกิดเป็นทุกข์ ยกตัวอย่าง เช่น เมื่อนักเรียนเจ็บไข้ได้ป่วย ปวดหัว ปวดฟัน ปวดท้องอย่างรุนแรงจนทนไม่ได้ ทนไม่ไหว จึงเกิดเป็นทุกข์ทางกาย
ในบางครั้ง นักเรียนเกิดอารมณ์เศร้า หดหู่ หรือเกิดอาการกระวนกระวายใจ เพราะถูกด่าบ้าง เพราะผิดหวังที่ทำอะไรไม่ได้ตามใจบ้าง จึงเกิดเป็นทุกข์ทางใจ
ความทุกข์ทางกายและความทุกข์ทางใจทั้ง ๒ ประการนี้ จัดเป็นความทุกข์ขั้นพื้นฐานที่เกิดขึ้นประจำวัน ซึ่งทุกคนต่างก็รู้จักดีและเคยประสบกันมาแล้ว แต่ความทุกข์ที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบในทุกข์อริยสัจนั้น ยังมีความหมายกว้าง ครอบคลุมไปถึงลักษณะไม่คงที่ มีความแปรปรวนในสิ่งที่ทั้งปวงด้วย ซึ่งท่านได้แบ่งออกเป็น ๒ กลุ่มใหญ่ๆ ดังนี้ คือ
๑. สภาวทุกข์ คือ ทุกข์ประจำสภาวะ หมายถึง ความทุกข์ที่มีประจำอยู่ในสภาพร่างกายของคนเรา เริ่มตั้งแต่เกิดมามีชีวิต จนถึงตาย ซึ่งมีอยู่ ๓ อย่าง ดังนี้ คือ
๑.๑ ชาติทุกข์ แปลว่า “ความเกิดเป็นทุกข์” หมายถึง การทนทุกข์ทรมานตั้งแต่อยู่ในครรภ์
จนถึงคลอด ซึ่งแสดงให้เห็นว่า การเกิดมามีชีวิตได้นั้น ต้องผ่านอันตรายมาได้โดยยากจึงจัดว่าเป็นทุกข์เพราะการเกิด
๑.๒ ชราทุกข์ แปลว่า “ความแก่ชราเป็นทุกข์” หมายถึง สภาพร่างกายแก่ชราคร่ำครวญทรุดโทรม แม้จะนั่งจะนอน จะเดินไปมาก็ลำบาก จึงจัดว่าเป็นความทุกข์เพราะความแก่ชรา
๑.๓ มรณทุกข์ แปลว่า “ทุกข์คือความตาย” หมายถึง ความตายนั้นเป็นสิ่งที่มาทำลายชีวิตหรือตัดรอนชีวิตของเราให้สิ้นไป จึงจัดเป็นความทุกข์เพราะความตาย
๒. ปกิณณกทุกข์ แปลว่า “ทุกข์เล็กๆ น้อยๆ” หมายถึง ความทุกข์ที่จรมาจากที่อื่นโดยเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว ตามเหตุการณ์และสิ่งแวดล้อมของชีวิต มีน้อยบ้างมากบ้าง ผลัดเปลี่ยนกันไปในแต่ละบุคคล ซึ่งมีอยู่ถึง ๘ อย่าง คือ
๒.๑ โสกะ ความเศร้าใจ ความเสียใจ
๒.๒ ปริเทวะ ความรำพึงรำพรรณบ่นท้อ
๒.๓ ทุกขะ ความไม่สบายกายเพราะเจ็บป่วย
๒.๔ โทมนัสสะ ความน้อยใจ ความไม่สบายใจ
๒.๕ อุปายาสะ ความคับใจ ความตรอมใจ
๒.๖ อัปปิยสัมปโยคะ ประสบสิ่งไม่เป็นที่รักแล้วไม่ชอบใจ
๒.๗ ปิยวิปปโยคะ ความพลัดพรากจากสิ่งที่รัก
๒.๘ อิจฉตาลาภะ ความผิดหวังไม่ได้สิ่งที่ตนอยากได้
อาการทั้งหมดนี้จัดเป็นทุกข์ ความเดือดร้อน ซึ่งเกิดขึ้นแก่ทุกคน ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ และเกิดขึ้นได้ทุกเวลาทุกโอกาส การที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอนให้ชาวพุทธได้รู้จักกับตัวความทุกข์เหล่านั้น มิได้หมายความว่าพระองค์ทรงสอนให้เรามองโลกในแง่ร้าย แต่ทรงสั่งสอนให้มองโลกตามความเป็นจริง คือ ให้รู้จักกับความเป็นจริงของโลก เพื่อประสงค์จะให้ชาวพุทธไม่ประมาทพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับความเป็นจริงนั้น และสามารถที่จะหาวิธีแก้ไขปัญหาชีวิตของตนได้ทุกโอกาส
๑.๒ สมุทัย : เหตุให้ทุกข์เกิด
สมุทัย แปลว่า “เหตุให้ทุกข์เกิด” หมายความว่า ความทุกข์ทั้งหมดในอริยสัจข้อที่ ๑ เหล่านั้นมิได้เกิดขึ้นมาลอยๆ จะต้องมีสาเหตุบางอย่างที่ทำให้ทุกข์เกิดขึ้น พระพุทธองค์นอกจากจะทรงรู้จักตัวความทุกข์อย่างแจ่มแจ้งแล้ว ยังทรงรู้สึก

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

Buddhism is a religion that is to help the human being up in the world, dropped out because of human suffering is a group in society that everyone accepts that as a society with prosperity. Fully equipped with facilities for living, but at the same time was its lack of security.Soul. Lack of reliable financial and main, there is a problem with their personal lives and the public. The main teachings of Buddha's teachings so that the humans have reliable financial and operational guidelines of conduct that would cause an auspicious as it makes the humans can live together in a society with peace and progress.Buddhist teachings to life and society/ Buddha Dharma is life fair, in all seriousness, if compliance would be extremely beneficial to life. The Dhamma teaching and way of life that will make their lives a life of virtue or value. Life with prosperity, and moral and social teaching of life, unity and co-existence of benefit. Principles, there are many Buddhist way. The mother of the main chapters of the Buddhist Dharma: noble truth of all 4 which will help us to understand the reality of nature and get to know their own real life. 1.4th noble truth: true an official virtue 4. Noble truth "true virtue or truth of an ariyabukkhon" meaning that if one can establish with the noble truth, wisdom, knowledge, ariyabukkhon and God made it, because, as a virtue, while knowing all the lust, 4th noble truth is destroying the minds of those who are missing from it is a clear condition is pristine from ordinary ethnic patterns as ariyabukkhon, or as a person, how noble truth. Prince is found or the first person in the world is the Enlightenment, he became the Buddha or a good person over all human beings and. 4 noble truth is the most important fair of the categories Buddhism because it is the sum of all the instruction. It means that the text of instruction in all 3 is the tripiṭaka Vinaya. Phra Buddha aphitrarom suttantapidok and pidok, it is aggregated into the 4th noble truth. The meaning of each of the four noble truth to remember is the following table. 4 noble truthTranslation.A extended1. the suffering2. the accumulation.3. complete extinction4. the four noble truthsThe meaning is not comfort stay.Why suffering occurs.Rotating outage, sufferingPractices, access level, sufferingThat is suffering because of the persecution is characteristic. Affliction-resistant.Example 3: passion-arousingThese include fire passion.Four Noble Truths: 8 reasons. 1.1 the suffering: the suffering Suffering is something that should be saved, not oppress comfort. Not being posed from the body or mind is hard to tolerate or endure persecution and did not therefore cause a distressed. For example, when students fall sick headaches. toothache severe abdominal pain, until resistant is not. Therefore, patience is suffering. In some time. Sad depressed mood occurs, students, or jitter, because symptoms are some swearing, because the disappointment does not spoil a suffering through your mind? Physical distress and suffering through this exciting two reasons. A fundamental distress that occurs every day, which is well known to everyone, and never experience the same suffering, but the Buddha found in the noble truth context distress include constant, there is no variation characteristics in the whole thing. Which he divided into two major groups: 1. suffering is suffering regular State tones meant to distress that is stationed in a person's physical condition; Starting from born to life until death, which contained three examples: 1.1 national suffering which means "birth" means suffering from the womb.Until the baby is born, which shows that life is born. Through dangerous, it's difficult to come by because of the suffering that occurs. 1.2 contents of the suffering which means "the old distressed ageing" refers to the condition of the body is sufficiently old to moan disrepair even hum a ride to bed, it's difficult to walk, they are suffering because of the ageing old. 1.3 Act of dying the suffering "suffering is death" means that death is coming to destroy life or to sever our lives to the end to be suffering because of the death. 2. pakinnok the suffering "suffering Lite". It means the rest suffering from another are occasionally based on the events of their lives and the environment. There is little else changing in some individuals, which are available as: 2.1 mind focus over soka Sorrow 2.2 prithewa kind of dancing ability to consider complain peach. 2.3 all Kha Specialized staff because of illness 2.4 thomnat rentals. Offence Mind the inconvenience. 2.5 UMA Paya railing reflecting mind. Specialized trom mind. 2.6 uploading what you are experiencing is not the piyasam Ka payo Sir, not like the heart. 2.7 piya Ka focus sharply separated from the payo vibe what love. 2.8 อิจฉ Ta la pha Disappointment is not what they wanted. All of these suffer symptoms. Trouble which occurs every person, whether child or adult, and occur all the time in every opportunity. That therefore he taught, a well-known Buddhist distress them. Does not mean that he taught us to look at the world in terms of terrorists. But he taught the world the reality is to know the reality of the world. In order to provide non-Buddhists to ready to face reality and be able to find a way to solve the problem of their life chances. 1.2 accumulation: why suffering occurs. สมุทัย แปลว่า “เหตุให้ทุกข์เกิด” หมายความว่า ความทุกข์ทั้งหมดในอริยสัจข้อที่ ๑ เหล่านั้นมิได้เกิดขึ้นมาลอยๆ จะต้องมีสาเหตุบางอย่างที่ทำให้ทุกข์เกิดขึ้น พระพุทธองค์นอกจากจะทรงรู้จักตัวความทุกข์อย่างแจ่มแจ้งแล้ว ยังทรงรู้สึก

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

Buddhism is the religion who happen to assist humans in this world, to be free from suffering. Because human beings have a group in the society, everyone would agree that as a society with prosperity.But while the unrest unstable side
.Mind lacking main rely on mental trouble on the livelihood of the self and collective
.The principles of the teachings of Buddha aims to teach humans have main rely on mental. The guidelines and practices to make favorable to life. A human can live together in peace and progress in society with

./ Dharma for life and society
.