บทสนทนา
ลูกทัวร์ 2 คน ต้องการจะเดินทางไปเที่ยววัดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และต้องการหาไกด์เพื่อจะพาไปวัดต่างๆ ลูกทัวร์จึงได้โทรศัพท์ไปหาไกด์ให้หาวัดที่เดินทางสะดวกและไม่ไกลมากไกด์จึงได้แนะนำวัดท่าการ้อง ลูกทัวร์จึงถามว่าวัดนี้มีจุดเด่นอะไร ไกด์พูดว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีชื่อเสียงของทางวัด คือ “ พระพุทธรัตนมงคล ” หรือที่เรียกกันว่า “ หลวงพ่อยิ้ม ” สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนต้น ขณะที่บ้านเมืองมีความเจริญรุ่งเรืองและสงบสุข ดังจะเห็นได้จากพระพุทธลักษณะที่งดงามและพระพักตร์ที่มีความเมตตาและตลาดน้ำกรุงเก่าวัดท่าการ้อง ลูกทัวร์จึงได้ถามเส้นทางและไกด์ก็ได้บอกสถานที่ตั้งและเส้นทางว่าวัดท่าการ้องตั้งอยู่ที่ถนนทางหลวง 3469 ตำบลบ้านป้อม อำเภอ -พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ลูกทัวร์จึงตกลงและนัดวันกับไกด์ ลูกทัวร์จึงบอกไกด์ว่าขอเป็นวันที่ 2 พฤศจิกายน เวลา 09.00 น.พบกันที่วัดท่าการ้อง ไกด์ตอบตกลงและบอกว่า แล้วพบกันในวันที่เดินทางมานี่นะครับ
ลูกทัวร์ : สวัสดีค่ะ ใช่บริษัทพาเที่ยวไทยแลนด์ไหมค่ะ ?
ไกด์ : ใช่ค่ะ
ลูกทัวร์ : ดิฉันอยากจะเที่ยววัดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาอ่ะค่ะ แต่ไม่รู้จะไปที่ไหน
ไกด์ : ดิฉันขอแนะนำให้เป็นวัดท่าการ้อง ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยานะค่ะ ซึ่งใกล้และการ
เดินทางไปก็สะดวกสบาย
ลูกทัวร์ : นั้นก็ได้ค่ะ แล้วมันอยู่ที่ไหนอ่ะค่ะ
ไกด์ : เดี๋ยวดิฉันจะบอกแผนที่นะค่ะ
ลูกทัวร์ : ค่ะ
ไกด์ : วัดนี้ตั้งอยู่ที่ ถนนทางหลวง 3469 ตำบลบ้านป้อม อำเภอพระนครศรีอยุธยา
จ. พระนครศรีอยุธยา ค่ะ
ลูกทัวร์ : นั้นดิฉันขอนัดวันนะค่ะ
ไกด์ : คุณสะดวกวันไหนค่ะ?
ลูกทัวร์ : งั้นดิฉันขอเป็นวันอาทิตย์ ที่ 2 พฤศจิกายน นะค่ะ เวลา 09.00 น. นะค่ะ
ไกด์ : ได้ค่ะ ไว้เจอกันวันเดินทางนะค่ะ
ลูกทัวร์ : ค่ะ ขอบคุณค่ะ
ไกด์ : ค่ะ ขอบคุณและยินดีให้บริการค่ะ
ณ วันเดินทาง วันอาทิตย์ ที่ 2 พฤศจิกายน
ไกด์ : สวัสดีค่ะ ใช่ลูกทัวร์ที่นัดไว้ไหมค่ะ
ลูกทัวร์ : ใช่ค่ะ
ไกด์ : เดี๋ยวดิฉันจะแนะนำสถานที่และประวัติของวัดให้พวกคุณฟังนะค่ะ
ลูกทัวร์ : ค่ะ
ไกด์ : ประวัติวัดนี้นะค่ะ วัดท่าการ้อง ซึ่งสันนิฐานตามพุทธะลักษณะและซากปรัก
หักพัง น่าจะสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๑(สมเด็จพระชัยราชา) ประมาณปีพุทธศักราช
๒๐๗๖ หรือ ๔๗๔ ปีเศษมาแล้ว เพราะมี ท่าน้ำกั้นวัด ช่วงนั้นแผ่นดินค่อนข้างสงบ
พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรื่องดี อีกทั้งวัดนี้ยังใช้เป็นที่ประทับ พักผ่อน เพื่อเผยแพร่
ศาสนาของลัทธิลังกาวงศ์อีกด้วย แต่ไม่ปรากฏหลักฐานที่ชัดเจนว่า ผู้ใดเป็น
ผู้สร้างเพราะอยู่นอกเขตพระบรมมหาราชวัง สันนิฐานว่า คงจะเป็นวัดที่ราษฎรสร้างขึ้น
เพราะ ไม่ปรากฏรายชื่อพระอารามหลวงสมัยอยุธยา แต่จากการสังเกตเม็ดมะยมรอบ
กำแพงพระอุโบสถ จึง สันนิฐานว่าน่าจะมีการบูรณะปฎิสังขรณ์ขึ้นมาใหม่ในสมัย
รัตนโกสินทร์ ช่วงรัชกาลพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๓-
๕ ) จากหลักฐานทางโบราณคดีในการสำรวจ ของ พระยาโบราณราชธานินท์พร
เดชะคุปต์ ซึ่งทำแผนที่การสำรวจวัดและโบราณสถานในสมัยรัชกาลที่ ๕
ระบุชื่อที่คล้ายกับวัดท่าการ้องไว้ ๒ ชื่อ คือวัดท่า กับ วัดการ้อง ซึ่งอยู่ใกล้กัน วัดท่านั้น
อยู่ตรงหัวมุมที่ แม่น้ำเจ้าพระยาหักเลี้ยวลงสู่ด้านตะวันตก ของเกาะเมืองฝั่งตรงข้ามกับ
วัดป่าพลู ที่ปากคลองมหานาคทุ่งลุมพลี ส่วนวัดท่าการ้องนั้นอยู่ถัดเข้ามาเกือบถึงหลังวัด
ธรรมาราม แต่ไม่ทราบช่วงเวลาใดที่ ๒ วัดนี้รวมเข้าด้วยกันเป็นวัดท่าการ้อง เดี๋ยวดิฉัน
จะพาพวกคุณไปดูสถานที่ต่างๆในวัดและจะพาไปไหว้พระในอุโบสถและพาเดินเที่ยว
ตลาดน้ำกรุงเก่านะค่ะ
ลูกทัวร์ : งั้นไปกันเถอะค่ะ
ไกด์ : ร้อนกันไหมค่ะ?
ลูกทัวร์ : นิดหน่อยค่ะ
ไกด์ : ถึงอุโบสถแล้วค่ะ
ลูกทัวร์ : โอ้โห! สวยจังเลยค่ะ
ไกด์ : ใช่ค่ะ ในอุโบสถนี้มี พระพุทธรัตนมงคล หรือที่เรียกกันว่า หลวงพ่อยิ้ม ที่มีความงดงาม
มาก ไปไหว้ หลวงพ่อยิ้มกันเถอะค่ะ
ลูกทัวร์ : ค่ะ
ไกด์ : เดี๋ยวดิฉันจะพาไปเดินตลาดน้ำกรุงเก่านะค่ะ
ลูกทัวร์ : ค่ะ
ไกด์ : ถึงแล้วค่ะตลาดน้ำกรุงเก่า
ลูกทัวร์ : ค่ะ วันนี้ขอบคุณไกด์มากๆเลยนะค่ะ ที่มาแนะนำสถานที่ให้กับพวกเรา
ไกด์ : ค่ะ ยินดีมากๆค่ะ โอกาสหน้าอย่าลืมเรียกใช้บริษัทพาเที่ยวไทยแลนด์อีกนะค่ะ ขอบคุณค่ะ