Slide12
หลังจากนั้นเราจะได้สมการดังนี้ สมการที่ได้มานี้จะนำไปใช้ในการเขียนโค๊ด ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งมิติ
Slide13
ในส่วนของโปแกรมก็จะแยกเป็นส่วนๆตามที่เห็น
ซึ่งส่วนแรก เอาไว้ล้างการเก็บข้อมูลเก่า และหน้าจอ เพื่อนำข้อมูลใหม่ที่เรากำหนดเข้าไปแทน
ส่วนที่สองคือการกำหนดค่าตัวแปรซึ่งเราเอาไว้ใช้ในโค๊ด เพราะถ้าเราเกิดต้องการเปลี่ยนค่าเราก้สามารถเปลี่ยนค่าที่ตัวแปรได้เลยโดยที่ไม่ต้องไปเปลี่ยนที่ละตัวในสูตร
ส่วนที่สามคือการกำหนดเงื่อนไขเริ่มต้น
ส่วนที่สี่คือการจัดเก็บข้อมูล
ส่วนที่ห้าคือการกำหนดขอบ
และส่วนสุดท้ายคือส่วนของการคำนวณซึ่งแบ่งแยกได้เป็น
Slide14
หลังจากนั้นเมื่อเราให้โปรแกรมทำงานจะได้กราฟดังรูป ซึ่งอธิบายได้ถึงการแพร่ที่เมื่อเวลาผ่านไปจาก หนึ่งถึงสองพัน
Slide15
ต่อมาหลังจากที่เราทำ Discretized equation ซึ่งเป็นสมการในรูปแบบของสองมิติจะได้สมการดังนี้
Slide16
ซึ่งการเขียนโค๊ดจะคล้ายๆเดิมแต่เราเพิ่มตรงเงื่อนไข และขอบซึ่งจะไม่ได้มีแค่สองด้าน แต่เพราะเป็นสอง
มิติจึงเป็นสี่ด้าน
Slide17
ในส่วนของการคำนวณจะมีการวนลูปเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งลูป และมีขอบเพิ่มอีกสองอขอบ และคำสั่งในการวาดกราฟจะเปลี่ยนไป
Slide18
หลังจากที่เราเริ่มต้นการทำงานของโปรแกรมจะได้รูปร่างกราฟดังรูปเริ่มที่เวลจาก หนึ่งถึงหนึ่งพันเนื่องจากเป็นกราฟสองมิติทำให้เราเห็นการแพร่ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
Slide19
ต่อเนื่องจาก slide16 สิ่งที่เราเพิ่มเข้าไปในส่วนของเงื่อนไขคือเมตริก xx,yy และเพิ่มในส่วนตรงคำนวณคือการให้เก็บค่า I,y ในเมตริก xx,yy ซึ่งทำให้เราสามารถดึงค่าจากตรงไหนของ ค่า I,j ก้ได้เพราะเราเก็บค่าให้แล้ว ซึ่งทำให้เราสามารถเปลี่ยนเงื่อนไขการเริ่มต้นและขอบได้ โดยที่เราไม่ต้องใส่เป็นค่าคงที่แต่สามารถใส่เป็นฟังก์ชันได้แลย และเหตุผลที่เราทำแบบนี้เพราะมันจะต่อเนื่องในส่วนของ pfc เพราะเงื่อนไขเริ่มต้นจะเป็น ฟังก์ชันและรูปของกราฟคือตัวอย่างของการเปลี่ยนขอบจากค่าคงที่เป็นฟังก์ชัน