ประวัติความเป็นมาของน้ำหอมจากยุคกลา

ประวัติความเป็นมาของน้ำหอมจากยุคกลาง สู่ศตวรรษที่ 17 ความตกต่ำของจักรวรรดิ์โรมัน และจากการรุกรานของพวกป่าเถื่อน (Barbarian) และสงครามที่ไม่มีวันจบสิ้น ส่งผลให้ความเจริญทางด้านน้ำหอมของโลกตะวันตกได้ตกอยู่ในโลกมืด ความสำคัญเกี่ยวกับน้ำหอมที่มีต่อชีวิตประจำวันได้ลดน้อยลง ตราบจนกระทั่งในศตวรรษที่ 20 จากการพัฒนาทางการค้าสากล ความตกต่ำทางด้านน้ำหอมจึงได้หยุดลง การก่อตั้งของมหาวิทยาลัยในหัวเมืองสำคัญต่างๆ พร้อมกับการศึกษาค้นคว้าทางเคมี ตลอดจนเทคนิคการกลั่นที่ได้เรียนรู้จากโลกอาหรับได้เพิ่มพูนความรู้ทักษะ และเทคนิคในการผลิตน้ำหอมในสมัยนั้น ในขณะที่ Frank incense และ Myrrh ยังคงเป็นน้ำหอมที่ใช้ในการสักการะบูชา พระเจ้าแผ่นดิน ขุนนาง และผู้ครองแคว้นได้ค้นพบถึงความรู้สึกสะอาดและคุณสมบัติทางด้านชวนให้หลงใหลของน้ำหอม เมื่อฉีดกระจายลงบนเสื้อผ้าของพวกเขา พวกเขาจะอาบน้ำด้วยน้ำหอมระเหยจากดอกไม้เป็นประจำเพื่อเคลือบตัวของพวกเขาด้วยน้ำมันหอมเหมือนดั่งพวก เอเธนส์ ที่เคยทำมาก่อน แม้ว่าจะมีข้อจำกัดที่มากกว่า ในทางตรงข้ามกับความรู้ที่ได้รับ การซักล้างและการอาบน้ำได้รับความนิยมมากในช่วงยุคกลาง (Middle ages)ภาชนะบรรจุชนิดใหม่ๆ ได้ถูกออกแบบขึ้น สำหรับการเก็บ Musk , Ambergris และน้ำมันหอมระเหยชนิดต่างๆ ตลอดจนการค้นพบของยางสนและยางไม้หอมต่างๆ กล่องใส่น้ำหอมทรงกลมในลักษณะคล้ายลูกโลกทำด้วยโลหะ ซึ่งสามารถแพร่กระจายกลิ่นผ่านทางฝาเปิดส่วนบนที่ตกแต่งไว้อย่างสวยงาม น้ำหอมได้รับการเชื่อว่ามีคุณสมบัติในการบำบัดโรค สามารถบำบัดโรคระบาดต่างๆ โรคเกี่ยวกับผิวหนัง ระบบย่อยอาหาร ใช้ในสารกันบูด เป็นต้น ในขณะที่เครื่องเทศได้ถูกนำเข้าสู่ยุโรปโดยผ่านเมืองเวนิส(Venice)เมืองนี้จึงได้กลายเป็นศูนย์กลางแห่งน้ำหอม มาโคโปโร (Marco Polo) ได้เดินทางกลับจากการเดินเรือของเขาพร้อมพริกไทย,ลูกจัน และกานพลู นักเดินเรือชาวอาหรับเดินทางนำเครื่องเทศไปยังอินเดียและซีลอน (Ceylon)ซึ่งพวกเขาสามารถทำการค้ากับพ่อค้าชาวเอเชีย และได้นำเครื่องเทศจากประเทศจีนและประเทศมาเลเซีย พวกเขาได้นำเอาอบเชย,ขิง,ลูกกระวาน และ Saffron (หญ้าฝรั่งชนิดหนึ่งมีสีส้ม) ในขณะที่ Aniseed ,Thyme Sage , Basil และ Cumin ได้มีการเพาะปลูกแล้วในยุโรปมาช่วงระยะหนึ่งแล้วในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 14 ได้ปรากฏพบซึ่งน้ำหอมในรูปของเหลว ผลิตโดยการผสมและปรุงแต่งให้เข้าด้วยกันกับน้ำมันหอมระเหยหลากชนิดและแอลกอฮอล์ ซึ่งเรียกกันในชื่อว่า Eaux de senteur หรือกลิ่นหอมในสมัยนั้น นี่เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจมาก เชื่อมโยงไปยังจุดเริ่มต้นของการผลิตน้ำหอม Rosemary และได้รับการตั้งชื่อหลังจากพระราชินีของฮังการีตามตำนานที่เล่าต่อกันมา พบว่ากลิ่นหอมได้ถูกถวายให้กับราชินีอลิซาเบธ ของฮังการี(Queen Elizabeth of Hungary) ในปีคศ.1380 โดยขณะที่พระราชินี มีพระชนณ์มายุได้ 70 พรรษา และทรงมีพระวรกายที่ทรุดโทรม แต่เมื่อพระนางได้ดื่มน้ำจันที่นักบวชถวายให้ ร่างกายก็ฟื้นดีขึ้น เรื่องเล่าได้บอกว่ามันได้ทำให้พระนางกลับเป็นสาวอีกครั้งถึงขนาดที่พระราชาจากโปแลนด์ (Poland)ได้ขอแต่งงานด้วย การค้นพบอเมริกาในศตวรรษที่ 14 ทำให้เมืองเวนิส (Venice)ต้องสูญเสียความเป็นศูนย์กลางของน้ำหอม เริ่มต้นจากชาวโปตุเกส (Portuguese) และชาวสเปน (Spain) ได้ขยายอาณาจักรการค้าเครื่องเทศโดยมี วานิลา โกโก้ ใบยาสูบ อบเชย และอื่นๆ ในศตวรรษที่ 16 ชาวดัช (Dutch)ได้เป็นผู้ให้คำแนะนำในการผลิตและพัฒนาวิธีการเพาะปลูกใหม่ๆให้ชาวท้องถิ่น Eaux de senteur ได้เพิ่มชนิดและจำนวนขึ้น เริ่มจากการผสมน้ำมันหอมระเหยเดี่ยวเข้าด้วยกัน แอลกอฮอล์ เช่นกุหลาบ ลาเวนเดอร์ ดอกส้ม เป็นต้น หรือผสมกันหลายกลิ่น ซึ่งมีการผสมระหว่าง ดอกไม้ เครื่องเทศ รวมทั้ง มัส (Musk) แอมเบอร์กริส (Ambergris)ในทางความต้องการทางเวชศาสตร์ มันได้ช่วยในการจำกัดกลิ่นที่ไม่พึงปรารถนาที่ผลิตโดยร่างกายของเรา ในขณะที่ช่วงกลางศตวรรษของยุโรปเป็นช่วงแห่งการให้ความสำคัญในสุขลักษณะเฉพาะบุคคล มีความแตกต่างเรื่องการฟื้นฟูศิลปะวิทยาในทวีปยุโรประหว่างศตวรรษที่ 14 และ 16 เมื่อถูกกำหนดให้เป็นพาหะนำโรคร้าย และการติดเชื้อ ศาสตร์และเทคนิคการเป่าแก้วของชาวเวนิสได้ถูกนำมาใช้ในการผลิตขวดยาขนาดเล็กๆ และหลอดแก้วเล็กๆ สำหรับบรรจุน้ำหอม คริสตัล และแก้วสีขาวขุ่น ตลอดจนเครื่องเขียนจากตะวันออก เริ่มได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ขวดรูปลูกแพ (Pear-shaped bottle)ทำจากวัสดุที่กล่าวมาข้างต้นตลอดจากทำจากโลหะ ได้ถูกค้นพบเป็นจำนวนมาก ได้แก่ ภาชนะรูปทรงกลมคล้ายลูกโลก, ภาชนะคล้ายผลส้ม ซึ่งสามารถแบ่งเป็นกลีบๆได้ และในแต่ละกลีบนั้นบรรจุน้ำหอมในกลิ่นที่ต่างๆ กันไป น้ำหอมได้เดินทางมาถึงจุดที่รุ่งเรืองที่สุดในศตวรรษที่ 17 ความบ้าคลั่งในการพัฒนาน้ำหอม กระทั่งการละเลยในเรื่องของมาตรฐาน ความสะอาดของใบหน้าและวิกผมที่ใส่กันเวลาพิพากษาในศาลในสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ยังถูกทำให้หอมด้วยแป้งหอม และน้ำหอม ปี ค.ศ.1656 ถุงมือหอมได้ถือกำเนิดขึ้น ความหลงใหลในการสวมใส่ถุงมือของชนชั้นสูงโดยการขาดการเรียนรู้ถึงวิธีที่ถูกต้อง ทำให้เกิดกลิ่นที่ไม่พึงปรารถนาบนผิวหนัง น้ำหอมชนิดแรงจึงถูกนำมาใช้ในการกลบกลิ่นโดยพระบรมราชูปถัมภ์ของพระเจ้าหลุยส์ที่ 13-14 ผู้ผลิตถุงมือได้ใช้โอกาสในการเป็นผู้จำหน่ายเพียงผู้เดียวของผู้กลั่นน้ำหอมและนักผลิตน้ำหอม
ในศตวรรษที่ 17 ได้เริ่มมีการใช้ Jasmin, Tuberose และ Rose ในกลุ่มของวัตถุดิบเหล่านี้มาผลิตน้ำหอม เครื่องหอมบรรจุในขวดรูปทรงกลมได้มีการกระจายการใช้กว้างขึ้น และได้ใช้ต่อกันมาจนกระทั่งปลายศตวรรษที่ 18 ขวดได้ถูกผลิตขึ้นในรูปแบบต่างๆ เช่นผลแพร (Pear shape)ทำให้มีหลายสีสัน เช่นทำให้มีสีใสคล้ายคริสตัล และสีขุ่น การแกะสลักเป็นลวดลายบนภาชนะเงินปิดด้วยทองเป็นที่นิยมมาก การเคลือบด้วยทองแดง , เงิน , ทอง หรือแม้กระทั่งประดับด้วยพลอยประดิษฐ์ประดอยตามแบบที่นิยมกันในศตวรรษที่ 17

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

The history of perfume from the Middle Ages to the 17th century, the decline of the Roman Empire. And from the invasion of the barbarians (barbarian) and a war without end.Perfume with a focus on daily life have diminished. Till in the 20th century with the development of international trade. The debasement of the perfume is stopped. The establishment of universities in major cities.And refined techniques learned from the Arab world to enhance their knowledge skills. And techniques in the production of perfume in that, while frank incense and myrrh is still used in perfumes worship. The King of LordsWhen injected into the distribution of their clothes. They are showered with perfume of flowers is to coat them with the oil like the Athenians ever did before. Although there are more restrictions.Washing and bathing are very popular in the medieval period (middle ages) new types of containers. Was designed For storage of musk,ambergris and aromatherapy products. As well as the discovery of turpentine and myrrh different. Box, Perfume sphere like a globe made of metal. Smell, which can spread through the upper lid decorated beautifully.The treatment of various disease Skin Disease Digestive system Used preservatives etc. While spices have been imported to Europe through Venice (venice) this city has become a center of Sapporo perfume Marco (marco polo).Nutmeg and cloves sailors traveling to Arab spice to India and Ceylon. (Ceylon), which they can trade with merchants of Asia. And brought spices from China and Malaysia. They have brought out the cinnamon, ginger,.Cardamom and saffron (a type of grass, guava, orange) while aniseed, thyme sage,.basil and cumin have been cultivated in Europe for a while and then in the second half of the 14th century have been found which appear in the form of liquid perfume. Produced by mixing and cooking together with a variety of essential oils and alcohol.eaux de senteur or fragrance in those days. This is a very interesting story. Links to the start of production, and rosemary fragrances have been named after the Queen of Hungary as legends tell the people.Of Hungary (queen elizabeth of hungary) in AD.1380 by The Queen An inciting the King is 70 years old and has the body to decay. But when she was offered a drink Trojan priest. The body was recovered better(Poland) was asked in marriage. The discovery of the Americas in the 14th century made the city of Venice. (Venice) have lost the center of the perfume. Start of the Portugal (portuguese) and Spanish (spain) can extend the spice trade with vanilla cocoa.Cinnamon and other 16th century Dutch (dutch) it is advised to produce and develop new methods of cultivation, the local residents have increased the type and number of eaux de senteur up. Start by mixing essential oils with alcohol alone.Lavender, orange flower, etc. or a combination of several scents. Which is a mix of spices including mustard flowers (musk) amber gris (ambergris) of the medicine.While a range of mid-century Europe, with a focus on personal hygiene. There are differences in the revival of art history in Europe between the 14th and 16th centuries, when it was designated as carriers of disease. And infectionAnd a small glass tube Packaging perfume, crystal and glass opaque. As well as a writer from East Began to get the increasingly popular bottle pear (pear-shaped bottle) made of any of the above materials are made of metal.A spherical container resembling a globe.Similar container citrus fruits Which can be divided into lobes have. And each lobe contains a fragrance in perfumes smell different to have finally reached the point where its zenith in the 17th century craze in developing perfumes.Cleanliness of the face and wig wearing time judge in court during the reign of King Louis the 14th was made with onion powder and perfume year.Prof.Glover was born in 1656 Hom Passion for wearing gloves aristocratic by the lack of opportunity to learn the correct way. Cause undesirable odor on the skin.13-14 glove manufacturers have the opportunity to be the sole distributor of refined fragrance and perfume
.In the 17th century it began to be used jasmin,.tuberose and rose to a group of these raw materials to produce a perfume. Perfume bottle round shape has a wider distribution. And continue until the end of the 18th century bottles have been produced in various forms, such as Pratt (pear.It looks like a crystal clear color and engraving are covered with gold pattern on silver is very popular. Coated with copper,Silver, gold, adorned with jewels or even garnish as popular in the 17th century.

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

The history of perfume, from the middle ages to the 17th century, the Roman Church's depressed and wat from their barbaric invasions (Barbarian), and the war that has no end date. The importance about the perfume towards daily life has decreased as long as until the 20th century, from the development of global trade, depressed by the perfume, it has stopped. The establishment of the University in various important cities Refined techniques learned from the Arab world, increase knowledge, skills, and techniques in the production of perfume in it, while Frank incense and Myrrh, perfume, is still used in Buddhist altar. God's Earth Lords When injection is distributed onto their clothes. They bathed with water from the essential flowers regularly to their coating with the oil burner from them. Athens has never been done before, though there will be more restrictions. To wash and bathe has been very popular during the middle ages (Middle ages) new types of containers have been designed for collecting Musk, Ambergris and oil burner types, as well as the discovery of various aromatic pine resin and wood, rubber, perfume boxes in spherical globe made of metal. That can spread the smell through the lid opening section on decorated beautifully. Treatment of various diseases and epidemics can be on the skin, the digestive system. Used in preservatives, etc. While spices have been imported to Europe through Venice (Venice), this city has become the center of perfume. Source code, ro (Marco Polo) The Chan and clove Arab sailors traveling bring spices back to India and Ceylon (Ceylon), which they can trade with Asian merchants and brought spices from China and Malaysia. They brought cinnamon, ginger,Cardamom and Saffron (a type of grass, Orange, guava, there), while the Aniseed, Sage, Thyme. Basil and Cumin has been cultivated in Europe from one period in the second half of the 14th century has appeared that perfumes in liquid produced by blending and additive, together with essential oils and pheromones, alcohol. Eaux de senteur fragrance or in that this is a very interesting story. Link to the beginning of the production of perfumes. Rosemary and was named after the Queen of Hungary, according to the legend that tells the story. Hungary's (Queen Elizabeth of Hungary). In the year a.d.By 1380, while the Queen is 70 years, and chon Yun has come with the wonkai, but once she had lovely drink that was offered to the priest, Chan. The body was recovered. (Poland) has asked to marry. The discovery of America in the 20th century, 14, Venice (Venice) must lose is the center of perfume. From the start, event guest (Portuguese) and Spain (Spain) have expanded the Kingdom by the spice trade, cocoa, vanilla milk shake. Cinnamon and others in the 16th century by Dutch (Dutch) who provides advice in the production and development of new methods of cultivation, the local people of Eaux de senteur has increased and the number of types. Starting from a single essential oil mix together with alcohol. Orange flower, lavender, etc. or a mixture of laiklin, which is a mixture of flowers, spices, including Thomas (Musk) Amber at (Ambergris) in the direction of a medicine. While the Middle centuries of Europe's range of attention in hygienic conditions. There is a difference regarding the restoration of art history in Europe during the 19th century, 14 and 16 when it was designated as the carrier brought disease and infection. And a small glass tube for packing glass, Crystal, perfume and stationery, as well as a cloudy white from the East. Start increasing popular ball-bottle (bottle Pear-shaped) are made from materials that are above all from metal. Include containers, shape: round, Orb-like. Similar containers that can results in Orange, divided into klip. And in each of the petals contain perfumes in different smell. Perfumes have been arriving at the point where the most glorious in the 17 century Mania perfume development. Cleaning of the face and a wig that is put together from time to time in the Court judgment in the reign of King Louis 14th, with a fragrant powder scented perfume, and a year-on-year.RS1656 scented gloves has its passion wear gloves of the highest class, the lack of learning the correct way to. Cause unwanted smell on the skin. 13-14 has been used gloves. suppliers an opportunity to become sole supplier of refined perfume and perfume manufacturer
. In the 17th century began with Jasmin, Tuberose and Rose in the Group of these raw materials come in perfume production. Fragrances are packed in glass sphere have a wider distribution and use., until the late 18th century bottles were produced in various formats such as satin result (Pear. Like make it crystal clear and cloudy color. Decorative engraved on a silver container closure with gold is very popular. Coating with copper, Silver, gold, or even adorned with jewels to adorn the popular in the 21st century 17.

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

History of perfume from the Middle Ages to the 17th century and the Roman Empire the fall of the invasion of the barbarians (Barbarian) and the war that has no end dateThe importance of the perfume is in the daily life. less as long as in the 20 th century until the development of the international trade depression, so that the perfume has stopped. The establishment of the University in major cities.as well as the refining techniques. Learn from the Arab world. increase their knowledge and skills in the Technical production of perfume in those days; while Frank Myrrh incense and perfume is still used in the royal nobles worshipWhen injected into the distribution of their clothes they will shower with volatile perfume from flowers regularly to finish with their aroma like they would never be able to make the Athens Olympic Games, even though there will be before the restrictions more thanThe washing and the bathroom is very popular in the Middle Ages (ages Middle) container type has been designed for the new store Musk,Ambergris and aroma as well as the discovery of various kinds of volatile rubber and rubber wood pine scented perfume box, round like a globe with metal, and can be spread through the smell of the lid on the top of a beautiful decorated.Treatment of skin disease epidemics can be different digestive system used in preservative, spices, etc. while it is imported to Europe, via Venice (Venice) this city has become a center of Sapporo, perfume, (Marco Polo).I Chan and cloves, spices, bring the Arabs traveling to India and CD Colon (Ceylon), which they can make a trade with the merchant Asian spices, and brought from China and Malaysia they have brought, cinnamon, ginger,I am a monkey and Saffron (grass-chewing gum is a type of orange) while Aniseed, Thyme Sage,and Basil Cumin has grown in Europe, and the last one, and then in the second half of the 14th century found that perfume. appears in the form of liquids produced by mixing and cooked, together with various kinds of volatile oils and alcoholEaux de senteur or aroma in the days, this is a very interesting story about the link to the beginning of the production and perfume Rosemary is named after the queen of Hungary in accordance with the legend told to each other.of Hungary (Queen Elizabeth of Hungary) in the year.1380, while the queen of King was 70 years old and he has himself a failure, but when she had been drinking water Chan, a priest gave his body was recovered.(Poland) request for marriage with the discovery of America in the 14th century, Venice (Venice) to be lost, to be the center of the inhabitants of the perfume from the start, (Portuguese) and the Spanish (Spain) has expanded realm of the spice trade, vanilla, cocoa,Cinnamon, and others in the 16th century Dutch (Dutch) is the instructions for planting new production methods and the development of the people of the local de senteur Eaux. Add Category and the number of mixed up from the volatile aroma single alcohol together.Lavender Orange Flower, etc. , or combination smell which is a mix between several flowers and spices, as well as Thomas Hardy (Musk) cleared his throat, and a number (Ambergris) in the needs of medicineWhile the mid-century Europe, a range of the major individual differences in hygienic conditions of the art rehabilitation Science in Europe during the 14th century, and 16 when it is determined to be carriers of infectious diseases andSmall glass tubes and packaging for perfume crystal and glass of white turbidity as well as the author of the East began to popular image of a bottle up the raft (Pear-shaped bottle) made from materials from the above all made from metalcontainer, round shape like a globe,The orange-like container which can be divided into a trouser press, and in each petal perfume packaging, in the smell of perfume, travel to the point where its heyday in the 17th century in the development of the wild perfumeClean the face and killing and I put together the final judgment of the court in the days of time Louis the 14 can also be made with flour, onion and sweet perfume.dead.1656 gloves sweet was born. passion for wearing gloves of elites, the lack of learning how to make the correct odor that is not desirable on the skin13 - 14 an opportunity to manufacture gloves are used as the sole distributor of the refinery and perfume. perfume manufacturing
In the 17th century have started using Jasmin,and Tuberose Rose in a group of these raw materials to produce the incense perfume bottle has a circular shape with a wide spread, and use it until the end of the 18th century, bottles are produced in various forms such as the pare (PearFor example, there is a color, like a crystal color and turbidity, carved as a pattern on a container off of gold is very popular with the non-stick coating copper,silver, gold or even ornamented with precious stones: inventing a popular in the 17th century.