2) ความน่าเกรงขาม (Tremendous)ประสบการณ์ในศาสนาเป็นประสบการณ์ที่ศักดิ์ การแปล - 2) ความน่าเกรงขาม (Tremendous)ประสบการณ์ในศาสนาเป็นประสบการณ์ที่ศักดิ์ อังกฤษ วิธีการพูด

2) ความน่าเกรงขาม (Tremendous)ประสบ

2) ความน่าเกรงขาม (Tremendous)

ประสบการณ์ในศาสนาเป็นประสบการณ์ที่ศักดิ์สิทธิ์ในฐานะที่เป็นการเผชิญหน้ากับความน่าเกรงขาม ทำให้เรารู้สึกหวาดหวั่น เกรงกลัว ทำให้เรารู้สึกว่าตัวเราต่ำต้อยน้อยค่าและแทบที่จะไม่มีอะไรที่เป็นชิ้นดีที่จะไปอวดอ้างได้เลย และยิ่งกว่านั้น ประสบการณ์ในศาสนาเป็นเหมือนกับบางสิ่งที่เข้ามาปลุกจิตสำนึกในชีวิตของเราให้ตระหนักถึงความจริงและให้ลงมือปฏิบัติตามความจริง

3) ความน่าหลงใหล/แสวงหา (Fascinating)

เป็นลักษณะของประสบการณ์ในศาสนาที่อยู่ควบคู่กับความน่าเกรงขาม (Tremendous) เหมือนกับเหรียญสองด้าน ด้านหนึ่งกลัว (เชิงลบ - เกรงขาม) อีกด้านหนึ่ง หลงใหลได้ปลื้มในความศักดิ์สิทธิ์ (เชิงบวก) มีความสำนึกอยากจะแสวงหา ติดตามความศักดิ์สิทธิ์นั้น
ข. สรุปและแนวทางการวิจารณ์แนวคิด
ออตโตมีความคิดว่าประสบการณ์ในศาสนาเรียกร้องให้แต่ละคนมีประสบการณ์โดยตรงต่อความศักดิ์สิทธิ์นั้น ๆ ความศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้มีประสบการณ์ทางศาสนาพบ เป็นการแสดงถึงพลานุภาพที่ยิ่งใหญ่และเป็นการแสดงออกทางอารมณ์ความรู้สึก (Emotion ways) เป็นประสบการณ์พิเศษ เหมือนกับที่โมเสสได้ยินพระดำรัสของพระเจ้าในพุ่มไม้ที่ไม่ไหม้ (อพย 3: 1-3) เป็นต้น ในที่นี้ขอนำเสนอเฉพาะตัวอย่างคำถามเพื่อเป็นแนวทางการวิจารณ์แนวคิดของท่าน ดังต่อไปนี้

1) จริงหรือไม่ที่ประสบการณ์ทางศาสนา เป็นเรื่องของอารมณ์ความรู้สึก
2) ประสบการณ์ในศาสนา เน้นประสบการณ์ของความศักดิ์สิทธิ์ ทัศนะต่อความศักดิ์สิทธิ์ (ความเป็นจริงสูงสุด/พระเจ้า) ตามแนวของออตโตเป็นแบบไหน

3.1.2 ประสบการณ์ในศาสนา คือ ความสัมพันธ์ของบุคคล

ก. แนวคิดของมาร์ติน บูเบอร์ (Martin Buber)

บูเบอร์เห็นด้วยที่ว่าประสบการณ์ในศาสนาเป็นการเผชิญหน้ากับความศักดิ์สิทธิ์/ความเป็นจริงสูงสุด แต่ท่านมีแนวคิดว่าประสบการณ์ในศาสนาไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่อยู่ในชีวิตประจำวันของแต่ละบุคคล อันเป็นความสัมพันธ์แบบ “ฉัน” กับ “คุณ” (I - You relation) (Buber cited in Adriaan, 1999)

1) ประสบการณ์ในศาสนา ไม่ใช่แบบ “ฉัน-มัน”

ประสบการณ์ในศาสนาไม่ใช่ความสัมพันธ์แบบคนกับสิ่งของ ที่ยึดตนเองเป็นศูนย์กลางและใช้สิ่งอื่นเพื่อเป็นเครื่องมือ ประสบการณ์ในศาสนาไม่ใช่เป็นการบังคับควบคุมอีกฝ่ายหนึ่งให้เป็น/ทำในสิ่งที่ตนอยากให้เป็น/ทำ “จงทำนั่น... จงทำนี่” (Let go..) ที่เป็นลักษณะฝ่ายหนึ่งควบคุมอีกฝ่ายหนึ่ง เหมือนกับที่เราบังคับควบคุมคอมพิวเตอร์ รถยนต์ ฯลฯ เพื่อตอบสนองความต้องการของเรา (ยึดตนเองเป็นศูนย์กลาง) มีแบบแผน มีระบบที่แน่นอนตายตัวและกำหนดเงื่อนไขความสัมพันธ์ได้ (เมื่อไหร่ ที่ไหนฯลฯ)

2) ประสบการณ์ในศาสนาเป็นแบบ “ฉัน – คุณ”

บูเบอร์เจตนาใช้ขีดเส้น (-) มาเชื่อมระหว่างคำว่า “ฉัน” กับ “คุณ” แสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลคล้ายกับรูปแบบของความสัมพันธ์ระหว่างคนกับคน ที่มีการรู้สำนึกและมีการติดต่อสื่อสาร (ถ่ายทอดสาร) กันและกัน อันเป็นพื้นฐานความสัมพันธ์ระหว่างตัวเรากับคนอื่นที่ต่างจากเรา (Other) ที่เราจะไปกำหนดแผน/เงื่อนไขของความสัมพันธ์ที่แน่นอนตายตัวไม่ได้ ความสัมพันธ์แบบฉัน-คุณ เป็นเหมือนกับการตกหลุมรักใครสักคน (ในกรณีความรักแบบหนุ่มสาว) ที่จะเกิดขึ้นเองโดยไม่มีแบบแผนไว้ล่วงหน้าว่าเราจะรักใคร (ไม่เหมือนกับความสัมพันธ์แบบ I-It ที่เราพอที่จะกำหนดแบบแผนไว้ได้ เพราะเน้นตัวเราเป็นหลัก)

3) ประสบการณ์ในศาสนาเป็นพระหรรษทาน: Planning –Spontaneity -Response

บูเบอร์เปรียบเทียบประสบการณ์ในศาสนาโดยใช้พื้นฐานของความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลที่เป็นแบบ I – You แต่ประสบการณ์ในศาสนามีลักษณะพิเศษ เพราะ You นี้คือ “ความเป็นจริงสูงสุด” หรือ พระเจ้า เราจึงยิ่งกำหนดแบบแผนล่วงหน้าของการมีประสบการณ์ในศาสนาไม่ได้ว่าเมื่อไหร่ เวลาไหน แต่มันจะเกิดขึ้นเอง (Spontaneity) และเราตอบรับที่จะมีความสัมพันธ์กับความเป็นจริงสูงสุดนั้น (Response) ซึ่งศัพท์ทางศาสนา (เทวนิยม) เรียกว่า “พระหรรษทาน” ที่ความเป็นจริงสูงสุด (พระเจ้า) ลงมาสร้างความสัมพันธ์กับเรา โดยที่เราไม่ต้องแสวงหาแต่เป็น You ที่มาหา I โดยที่ I ตอบรับเข้าไปมีความสัมพันธ์ด้วย
ประสบการณ์ในศาสนาเป็นความสัมพันธ์ระหว่างความเป็นจริงสูงสุดกับมนุษย์ มีจุดเริ่มต้นจากความเป็นจริงสูงสุดเลือกที่จะสร้างความสัมพันธ์กับมนุษย์

ข. สรุปและแนวทางการวิจารณ์แนวคิด

ประสบการณ์ในศาสนาตามแนวคิดของบูเบอร์มีลักษณะเป็นทั้งเชิงรุก (Active) และเชิงรับ (Passive) ในเวลาเดียวกัน เน้นความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล คือ ตัวมนุษย์ (I) กับความเป็นจริงสูงสุด (You) ที่บูเบอร์ระบุชัดเจนว่าเป็น “The Eternal You” คือ พระเจ้า/ความเป็นจริงสูงสุดนั่นเอง ประสบการณ์ในศาสนาจึงเน้นบทบาทสองด้าน คือ การที่พระเจ้าลงมาสร้างความสัมพันธ์กับมนุษย์และมนุษย์ตอบรับที่จะสร้างความสัมพันธ์กับพระองค์ เราจึงพอยกตัวอย่างแนวการวิจารณ์ความคิดได้ดังนี้
1) ผู้นับถือศาสนาแนวอทวนิยม สามารถมีประสบการณ์ในศาสนาได้หรือไม่ อย่างไร
2) มองประสบการณ์ในศาสนาในเชิงบวก (แต่จะมีสักกี่คนที่มีประสบการณ์ในศาสนาแบบนี้)

3.2 สรุป : แนวทางการพิจารณาประสบการณ์ในศาสนา

นอกจากแนวคิดข้างต้นที่นำเสนอไปแล้ว ยังมีนักปรัชญาศาสนา (ตะวันตก-อเมริกัน) อีกหลายท่านที่ได้เสนอความคิดที่น่าสนใจ แม้ว่าแนวคิดของแต่ละท่านจะแตกต่างกันออกไปและไม่มีมติสากลที่นักปรัชญาทุกคนยอมรับ (อันเป็นธรรมชาติของแนวคิดเชิงปรัชญา ที่ยังไม่มีคำตอบที่ตายตัว) อย่างไรก็ตาม ขอนำเสนอแนวคิดของ Adriaan T. Peperzak (1999) ได้เสนอหลักพื้นฐานของประสบการณ์ในศาสนาว่าประกอบด้วยสามส่วนที่สำคัญ ได้แก่

3.2.1 Comprehensive กล่าวคือ เป็นประสบการณ์ภายในของแต่ละคน
3.2.2 Radical กล่าวคือ เป็นประสบการณ์ในสิ่งที่มีคุณค่าและความหมายสูงสุด (ของผู้มีประสบการณ์นั้น ๆ ) ที่ทำให้บุคคลนั้นเปลี่ยนแปลงแบบหน้ามือเป็นหลังเท้า (ถอนรากถอนโคน)
3.2.3 Dynamic กล่าวคือ เป็นประสบการณ์ที่ไม่ตายตัว แต่เป็นขบวนการต่อเนื่องที่มุ่งสู่ความเป็นจริงสูงสุด

จากหลักการพื้นฐานดังกล่าวข้างต้น จึงบอกได้ว่าประสบการณ์ในศาสนาในฐานะเป็นหัวใจของศาสนา เป็นการเผชิญหน้าเพื่อสร้างความสัมพันธ์กับความเป็นจริงสูงสุด ที่ทำให้ผู้มีประสบการณ์ทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อมุ่งสู่ความเป็นจริงสูงสุดนั้น อันเป็นพลังภายในที่ทำให้ผู้มีประสบการณ์เปลี่ยนแปลง (กลับใจ) วิถีชีวิตอย่างสิ้นเชิง หรือกล่าวได้ว่าประสบการณ์ในศาสนาเป็นประสบการณ์ภายในของการพบความเป็น
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
2) a prestigious (Tremendous)Religious experience is an experience of the sacred as a confrontation with a prestigious make us feel panic fear fear. We felt ourselves at our values and would be a great piece of nothing to boast, and more. Religious experience is the same as something that comes in wake of awareness in our lives to realize the truth and let them follow the truth.The hotel has 3)/seek (Fascinating)A characteristic of religious experience is coupled with a prestigious (Tremendous) is similar to the one sided coin of fear (negative-a prestigious) On the other side doting on sanctity (positively) with sense would seek. Keep track of sanctity.ข. Summary and critique of the concept Otto had the idea that the experience in religious, each claim to have firsthand experience of the sacred. A sacred religious experience people encounter is the greatest power of expose, and a virtuoso feeling. A special experience (ways Emotion) as Moses heard God's word in the bushes that don't burn (อพย 3: 1-3), etc. In this example, only offer a question to guide your concept criticism. In the following ways:1) true that religious experience is a matter of emotion.2) focuses on the experience of religious experience in the sanctity of the sacred (the highest reality/God) along a Otto?3.1.2 experience in religion is the relationship of the person.A. the concept of Martin Halle Berry Bulletin (Martin Buber) Bukit BER agree that religious experience is an encounter with the sacred/the highest reality. But he has a religious experience in the concept that it's not too far, but in the daily life of each person as an "I" with "you" (I-You relation) (cited in Buber Adriaan, 1999)1) religious experience is not "I-it"Religious experience is not a one-to-one relationship with a person of that self centred and use something else as a tool. Experience in non-religious forces control the other person to do what they want/to be/do. "You shall do ... keep doing it" (Let go ..) is one way to control another one just as we are forced to control the computer. Cars, etc., in order to meet our needs (based on self-centred) There is certainly a relationship and define criteria (when was that nai etc.)2) experience in a religious "I-you"Bukit BER "underscore (-) is used to connect between the word" I "with" you "refers to the relationship between people, similar to the pattern of the relationship between the person who has knowledge and realization of communication (broadcast news), and is the basis for the relationship between ourselves with the people?Constitutionally different from us (Other) that we are going to define the relationship of the conditions/plan is definitely not dead. My relationship-you are like to fall in love somebody (in the case of love the young) will happen by not having a plan beforehand that we would love someone (not the same as the I-It relationship that we would define a schema because the emphasis we are.) 3) experience in a religious charity hat: Planning – Spontaneity-Response.Comparison of religious experience in the Bergen bulletin using the basis of the relationship between the person who is religious, but I have experience in You – special effects because You are the "ultimate reality", or God is greatest, so we set the plan in advance of having a religious experience is not that much time, but when it occurs, and we own response (Spontaneity) that are associated with the fact that Max (Response) that religious terminology (theism), called "the hat review" at the highest reality (God) to build a relationship with us. We do not seek, but it is You that I come by that I related to reply.Experience in religion is the relationship between maximum reality with human beings. With the beginning of the highest reality to create a relationship with a man.ข. Summary and critique of the conceptExperience in religious, based on the concept of the boutique Harbor looks as both proactive (Active) and passive (Passive) at the same time. Focuses on the relationship between the person is a human being (I) with the highest reality (You) at Bukit BER explicitly as "The Eternal You" is God/the highest reality. ' Religious experience and thus focuses on the roles of two sides is a God to build a relationship with humans and the human response to create a relationship with him. For example, we have enough ideas to criticism the idea as follows:1) who can top อทว guide religions in religion or not. Coverage groups (ReqGroup) form.2 a positive view of religious experience) (but how many people have experienced this kind of religion)3.2 conclusion: guidelines to consider religious experience.In addition to the above concept has been proposed, there are also religious philosophers (West-American) Many people have proposed an interesting idea, although the concept of individual accommodation will vary and there is no global consensus that all philosophers accepted (as well as the nature of the philosophy that there is no obvious answer.) However, exclusively Adriaan T. Peperzak concepts (1999) proposed a fundamental principle of religious experience that consists of three major sections:3.2.1 Comprehensive, that is, as an individual's internal experience.3.2.2 what is Radical is a valuable experience and the highest mean (of the experienced users) that allows them to change the way a foot (uninstall, uninstall the root cone)3.2.3 Dynamic, that is, a dead body, but as a continuous movement that aimed to the maximum reality.From the basic principles mentioned above. Told that the experience of religion as the religion of the heart as a confrontation in order to create a relationship with the reality that most people have experienced, dedicated and committed to living up to the highest reality. It is the power that makes it possible for an experienced change (repentance) way of life completely, or say that religious experience is an experience of unity is found.
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
2) the fear (Tremendous) religious experience in a sacred experience as an encounter with fear. We feel awed fear makes us feel that our humble little value, and virtually nothing is a nice piece to claim it. And moreover Religious experience is like something to raise awareness in our lives, be aware of the fact and to act as a true 3) Enchanted / quest. (Fascinating) the nature of religious experience is coupled with the fear (Tremendous) like the US side. One fear (negative - fear) dote on one side of the sacred (positive) with a conscience would seek. Follow the sacred text. Summary and critical approach to the Ottomans had no idea that the experience of each religion claims to have direct experience of the divine that the sanctity of the religious experience found. It is a great clasps and expresses the emotions (Emotion ways) is a special experience. Just as Moses heard the word of God in a burning bush (Exodus 3: 1-3), etc. In this case, we present specific examples of questions to guide the review of the concept. As follows: 1) Is it true that religious experience. As a matter of emotion, 2) experience in religion. The experience of the sacred Toward holiness (Reality Max / god) along the Ottomans is now 3.1.2. Religion is a personal experience of a. The concept of Martin Buber (Martin Buber) Buber agree that religious experience in an encounter with the sacred / reality maximum. But you got the idea that religious experience is not far-fetched. But in everyday life of the individual. The relationship between "I" and "you" (I - You relation) (cited in Adriaan Buber, in 1999) 1) is not a religious experience, "I - it's" religious experience in the relationship with the shipment. Based on self-centered and the other as a tool. Religious experience in the regulation of the other party to / do what they want to / do, "Do this, do that ..." (Let go ..) that is characterized by one party to the other driver. Just as we control computers, cars, etc., to meet our needs. (Based on self-centered), a structured system of fixed and define the terms of the relationships are (when, where, etc.) 2) Experience in religion as "I - you" Buber intended use dashes (-) connected between words. "I" and "you" refers to the relationship between a person similar to the form of the relationship between man and man. The senses and Communications (biomagnify) each as a fundamental relationship between ourselves with others who differ from us (Other), we are going to plan / Terms of relationships that are not fixed. My relationship - you It's like falling in love with someone. (In the case of romance) to happen randomly in advance that we are loved. (Unlike the I-It relationship that we have to define the pattern save. Because our focus is primarily) 3) experience in religious graces: Planning -Spontaneity -Response Buber compare the experience of religion, based on the relationship between a person I - You are unique because the religious experience. You are the "ultimate reality" or God, we will determine the pattern of pre-versed in religion is not that much time, but it will happen. (Spontaneity), and we agreed to have a relationship with the ultimate reality that (Response) In terms of religion (atheism) called "grace" that the ultimate reality (God) to build a relationship with us. By that we do not seek, but as I come to You, where I get into a relationship with the religious experience of the relationship between reality and man up. A starting point of fact, most choose to build a relationship with a man, b. Summary and critical approach to the concept of the concept of religious experience as both a proactive Buber (Active) and passive (Passive) at the same time. Focus on the relationship between the individual is a human (I) with the ultimate reality (You) that Buber clearly identified as "The Eternal You" is God / reality cap. Experience has focused on the role of religion is that God came down sides to build a relationship with man, and agreed to establish a relationship with Him. For example, we have the critical thinking as follows: 1) The ASSET popular religion. Can be experienced in religion or not? 2) a positive religious experience. (But there are a few people who have experience in this religion) 3.2 Conclusion: guidelines for religious experience in addition to the above concept was already presented. Also a religious philosopher (West - American), many of you who have interesting ideas. Although the concept of each is different and there is no universal consensus that philosophers all agree. (This is the nature of philosophical ideas. The answer is no fixed) However, we introduce the concept of Adriaan T. Peperzak (1999) have proposed the principle of religious experience that consists of three parts, namely 3.2.1 Comprehensive ie, an individual's experience within 3.2. 2 Radical ie, a veteran of the most valuable and meaningful. (Of those who have experienced it) that makes that person changes from its predecessor. (Radical) 3.2.3 Dynamic is an experience that is not fixed. But a continuous process that leads to the fact most of the basic principles mentioned above. Said that the experience in the heart of religion as religion. An encounter to build relationships with the ultimate truth. To make the experience work your whole life to strive for a real edge. The forces that make the experience changed (repentance) lifestyle completely. In other words, the religious experience is the experience of seeing the inside.













































การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
2) awe (Tremendous)

.Experience in religion is the holy experience as the face with the prestigious makes us feel afraid. Afraid.And more. Experience in religion is like something in the awareness in our life to realize the truth, and to implement the truth!
3) Charm / seek (Fascinating)

.Characteristics of religious experience is coupled with the awe (Tremendous) like two sides of a coin in one of the (negative - reverence). On the other hand, the enchanted in holiness (positive) consciousness to seek.B. summary and guidelines for criticism concepts
.Otto had the idea that experience in religion claim to each person experiences the sacred, the holy experienced religious experience.(Emotion ways) is a special experience. Just as Moses heard God's word in the bushes that do not burn (อพย 3:1-3), etc. in this presentation only questions to guide your ideas criticism following

1) true religious experience. As a matter of emotion
.2) experience in religion, focusing on the experience of the sacred, attitudes towards the holy. (in fact the highest / God). Based on a kind of Otto

3.1.2 experience in religion is the relationship of individuals

.The concept of Martin Buber (Martin Buber)

.Bu number agree that experience in religion is a confrontation with the holy / reality maximum. But you have the concept that the experience of religion is not far. But in the daily life of the individual."I" and "you" (I - You relation) (Buber cited, in Adriaan1999)

1) experience in religion, not. "I -"

.Experience in religion is not a relationship with things. Based on the self centered and use something else as a tool. Experience in religion is not a controlled one another to do something they wanted a / do.
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: