เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่กินพืชเป

เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่กินพืชเป็นอาหาร (Herbivore) จัดอยู่ในอันดับสัตว์กีบคี่ (Order Perissodactyla) วงศ์แรด (Family Rhinocerotidae) ซึ่งสมาชิกในวงศ์นี้ปัจจุบันนั้นมีเหลืออยู่ ๕ สายพันธุ์ โดยแรดจำนวน ๒ สายพันธุ์นั้นมีถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีปแอฟริกา ได้แก่ แรดขาวและแรดดำ ส่วนอีก ๓ สายพันธุ์นั้นมีถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีปเอเชีย ได้แก่ แรดอินเดีย แรดชวา และแรดสุมาตรา

ลักษณะโดยทั่วไปของสัตว์ในวงศ์แรดก็คือ การมีขนาดตัวที่ใหญ่ โดยแรดทุกสายพันธุ์นั้นจะมีน้ำหนักตัวที่มากกว่า 1 ตันขึ้นไป โดยเฉพาะแรดขาวซึ่งถือว่าเป็นแรดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดนั้น มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองรองจากช้างเลยทีเดียว นอกจากนั้นแรดยังเป็นสัตว์ที่มีผิวหนังหนามาก โดยผิวหนังของแรดนั้นมีความหนาถึง ๑ – ๑.๕ เซนติเมตร ซึ่งประกอบไปด้วยคอลลาเจนสานกันเป็นโครงสร้างคล้ายตาข่าย ทำให้มีความแข็งแรงเป็นอย่างมาก และลักษณะที่ถือได้ว่าเป็นลักษณะที่เด่นที่สุดของสัตว์ในวงศ์แรดก็คือ "นอ” ซึ่งเป็นสารประกอบจำพวกเคอราตินจำนวนมากอัดแน่นกันจนแข็ง แรดจะใช้นอเป็นอาวุธในการพุ่งชนศัตรู โดยแรดขาว แรดดำ และแรดสุมาตราจะมีนอจำนวน ๒ นอ ส่วนแรดอินเดียและแรดชวาจะมีนอเพียงนอเดียว ตาของแรดนั้นถือว่ามีขนาดเล็กมากเมื่อเทียบกับลำตัวที่มีขนาดใหญ่ของมันทำให้แรดเป็นสัตว์ที่มีสายตาแย่มาก แต่ประสาทสัมผัสในเรื่องการดมกลิ่นและการได้ยินนั้นถือว่ายอดเยี่ยมมากเลยทีเดียว ซึ่งนั่นอาจเป็นการชดเชยในเรื่องสายตาที่ยอดแย่นั่นเอง เพื่อความอยู่รอดของตัวมันเอง อย่างไรก็ตามพบว่าโดยปกติแล้วแรดมักไม่ค่อยมีศัตรูตามธรรมชาติ เนื่องมาจากขนาดตัวที่ใหญ่ของมันนั่นเอง ศัตรูที่สำคัญที่สุดของแรดก็คือ "มนุษย์” ซึ่งมักจะล่าแรดเพื่อเอานอนำไปทำเป็นเครื่องรางของขลัง เครื่องประดับหรือนำไปทำยาสมุนไพรตามความเชื่อที่มีมาช้านาน ทำให้ประชากรของแรดลดลงเป็นจำนวนมาก โดยแรดดำ แรดชวา และแรดสุมาตรานั้นถือได้ว่าอยู่ในภาวะเสียงต่อการสูญพันธุ์เป็นอย่างยิ่ง (critically endangered) สำหรับแรดอินเดียนั้นก็อยู่ในภาวะเสียงต่อการสูญพันธุ์ (endangered) ส่วนแรดขาวนั้นถือว่าอยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ในอนาคตอันใกล้ (vulnerable)

แรดขาวและแรดดำนั้นมักอยู่อาศัยเป็นฝูงเล็ก ๆ ประมาณ ๔ – ๕ ตัว หากินตามทุ่งหญ้าไปจนถึงริมน้ำเป็นส่วนใหญ่ โดยแรดดำจะมีนิสัยค่อนข้างดุร้ายกว่าแรดขาว อาหารหลักของแรดทั้งสองชนิดนี้คือพืช โดยแรดขาวจะกินหญ้าเป็นส่วนใหญ่จึงมีริมฝีปากแบนกว้างสำหรับแทะเล็มหญ้า ส่วนแรดดำนั้นจะกินใบไม้เป็นส่วนใหญ่จึงมีริมฝีปากบนที่แหลมยาวเพื่อช่วยในการจับใบไม้และกิ่งไม้

แรดอินเดีย แรดชวา และแรดสุมาตรานั้นมีนิสัยค่อนข้างสันโดษ มักอาศัยอยู่เพียงตัวเดียว ยกเว้นเวลาผสมพันธุ์ แต่ก็สามารถพบเห็นแรดดังกล่าวหากินเป็นกลุ่มเล็ก ๆ บ้าง ตามแหล่งอาหาร โดยแรดอินเดียนั้นมักหากินตามป่าทุ่งหญ้าและที่ราบลุ่มน้ำท่วมถึง ส่วนแรดชวาและแรดสุมาตรานั้นมักหากินตามป่าดิบชื้น อาหารของแรดทั้งสามชนิดนั้นมีความหลากหลายเป็นอย่างมาก โดยสามารถกินได้ตั้งแต่หญ้า หน่อไม้ ไปจนถึงพุ่มไม้หรือต้นไม้เตี้ย ๆ เลยทีเดียว

สำหรับแรดชนิดที่พบในไทยนั้นคือแรดชวาและแรดสุมาตราหรือที่เรารู้จักกันในนามของ "กระซู่” นั่นเอง จะเห็นได้ว่าแรดทั้ง ๒ ชนิดนี้ล้วนแล้วแต่ถูกจัดให้เป็น ๑ ในบัญชีรายชื่อสัตว์ป่าสงวนของไทย ซึ่งมีด้วยกันทั้งหมด ๑๕ ชนิด โดยแรดชวานั้นปัจจุบันถือได้ว่าสูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติของเมืองไทยแล้ว ส่วนกระซู่นั้นเชื่อว่ายังคงมีอยู่ในผืนป่าป่าฮาลาบาลา แต่ก็ไม่มีการพบเห็นเป็นเวลานานแล้ว จึงถือได้ว่ากระซู่ก็ได้สูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติในประเทศไทยเช่นกัน ในปัจจุบัน เราสามารถพบเห็นแรดสายพันธุ์ต่าง ๆ ได้ตามสวนสัตว์ของเมืองไทย โดยแรดขาวมีจัดแสดงที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว สวนสัตว์นครราชสีมา และ สวนสัตว์สงขลา ส่วนแรดอินเดียนั้นจัดแสดงอยู่ที่สวนสัตว์เชียงใหม่แห่งเดียวเท่านั้น เป็นที่น่าเสียดายว่าแรดที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทยทั้ง ๒ ชนิดนั้น ไม่ได้มีจัดแสดงให้เยาวชนรุ่นหลังได้ชมในสวนสัตว์ อีกทั้งในผืนป่าธรรมชาติเองแรดดังกล่าวก็มีจำนวนน้อยมากหรืออาจไม่มีแล้วก็ได้ ดังนั้นเราจึงควรร่วมด้วยช่วยกันในการอนุรักษ์แรดให้ยังคงอยู่คู่โลกใบนี้ต่อไป ไม่ว่าจะเป็นแรดสายพันธุ์ไหนก็ตาม ผู้เขียนก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทั้งในปัจจุบันและในอนาคตข้างหน้าจะยังคงมีแรดอยู่คู่ผืนป่าถิ่นอาศัยของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นที่พบเห็นของมนุษย์หรือไม่ก็ตาม

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

As mammals that eat plant food (Herbivore) is rated (Order Perissodactyla) Kip odd animal house rat (Family Rhinocerotidae), that this House's members currently have 5 remaining species by species count 2 Rhinoceros, it originated in Africa, including the white rhino and black rhino. The other 3 species that originated in Asia India: rhino. The Javanese rhinoceros and Sumatran Rhinoceros General characteristics of the animals in the House, the size of a rhinoceros is the largest Rhino species by all the weight of more than 1 ton or more specifically, white rhinoceros, which is considered the largest rhinoceros. There is a second largest elephant. In addition, there are also Rhinoceros skin, thick skin of the rhinoceros with thickness up to 1-1.5 cm, which consists of collagen woven mesh-like structure. They were very strong, and can be considered as the most prominent appearance of the animal in the House, it is "through" Rhinoceros, which is very necessary, they khoerati nachamnuan compounds packed ice rhino is used until a weapon to the enemy by the white rhinoceros crashed black rhinoceros and the Sumatran Rhinoceros will have a final number 2 through the section.More India and Java Rhino are through only a single final. In the eyes of the rhinoceros is considered very small compared to the large trunk of it make a rhinoceros with a good eye. But the Government's sense of smell and hearing the amount great. That could compensate for the eyes simple enough. For survival of itself. However, it was found that rhino is usually natural enemies often slow due to the large size of its walls. The most important enemy of the rhino is "man", which usually leads to the latest rhino to remove through a magical fetish. Jewelry or make herbal medicine based on the belief that there is a time. Make your rhino population decreased a lot by the Javanese rhinoceros and the Sumatran Rhinoceros, Black Rhinoceros, it is in very sound to extinction (critically endangered) for the rhinoceros in India continue to extinction (endangered), white rhinoceros, it considered the risk of extinction in the near future (vulnerable) The white rhino and black rhino, it is often a small crowd, about living as a tricky 4-5 according to pasture until the river is mainly by the black rhinoceros has a habit of somewhat fierce white rhinoceros raikwa. The main food of both types of rhinoceros is a plant by the white rhinoceros eat mostly grass with baenkwang for lips Munch grass. They eat the leaves of black rhinoceros parts mostly have lips on the Cape to aid in the capture of leaves and twigs. Rhino India The Javanese rhinoceros and Sumatran Rhinoceros has a habit of quite seclusion, usually live only one time breeding, but it can be seen a rhino to earn a food source by some small groups based on the often tricky, according to Rhino India jungle grass and flood plains to. Rhino Sumatran Rhinoceros and the Java portion is often tricky, according to the rainforest. Of the three types of rhinoceros has a very diverse. You can eat from bamboo shoots, grass, bushes, or trees to this type. สำหรับแรดชนิดที่พบในไทยนั้นคือแรดชวาและแรดสุมาตราหรือที่เรารู้จักกันในนามของ "กระซู่” นั่นเอง จะเห็นได้ว่าแรดทั้ง ๒ ชนิดนี้ล้วนแล้วแต่ถูกจัดให้เป็น ๑ ในบัญชีรายชื่อสัตว์ป่าสงวนของไทย ซึ่งมีด้วยกันทั้งหมด ๑๕ ชนิด โดยแรดชวานั้นปัจจุบันถือได้ว่าสูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติของเมืองไทยแล้ว ส่วนกระซู่นั้นเชื่อว่ายังคงมีอยู่ในผืนป่าป่าฮาลาบาลา แต่ก็ไม่มีการพบเห็นเป็นเวลานานแล้ว จึงถือได้ว่ากระซู่ก็ได้สูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติในประเทศไทยเช่นกัน ในปัจจุบัน เราสามารถพบเห็นแรดสายพันธุ์ต่าง ๆ ได้ตามสวนสัตว์ของเมืองไทย โดยแรดขาวมีจัดแสดงที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว สวนสัตว์นครราชสีมา และ สวนสัตว์สงขลา ส่วนแรดอินเดียนั้นจัดแสดงอยู่ที่สวนสัตว์เชียงใหม่แห่งเดียวเท่านั้น เป็นที่น่าเสียดายว่าแรดที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทยทั้ง ๒ ชนิดนั้น ไม่ได้มีจัดแสดงให้เยาวชนรุ่นหลังได้ชมในสวนสัตว์ อีกทั้งในผืนป่าธรรมชาติเองแรดดังกล่าวก็มีจำนวนน้อยมากหรืออาจไม่มีแล้วก็ได้ ดังนั้นเราจึงควรร่วมด้วยช่วยกันในการอนุรักษ์แรดให้ยังคงอยู่คู่โลกใบนี้ต่อไป ไม่ว่าจะเป็นแรดสายพันธุ์ไหนก็ตาม ผู้เขียนก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทั้งในปัจจุบันและในอนาคตข้างหน้าจะยังคงมีแรดอยู่คู่ผืนป่าถิ่นอาศัยของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นที่พบเห็นของมนุษย์หรือไม่ก็ตาม

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

A mammal that herbivorous (Herbivore) rated ungulates odd (Order Perissodactyla) Wong Rhinoceros (Family Rhinocerotidae) members in this family now, the remaining five species by Rhino number two species. They originated in Africa, including white rhino, black rhino and the other three species are native to Asia, including the Indian rhino, Javan rhinoceros and rhinoceros, Sumatran rhinoceros general characteristics of the animal in the family is. The size of a large By all rhino species, it weighs a ton or more than one particular white rhino, which is the largest of the rhinoceros. As large as the second largest elephant ever. In addition, there are rhino, an animal with a very thick skin. By the skin of a rhinoceros that has a thickness of 1 - 1.5 cm, which consists of collagen weave together a net-like structure. The strength is tremendous. And the manner in which is regarded as the most distinctive characteristics of the rhinoceros family is "North", a large number of compounds keratinocytes packed together until stiff. Rhino horn is used as a weapon to hit the enemy by white rhino, black rhino and the Sumatran rhino horn is a horn section of two Indian rhinos and Javan rhinoceros have a single horn to horn. Eye of the rhinoceros is considered very small compared to the large body makes rhino is an animal with a terrible sight. But the senses of smell and hearing, it is quite wonderful. That may be offset in the worst eye itself. To survive itself. However, by default, rhinos usually do not have natural enemies. Because of its large size itself. The most important enemies of rhinoceros is "human," which usually hunt rhino horn to be made ​​into amulets. Jewelry or used to make herbal medicine based on the belief that a long time. Population of rhinos reduced by a number of black rhinoceros, Javan rhinoceros and the Sumatran rhino is considered to be at risk of extinction are especially (critically endangered) for Indian rhino is at risk of extinction (. endangered), white rhinos are considered at risk of extinction in the near future. (Vulnerable) white rhinos and black rhinos usually live in small flocks of about 4-5 of living in the savanna to the waterfront are the majority. The black rhino is a habit rather than a ferocious white rhino. Both types of rhino food plants. The white rhinos are grazers are mostly flat lips for grazing. The black rhino is to eat mostly leaves have long pointed to the upper lip that helps to catch the leaves and branches of the Indian rhino, Javan rhinoceros and the Sumatran rhino is somewhat reclusive habits. Often live alone Except breeding time But it can be seen rhinos as alleged by some to eat a little food. The Indian rhino is often tricky in the forests, meadows and flood plains to. The Javan rhino and the Sumatran rhinoceros, often living under the tropical rain forest. All three species of rhinoceros that is very diverse. You can eat the grass shoots to bushes or trees, scrub it for rhino species found in Thailand, the Javan rhinoceros and the Sumatran rhino, also known to us in the name of "rhinoceros" it is evident that the rhino and 2. All of this is set to become one of Thailand's wildlife reserve roster. Which together total 15 Javan rhinoceros species is now considered extinct from the nature of Thailand then. The rhinoceros was believed to still exist in the wild forests of Hala Bala. However, it is not seen in a long time. It held that the Sumatran rhinoceros has become extinct in nature as well today we can see various species of rhinos in zoos in Thailand. The white rhino is on display at the Khao Kheow Open Zoo. Nakhon Ratchasima Zoo and Songkhla Zoo. The Indian rhino is on display at the zoo exclusively. It is unfortunate that the rhinos are native to Thailand, two species that do not exhibit the younger generations to visit the zoo. The rhinos in natural forests have such a very small amount or no delay. Therefore, we should collaborate in the conservation of rhinos to remain a world following. Whether rhinoceros species given. The authors also hope that both now and in the future will continue to be a wild rhino habitat itself. Whether or not the human experience.

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

Mammals that eat plant food (Herbivore) arranged in Perissodactyla (Order Perissodactyla) วงศ์แรด (Family. Rhinocerotidae). Members of this family, which at present, it has left five strains by rhino donationThe black rhinoceros, white rhinoceros, and the other three species originated in Asia, including the Indian rhinoceros, the Javan rhinoceros, rhinoceros, Sumatran

.General description of the animal in Taiwan rhinoceros is having larger size. The rhino every species has weight more than 1 tons or above. Especially the white rhino rhinoceros which is considered to be as large as possible.The rhino is also the animals with thick skin. By the skin of rhino has a thickness of up to 1 – 1.5 cm, which is composed of a collagen weave structure similar to the net. The strength greatly. And style can be considered as the most notable characteristics of the animal in Taiwan rhinoceros is "tailored."The rhinoceros is used as a weapon in crashing their enemies by white rhinoceros, black rhinoceros rhino horn and Sumatra is number 2 is the Javan rhinoceros are tailored just waiting and metformin.But the senses of smell and hearing, it is wonderful. And that may compensate for bad sight. For the sake of it.Due to its larger size. The enemy is the most important of the rhinoceros is "human", which often hunt rhinoceros to get used to เครื่องรางของขลัง tailored. Jewelry or the medicine herbs based on the belief that for a long time.The black rhinoceros rhino Sumatra and Javan rhinoceros, that can be considered in sound condition of extinction as well (critically endangered) for the Indian rhinoceros was in a state of sound of extinction. (endangered).(vulnerable)
.
.White rhinoceros black rhinoceros and often living as a small, about 4 to 5. According to the living Prairie River. The black rhinoceros is a habit rather fierce than white rhino. The staple food of this kind is both rhino plants.The black rhinoceros will eat leaves mostly have long pointed lips to help them catch the leaves และกิ่งไม้
.
.Javan rhinoceros, rhinoceros, Sumatran metformin is quite solitary habits Tend to live only, except when mating. But I can see such a tricky rhino small group. According to food sources.The Javan rhinoceros rhino Sumatra and that is often tricky by tropical rainforest. The food of the rhinoceros three types that are varied greatly. The grass can eat from bamboo shoot to Bush or shrub. Ever!
.For rhino species found in Thai is the Javan rhinoceros rhino and Sumatra or also known as "Cobra", it can be seen that the rhinoceros both 2 of this type was provided. " In the list of wildlife reserve in 1, which together.Type by Javan rhinoceros, currently considered extinct from the nature of Thailand. The Sumatran believe that still exist in the wild forest ฮาลาบาลา. But it was not seen for a long time.At present, we can see a rhinoceros species can be various according to the zoo in Thailand. The white rhinoceros is exhibited at Khao kheow open zoo, Nakhon Ratchasima and zooIt is unfortunate that Rhino with provenances in both two kinds. Do not have showcased young generations to visitors in the zoo. The forest nature itself also has a number of very little rhinoceros or may not.A rhinoceros species anywhere. The author hoped that both current and in the future will still be the rhino is a pair of forest habitat of its own. Whether it is seen human or not!