แนวทางการทำเกษตรแนวดิ่งยังสามารถช่ว

แนวทางการทำเกษตรแนวดิ่งยังสามารถช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวของต้นไม้ ซึ่งจะช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศ นอกจากนั้น การเกษตรแนวดิ่งยังช่วยย้ายแหล่งผลิตอาหารไปตั้งอยู่ในพื้นที่ระแวกเดียวกันกับที่อยู่ของผู้บริโภค ซึ่งเท่ากับไม่เพียงช่วยลดต้นทุนการผลิตอาหารแล้วยังช่วยลดการปลดปล่อยคาร์บอนจากกระบวนการขนส่งได้อีกด้วย และถ้าคำนวณผลรวมของการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHGs) จากการเกษตรกรรม อันเกิดจากการเผาไหม้น้ำมันเชื้อเพลิงของเครื่องจักรในกระบวนการเก็บเกี่ยวและการขนส่งผลผลิตพืชผลและปศุสัตว์ รวมถึงปริมาณก๊าซมีเทน (Methane) จากการทำปศุสัตว์แล้ว กระบวนการเกษตรกรรมจะมีสัดส่วนของการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHGs) สูงถึงประมาณร้อยละ 14 ของปริมาณการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHGs) ทั้งหมดของโลกเลยทีเดียว


ดังนั้น จากแนวคิดของ Despommier ที่ว่าด้วยกระบวนการแปลงของเสียเป็นอาหาร (Waste in and Food out) โดยการเกษตรแนวดิ่งจะเปรียบเสมือนเครื่องจักรที่สามารถเดินเครื่องได้ต่อเนื่องไม่มีที่สิ้นสุด เพื่อผลิตอาหารป้อนให้แก่ประชากรจำนวนมากและเพื่อพลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์สู่การค้นพบแนวทางการเกษตรในอนาคต พร้อมด้วยแรงบันดาลใจอันเกิดจากการวิจัยล้ำสมัย จากนักวิทยาศาสตร์และบริษัทห้างร้านด้านเกษตรกรรม โดยหวังว่า นวัตกรรมเหล่านี้จะช่วยยับยั้งภัยพิบัติที่มาลธัสทำนายไว้ไปได้อีกกว่า 200 ปี โดยในที่นี้ จะนำเสนอตัวอย่าง เทคโนโลยีล้ำยุค 3 เทคโนโลยีที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการเกษตรแนวดิ่ง ได้แก่ การเลี้ยงต้นไม้ในน้ำแบบครบวงจร (Aquaponic merry-grow-round) การใช้หุ่นยนต์ดูแลพืชอาหาร (Crop Circles tended by robots) และ การใช้ประโยชน์จากปฏิกูล (The whole thing runs on sewage) ดังนี้
1) การเลี้ยงต้นไม้ด้วยน้ำแบบครบวงจร (Aquaponic merry-grow-round) แม้การเพาะปลูกโดยใช้น้ำแทนดิน (Hydroponics) และการทำฟาร์มปลา จะสร้างผลผลิตได้ปริมาณสูง แต่ก็ต้องการการดูแลรักษาเป็นอย่างมากเช่นกัน เนื่องจากระบบการเพาะปลูกโดยไม่ใช้ดินจำเป็นต้องเพิ่มเติมสารอาหารที่จำเป็นให้แก่พืชที่ปลูกอยู่บ่อยครั้ง และในขณะที่การทำฟาร์มปลานั้น ก็จำเป็นต้องรักษาคุณภาพของน้ำอย่างสม่ำเสมอ แต่เราอาจสามารถนำทั้งสองแนวคิดมาจับคู่รวมกันเป็น “ระบบอควาโปนิกส์ (Aquaponics)” ซึ่งให้ของเสียจากการเลี้ยงปลากลายเป็นสารอาหารให้แก่การปลูกพืช ในขณะที่พืชก็จะช่วยทำความสะอาดและขจัดความสกปรกในน้ำของบ่อเลี้ยงปลาเช่นกัน
2) การใช้หุ่นยนต์ดูแลพืชอาหาร (Crop Circles tended by robots) แม้เกษตรกรพร้อมที่จะเปิดรับเทคโนโลยีการเพาะปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน มาใช้ในการปลูกพืชแนวดิ่ง เพื่อเพิ่มผลผลิตต่อพื้นที่ ซึ่งคาดว่าจะสามารถให้ผลผลิตได้ประมาณ 30 เท่าของวิธีการเพาะปลูกโดยทั่วไป อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่พืชทุกชนิดที่จะได้ผลดีกับวิธีการดังกล่าว เช่น มันฝรั่ง และพืชตระกูลแคคตัส ซึ่งจำเป็นต้องยึดรากลงในวัสดุกึ่งของแข็ง เช่น ดิน หรือกาบมะพร้าว โดยบริษัท โอเมกา การ์เด็น (Omega Garden) ในประเทศแคนาดา ได้ออกแบบระบบเพื่อการเพาะปลูกพืชที่มีลักษณะคล้ายกับชิงช้าสวรรค์ โดยจะเพาะปลูกพืชในถาดหลุมที่บรรจุหินเวอร์มิคูไลท์ (Vermiculite)
3) การใช้ประโยชน์จากปฏิกูล (The whole thing runs on sewage) แนวคิดการเกษตรแนวดิ่งนั้นถูกออกแบบให้เป็นมากกว่าโรงงานผลิตอาหาร โดยถูกวางแผนให้เชื่อมโยงกับโครงสร้างพื้นฐานของเมือง โดยที่ระบบสิ่งปฏิกูลโดยรอบของเมืองจะถูกส่งตรงไปสู่ฟาร์มเกษตรแนวดิ่ง โดยครึ่งหนึ่งจะถูกนำเข้าสู่เครื่องผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพที่ชื่อว่า SlurryCarb2 ซึ่งพัฒนาโดยบริษัท EnerTech เครื่องจักรนี้จะเพิ่มอุณหภูมิและความดันให้แก่กากตะกอน (หมายเลข 1 ในแผนภาพที่ 3) จากนั้นทำให้แตกตัวเพื่อแยกคาร์บอนและน้ำ จากนั้นเครื่องจะแยกส่วนประกอบของน้ำ (หมายเลข 2 ในแผนภาพที่ 3) และของแข็ง เพื่อผลิตเป็นแท่งเชื้อเพลิงแข็ง (Slurry) ที่คล้ายกับถ่านหิน ซึ่งจะถูกนำมาใช้เผาไหม้เพื่อหมุนกังหันพลังงานไอน้ำ (หมายเลข 3 ในแผนภาพที่ 3) สำหรับผลิตเป็นพลังงานไฟฟ้า และส่วนที่เหลือของสิ่งปฏิกูลจะถูกบำบัดด้วยสารเคมีที่ใช้กำจัดแบคทีเรีย และเปลี่ยนให้เป็นดินชั้นบนสำหรับการเพาะปลูก โดยผ่านกระบวนการความร้อนและอบแห้ง ซึ่งพัฒนาโดยบริษัท N-Viro3 ยิ่งไปกว่านั้น น้ำที่ถูกสกัดแยกออกมาในกระบวนการที่ผ่านๆมาก่อนหน้านี้ จะถูกนำมากรองผ่านกระบวนการกรองตามธรรมชาติ โดยอาศัยนักบำบัดชีวภาพ เช่น หอยกาบลายเสือ (zebra mussel) กกช้าง (cattail) และ กกหนอง(sawgrass) (หมายเลข 4 ในแผนภาพที่ 3) ซึ่งจะทำการบำบัดจนกว่าน้ำเหล่านั้นจะเหมาะสมสำหรับนำไปใช้ในการเกษตรหรือไปผ่านกระบวนการทำให้บริสุทธิ์อีกครั้งก่อนนำไปบริโภค นอกจากนี้ ของเสียอื่นๆจากการเกษตรจะสามารถนำไปหมักเป็นปุ๋ย และก๊าซมีเทนซึ่งสามารถนำไปใช้เป็นพลังงานเชื้อเพลิงได้

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

Vertical farming practices can also help increase green area of the tree, which will help to absorb carbon dioxide in the atmosphere. In addition to it. Vertical farming also helps move food source to other apartments are located in the same area the address of the consumer. Which is equivalent to not only reduce the cost of producing food and also reduce carbon emissions from transport processes. And if calculating the sum of greenhouse gas emissions (GHGs) from agriculture resulting from the burning of fuel in the process of harvesting machinery and transport crops and livestock productivity, including the quantity of methane from livestock (Methane), and then. The agricultural process, there will be a proportion of greenhouse gas emissions (GHGs) up to approximately 14 per cent of the quantity of GHG emissions (GHGs), all of the world. Therefore, Despommier from the concept of waste conversion process act as a food (in Food and Waste out) by vertical farming is the virtual machine can be continuously operated. To enter a large number of the population, food production, and to give the page history to transform the discovery of agriculture in the future, guiding, with inspiration from cutting-edge research. Scientists from the agricultural company and department stores By these innovations will hopefully help inhibit Malthus predicted the disaster to more than 200 years, has this to offer cutting-edge technology preview 3 technology can be applied to vertical farming, tree farming in water include integrated (Aquaponic merry-grow-round) use robots take care of food plants (Crop Circles tended by robots) and to take advantage of the life vest (The whole thing runs on sewage) as follows: 1) การเลี้ยงต้นไม้ด้วยน้ำแบบครบวงจร (Aquaponic merry-grow-round) แม้การเพาะปลูกโดยใช้น้ำแทนดิน (Hydroponics) และการทำฟาร์มปลา จะสร้างผลผลิตได้ปริมาณสูง แต่ก็ต้องการการดูแลรักษาเป็นอย่างมากเช่นกัน เนื่องจากระบบการเพาะปลูกโดยไม่ใช้ดินจำเป็นต้องเพิ่มเติมสารอาหารที่จำเป็นให้แก่พืชที่ปลูกอยู่บ่อยครั้ง และในขณะที่การทำฟาร์มปลานั้น ก็จำเป็นต้องรักษาคุณภาพของน้ำอย่างสม่ำเสมอ แต่เราอาจสามารถนำทั้งสองแนวคิดมาจับคู่รวมกันเป็น “ระบบอควาโปนิกส์ (Aquaponics)” ซึ่งให้ของเสียจากการเลี้ยงปลากลายเป็นสารอาหารให้แก่การปลูกพืช ในขณะที่พืชก็จะช่วยทำความสะอาดและขจัดความสกปรกในน้ำของบ่อเลี้ยงปลาเช่นกัน2) การใช้หุ่นยนต์ดูแลพืชอาหาร (Crop Circles tended by robots) แม้เกษตรกรพร้อมที่จะเปิดรับเทคโนโลยีการเพาะปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน มาใช้ในการปลูกพืชแนวดิ่ง เพื่อเพิ่มผลผลิตต่อพื้นที่ ซึ่งคาดว่าจะสามารถให้ผลผลิตได้ประมาณ 30 เท่าของวิธีการเพาะปลูกโดยทั่วไป อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่พืชทุกชนิดที่จะได้ผลดีกับวิธีการดังกล่าว เช่น มันฝรั่ง และพืชตระกูลแคคตัส ซึ่งจำเป็นต้องยึดรากลงในวัสดุกึ่งของแข็ง เช่น ดิน หรือกาบมะพร้าว โดยบริษัท โอเมกา การ์เด็น (Omega Garden) ในประเทศแคนาดา ได้ออกแบบระบบเพื่อการเพาะปลูกพืชที่มีลักษณะคล้ายกับชิงช้าสวรรค์ โดยจะเพาะปลูกพืชในถาดหลุมที่บรรจุหินเวอร์มิคูไลท์ (Vermiculite)3) การใช้ประโยชน์จากปฏิกูล (The whole thing runs on sewage) แนวคิดการเกษตรแนวดิ่งนั้นถูกออกแบบให้เป็นมากกว่าโรงงานผลิตอาหาร โดยถูกวางแผนให้เชื่อมโยงกับโครงสร้างพื้นฐานของเมือง โดยที่ระบบสิ่งปฏิกูลโดยรอบของเมืองจะถูกส่งตรงไปสู่ฟาร์มเกษตรแนวดิ่ง โดยครึ่งหนึ่งจะถูกนำเข้าสู่เครื่องผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพที่ชื่อว่า SlurryCarb2 ซึ่งพัฒนาโดยบริษัท EnerTech เครื่องจักรนี้จะเพิ่มอุณหภูมิและความดันให้แก่กากตะกอน (หมายเลข 1 ในแผนภาพที่ 3) จากนั้นทำให้แตกตัวเพื่อแยกคาร์บอนและน้ำ จากนั้นเครื่องจะแยกส่วนประกอบของน้ำ (หมายเลข 2 ในแผนภาพที่ 3) และของแข็ง เพื่อผลิตเป็นแท่งเชื้อเพลิงแข็ง (Slurry) ที่คล้ายกับถ่านหิน ซึ่งจะถูกนำมาใช้เผาไหม้เพื่อหมุนกังหันพลังงานไอน้ำ (หมายเลข 3 ในแผนภาพที่ 3) สำหรับผลิตเป็นพลังงานไฟฟ้า และส่วนที่เหลือของสิ่งปฏิกูลจะถูกบำบัดด้วยสารเคมีที่ใช้กำจัดแบคทีเรีย และเปลี่ยนให้เป็นดินชั้นบนสำหรับการเพาะปลูก โดยผ่านกระบวนการความร้อนและอบแห้ง ซึ่งพัฒนาโดยบริษัท N-Viro3 ยิ่งไปกว่านั้น น้ำที่ถูกสกัดแยกออกมาในกระบวนการที่ผ่านๆมาก่อนหน้านี้ จะถูกนำมากรองผ่านกระบวนการกรองตามธรรมชาติ โดยอาศัยนักบำบัดชีวภาพ เช่น หอยกาบลายเสือ (zebra mussel) กกช้าง (cattail) และ กกหนอง(sawgrass) (หมายเลข 4 ในแผนภาพที่ 3) ซึ่งจะทำการบำบัดจนกว่าน้ำเหล่านั้นจะเหมาะสมสำหรับนำไปใช้ในการเกษตรหรือไปผ่านกระบวนการทำให้บริสุทธิ์อีกครั้งก่อนนำไปบริโภค นอกจากนี้ ของเสียอื่นๆจากการเกษตรจะสามารถนำไปหมักเป็นปุ๋ย และก๊าซมีเทนซึ่งสามารถนำไปใช้เป็นพลังงานเชื้อเพลิงได้

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

Vertical farming practices can also help increase the green of the trees. This will help to absorb carbon dioxide in the atmosphere than that vertical farming also helps to move food supply in the immediate area where the consumer. This not only reduces the cost of producing food, but also help reduce carbon emissions from the transport process as well. If the sum of greenhouse gas emissions (GHGs) from agriculture. Arising from the combustion of fuel in the process of harvesting and transporting crops and livestock productivity. The amount of methane gas (Methane) from the livestock husbandry. The farm will have a ratio of greenhouse gas emissions (GHGs) up to about 14 percent of the total greenhouse gas emissions (GHGs) all of the world ever , so the idea of Despommier that with the process of converting waste food (. Waste in and Food out) by agriculture vertical to a virtual machine that can run continuously for endless. To produce food to feed the population and reshaped to discover the history of agriculture in the future. With inspiration from cutting-edge research. From scientists and agricultural companies, in the hope that these innovations will help prevent a disaster that Malthus predicted to be more than 200 years here are presented. Cutting edge technology three technologies that can be applied to agriculture verticals including trees in a unified (Aquaponic merry-grow-round) using robots take care of food crops (Crop Circles tended by robots) and to take advantage of. Sewage (The whole thing runs on sewage) as follows: 1) the trees with water-inclusive (Aquaponic merry-grow-round), although cultivation by using water instead of soil. (Hydroponics) and fish farming. Productivity is high volume But it needs a lot of care as well. The system of cultivation without soil needs more nutrients needed to grow crops that often. And while fish farming. It is necessary to maintain the quality of water regularly. But we may be able to bring the two concepts together in a match. "The Aqua Expo Knicks. (Aquaponics) "which the waste from the fish become nutrients for the crops. While the plant will help clean and remove impurities in the water of the pond as well, 2) the use of robots to take care of food crops (Crop Circles tended by robots), although farmers are ready to accept technology, cultivated plants. Do not use soil It used to grow plants vertically. To increase productivity per area Which is expected to yield approximately 30 times that of the crop generally, however not all species will have a great impact on how plants such as potato and cactus. Which have taken root into semi-solid materials like clay or coconut by company Omega Garden (Omega Garden) in Canada. The system is designed to cultivate plants that resembles a Ferris wheel. The crop in the tray containing vermiculite stone house. (Vermiculite) 3) the use of sewage (The whole thing runs on sewage) vertical farming concept has been designed to be more food manufacturers. The plan was to link up with the city's infrastructure. The sewage system around the city will be sent directly to the vertical farm. Half will be directed to produce biofuels named SlurryCarb2 developed by EnerTech used to increase the temperature and pressure of the sludge (number 1 in Figure 3), then make a break to separate the carbon and water. Then the machine will separate the components of water (No. 2 in Figure 3) and solid fuel to produce a solid (Slurry) that is similar to coal. Which will be used to rotate the turbine combustion steam power (number 3 in Figure 3) for the production of electricity. And the rest of the sewage is treated with chemicals that remove bacteria. And turn them into top soil for planting. Through a process of heating and drying. Developed by N-Viro3 more than that. The water was extracted, separated in the past before. Will be very minor natural filtration. By therapists biological such as clams, tiger (zebra mussel) kg elephant (cattail) and Reed Marsh (sawgrass) (No. 4 in Figure 3), which will be treated until the water they are suitable for use in agriculture. go through a purification process again before consumption also other waste from agriculture will be able to compost. And methane, which can be used as energy fuel.