Jew Jew เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 3 ที่ถูกเลือกเข้ามาเป็น volunteer สำหรับดูแลแขก VIP
เธอเก่งมาก เก่งจนฉันรู้สึกว่าตอนฉันเรียนอยู่ชั้นปีที่ 3 ของมหาวิทยาลัย
ฉันทำอะไรอยู่ อาจจะวิ่งเล่น หรืออ่านการ์ตูน
ไม่แน่ใจว่าเขียนคำว่า student ได้ถูกต้องหรือยัง hahaha
เธอสามารถเล่าและอธิบายโบราณวัตถุได้แบบ ฉันประหลาดใจไปเลย เธอรู้ได้มากขนาดนี้ได้ยังไงกัน
เธอเรียนเอกภาษาฝรั่งเศส แล้วก็เลือกเรียนวิชาภาษาอังกฤษ เป็นวิชารอง
ในส่วนของเรื่องภาษาเธอทำได้ดีมากอยู่แล้ว
แต่การอธิบายของเธอไม่ใช่แค่การพูดถึงแค่ตัววัตถุ
แต่เธอเชื่อมโยงมันถึงวิธีคิดของคนจีน มุมมอง ทัศนคติต่อสังคม ประวัติศาสตร์ นิทานปรัมปราและ ความเชื่อ
มาเต็มมากมุมมองทางมานุษยวิทยา hahaha ถ้าเธอเล่าได้ถึงความรู้ทางโบราณคดี ประวัติศาสตร์ศิลปะ ฉันอาจจะช็อคตายได้
ฉันไม่แน่ใจว่าเด็กจีนรู้เรื่องพวกนี้กันเป็นเรื่องปกติ หรือยังไง
เพราะบางชิ้นป้ายบรรยายมันสั้นนิดเดียว
บางทีฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจนะว่าเธอเป็นเด็กนักศึกษาชั้นปี 3 มหาวิทยาลัย จริงหรือเปล่า hahaha แต่บางมุมเธอก็ยังเป็นเด็ก ก็เธอยังเป็นเด็กจริงๆ hahaha
เธอคอยดูแลตลอดเวลาที่อยู่ที่นั่น
ทั้งพาไปกินข้าว พาไปซื้อของ
งานนี้ทางจีนจัดให้ volunteer ดูแลแขกแบบคนต่อคนเลย
คู่ของเราเด็กสุดทั้งสองฝ่าย
มันเลยทำให้รู้สึกเหมือนเป็นเพื่อนกัน
บางคู่ก็เหมือนพี่กับน้อง
บางคู่ก็เหมือนคุณปู่กับหลาน
คุณลูกกับคุณแม่
คุณยาย คุณย่าก็ว่ากันไป
ประสบการณ์ครั้งแรกในจีนมันเลยเป็นความทรงจำที่ดีมากๆ สำหรับฉัน
อยากจะบอกว่าขอบคุณมากๆ
และอยากขอโทษที่เธอควรได้โอกาสในการพัฒนาภาษาให้มากกว่านี้
แต่ฉันก็ดันโง่มากๆ haha
ฉันฟังเวลา meeting เข้าใจ
เพราะมันเป็นศัพท์ที่คุ้นเคย และเป็นทางการ แต่พอเป็นการพูดคุยในชีวิตประจำวัน
ฉันกลายเป็นคนใบ้ haha
เธอต้องอดทนและพยายามมากๆ
ในการสื่อสารให้ฉันเข้าใจ
ประสบการณ์ครั้งนี้จะทำให้ฉันมุ่งมั่นกับการอ่านหนังสือและจริงจังกับความรู้ทางภาษามากขึ้น
มันอาจจะน่าอายที่ฉันพูดได้น้อยมาก
แต่มันคงจะน่าอายมากกว่า
ถ้าฉันไม่เอามันมากลับพัฒนาตัวเอง
ขอบคุณมากๆนะ
Jew Jew ฉันอยากพูดอะไรให้เราเข้าใจกันมากกว่านี้ แต่มันทำได้แค่ 5% ของสิ่งที่ฉันคิดในหัว ขอโทษจริงๆ และฉันคิดว่าเธอมีพลังพอที่จะเปลี่ยนโลกใบนี้ได้ เหมือนเหล่า Super hero ที่เป็นเพื่อนของเธอ
แด่ความน่ารักของนักศึกษาปี 3
นี่เป็นเรื่องประทับใจแรกเลยนะต่อประเทศจีน