ทุกคนบนโลกใบนี้เกิดมาย่อมมีผู้ให้กำเนิด นั่นก็คือ “แม่” จะเชื้อชาติใด ภาษาอะไร ศาสนาไหน จะร่ำรวยหรือยากจน คำว่า “แม่” เป็นคำแรกที่ลูกทุกคนเปล่งออกมายามที่เริ่มหัดพูด และเป็นคำแรกที่คนเป็นแม่รอคอยที่อยากได้ยินเช่นเดียวกัน “แม่” คำสั้นๆ แต่มีความหมายยิ่งใหญ่มหาศาล เป็นคำที่ประเสริฐด้วยพระคุณอย่างล้นเหลือ และคงไม่มีคำใดในโลกนี้ที่มีความหมายในตัวมันเองมากมายจนเกินคำบรรยาย อย่างคำว่า “แม่” เพราะการให้กำเนิดลูกสักคนหนึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย เก้าเดือนที่ต้องคอยทะนุถนอม คอยดูแลเอาใจใส่ในทุกๆ เรื่อง ทำทุกอย่างอย่างระมัดระวังตลอดเวลา เพื่อให้ลูกน้อยแข็งแรงและปลอดภัย เป็นบุคคลคนเดียวที่มีความอดทนสูงกับการรอคอยที่ยาวนาน กว่าจะกลายเป็นผู้ให้กำเนิด กำเนิดสิ่งมหัศจรรย์ที่พระเจ้าประทานลงมาที่เรียกว่า “ลูก” เพื่อมาเติมเต็มในส่วนของครอบครัวให้เป็นครอบครัวที่สมบูรณ์
ในวันที่เด็กคนหนึ่งได้มีโอกาสลืมตาดูโลก ใครคนหนึ่งกลับต้องอยู่บนความเป็นความตายกับความเจ็บปวดหนักหนาสาหัสจนแทบขาดใจ เพื่อให้กำเนิดลูกน้อยของตัวเอง หวังเพียงแค่...ให้ลูกน้อยปลอดภัยก็สุขใจ
ใครคนหนึ่งที่มีชื่อแทนตัวมากมายไม่ว่าจะเป็น มาเทอร์ (Mother)" "มัม (Mom)" มาม้า มามี้ มามอง โอก้าซัง อ่อมมา อุมมี ทุกชื่อล้วนแต่มีความหมายเดียวกัน นั้นก็คือ ผู้ให้กำเนิด ซึ่งคนไทยอย่างฉันเรียกว่า “แม่”
“แม่” ครั้งแรกที่ฉันเห็นผู้หญิงคนนี้ ฉันไม่รู้ว่าความรู้สึกตอนนั้นเป็นอย่างไร แต่ฉันมั่นใจอย่างหนึ่งว่า ถ้ามีเขาอยู่ข้างๆฉันจะปลอดภัยและอบอุ่น แม่เป็นคนบ้านนอกธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่มีอะไรเหนือกว่าคนอื่นๆ เลยด้วยซ้ำ ทำงานหนักมาตลอด ทำกับข้าวอร่อย แม้แม่ไม่ได้เรียนหนังสือจบมาสูงๆ
แต่แม่ก็เห็นคุณค่าของการศึกษา พยายามส่งเสียให้ฉันได้ร่ำเรียนเหมือนลูกคนอื่นๆทั่วไป แม่มักจะน้อยใจบ่อยๆ เวลาที่ฉันดื้อกับแม่ จนทำให้แม่โกรธแต่แม่ก็ไม่เคยโกรธได้นานเสียที ไม่เคยนินทาหรือพูดให้ร้ายคนอื่นให้ฉันได้ยิน แม่ทำให้ฉันซึ้งกับคำว่า “ให้” “ให้”ในสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่แม่คนหนึ่งจะสามารถทำให้ลูกได้ แม่มอบแต่สิ่งที่ดีๆ จนฉันจะกลายเป็นคนตาบอดเสียแล้ว ที่มองเห็นแต่แม่ของตัวเองดีเลิศกว่าแม่คนอื่นๆ แม่เป็นกำลังใจที่ดีที่สุดของฉัน แม่ทำให้ฉันเห็นความสำคัญของกำลังใจ แม่บอกว่า “กำลังใจเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในยามที่เราผิดพลาดหรือเสียใจ มันเป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้เราต่อสู้เพื่ออยู่กับวันพรุ่งนี้และอนาคตอย่างสบายใจ” แต่บางครั้งแม่ก็ทำให้ฉันต้องร้องไห้ เพราะทุกค่ำคืนยามที่ฉันและน้องๆ นอนหลับสบาย แม่กลับลุกขึ้นมาสวดมนต์ของพรจากพระเจ้า และที่ทำให้ฉันต้องนอนน้ำตาไหลและตื้นตันใจที่สุด ก็เพราะคนที่แม่ขอพรให้ กลับเป็นฉันและน้องๆแทนที่แม่จะขอให้ตัวเอง ชื่อของลูกๆที่ แม่เอ่ยยามขอพรจากพระเจ้า ช่างเป็นเสียงที่นุ่มนวลและอ่อนโยนเหลือเกิน ฉันไม่รู้ว่าฉันจะอยู่บนโลกใบนี้ได้อย่างไรหากไม่มีผู้หญิงคนนี้ คนที่ทำทุกอย่างเพื่อฉัน คนที่ให้ชีวิตทั้งชีวิต ให้ที่ซุกหัวนอน ให้อาหารการกิน ให้เสื้อผ้าอาภรณ์ ให้ความสุขสบาย และสารพัดที่แม่ทำให้ จนฉันไม่รู้ว่าสิ่งที่ฉันทำให้แม่ จะได้สักครึ่งหนึ่งหรือสักเศษเสี้ยวหนึ่งของแม่ที่ทำให้ฉันหรือเปล่า
“แม่” ของฉัน ก็คงไม่ต่างกับแม่คนอื่นๆ บนโลกใบนี้ ที่หวังให้ลูกเป็นเด็กดี ตั้งใจเรียนและมีอนาคตที่สดใส ประสบความสำเร็จในชีวิต แต่ความหวังของแม่ไม่เคยทำให้ฉันลำบากใจหรือกดดันแต่อย่างใด เพราะสิ่งที่แม่หวัง อยู่บนพื้นฐานของความพอดี แม่ขอแค่ให้ฉันทำเท่าที่ความสามารถของฉันมีและฉันมีความสุขกับสิ่งที่ทำ ความหวังของแม่ก็ประสบผลแล้ว