Grand paradise dance and music side, chips, nup Thailand Thailand.H.R.H. King Phra Borommarachininat realize that in a globalized world, such as borderless or today. The cultural exchange between the needle facing up, the days of national. People of Thailand to cooperate in our culture, where care is centered around kantha is inherited, but long past, were in the stream of culture. The mix of international identity either by hand.Magnificent images in the Queen and H.R.H. Phra Borommarachininat used dance as a medium, they occur among people in Thailand all pride in Thailand and have unity as culture. it is generally manifested he son of the sacred in music but criticize.He studied piano, ngotrong minor God since high school. When his father went to the foreign stamps Piano lessons, he continued seriously to the stage as an actor and pianist, son of my heart but in the music of Thailand with King in the dynasty nor Te shape-which, in addition to receive critical and public land in King's lineage, this boss for many he is the genius in the cultural.Both of Thailand and Eastern culture, especially the language, literature and music. General Department of the thousand Buddha wonwong her father Saud ranat are chanthaburi's love for literature and is a profound knowledge and shoot, and God's son like this to God's daughter. Suda Rattana Thep Royal Siamese King borom rat young girl he tells the story in a book. King River with the study.Mean when I was 7 years old, age 6 – Princess mother teach reading literature, whether simple and fun is a great place to start is with the story for no other subject namely Mani inao and Ramayana etc. It's very favorite inao story, I read the excerpted poem, I surf many episodes ..."Song of the King River memories good memories from" that Lord young said he told the King that the poetic eyes, listening to the surf, to teach us to. ..When his Majesty deign to proclaim God's blessing, please please rank up to establish itriyayot itriya Queen Sirikit Phra Borommarachininat H.R.H. King and by his Majesty King go, he ministered in various sectors of ทั่.Woprathet by Royal command that is already assembled to the desired music which he meet people closely. Make the shape of Thailand access to people in General, whether a festive sunny Prince chapter God poem. And is said to love singing a song is life, so please be kind enough to please mom, his daughters, as well as officials and civil servants boriphan local training locals, such as the singing of choeng of Northeast. Dance of the North Dance awaiting very confused and sam Peng of the South to present or participate in singing with the friendly local people in his Kingdom eat feed, or the large gathering, please kind enough to please such a blessing, held the rally of Scouts from across the sector. To make the local residents take pride in their folk art at the same time, it was felt to be a part of our country's national. On the same occasion, please be kind enough to please tell the court official blessing to the show manager about the culture and history of Thailand, which has both original art and applied art, Thailand, such as sing, using music and music literature, Thailand International shows in the history of theatre music, etc. Make the audience for both enjoyment and knowledge of the culture and history of the nation and the nation.Royal patronage shape maskโขน เป็นการแสดงของหลวง ถือเป็นมหรสส่วนพระองค์ของพระมหากษัตริย์ นอกจากจะมีไว้เป็นเครื่องสำราญพระราชหฤทัยแล้ว ยังเป็นการบำรุงศิลปะของชาติให้ยั่งยืนสืบไปด้วย โขนเป็นศิลปะเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ประกอบด้วยการเต้นการรำที่มีแบบแผนเป็นมาตรฐานผู้แสดงสวมหัวโขนที่มีสีและ ลักษณะเฉพาะตัวละคร ยกเว้นตัวละครบางตัวไม่สวมหัวโขน เช่น เทวดา มนุษย์ และฤาษี เป็นต้น เรื่องที่แสดงคือ รามเกียรติ์ ซึ่งเป็นวรณคดีที่สืบทอดมาตั้แต่สมัยอยุธยา คือ รามเกียรติ์ คำฉันท์ รามเกียรติ์คำพากย์ และบทละครเรื่องรามเกียรติ์ครั้งกรุงเก่า มาถึงสมัยรัตนโกสินทร์มีบทพระราชนิพนธ์หลายฉบับที่นิยมนำมาเล่นโขน เช่น บทละครเรื่องรามเกียรติ์ พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช บทละครเรื่องรามเกียรติ์ พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย บทพากย์และบทร้องพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และบทโขนที่กรมศิลปากรปรับปรุงขึ้นใหม่ตามแนวบทพระราชนิพนธ์ต่างๆ ดนตรีประกอบการแสดงใช้วงปี่พาทย์ไม้แข็ง มีการพากย์ เจรจา และขับร้องแทนบทพูดของผู้แสดงซึ่งสวมหัวโขน ร่ายรำตามบท นายธนิต อยู่โพธิ์ อดีตอธิบดีกรมศิลปากรได้อธิบายไว้ในหนังสือ "โขน" ว่า การแสดงโขนนั้นคงจะประยุกต์มาจากการแสดงโบราณของไทยหลายอย่างคือ การเต้นแบบการเชิดหนังใหญ่ การต่อสู้แบบกระบี่กระบอง และการร่ายรำแบบละคร โขนมีหลายประเภท เช่น โขนกลางแปลง โขนโรงนอกหรือโขนนั่วราว โขนโรงใน โขนหน้าจอ และโขนฉาก ปัจจุบันนิยมแสดงโขนกลางแปลง โขนหน้าจอซึ่งปลูกโรงชั่วคราวสำหรับการแสดง และโขนฉากซึ่งแสดงในโรงละครตั้ง ต่สมัยอยุธยาเป็นต้นมา มีการแสดงโขนในโอกาสงานพระราชพิธีสำคัญๆ เช่น พระราชพิธีบรมราชาภิเษก งานสมโภชพระนคร งานสมโภชพระอาราม งานพระเมรุ เป็นต้น พระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ทรงทะนุบำรุงศิลปะการแสดงโขน โดยโปรดให้มีการฝึกหัดโขนหลวงไว้ประจำราชสำนักสืบทอดมาจนถึงสมัยรัตน โกสินทร์ การแสดงโขนเจริญรุ่งเรืองที่สุดในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่ หัว พระองค์ทรงตั้งโรงเรียนฝึกหัดโขน ละคร และดนตรีปี่พาทย์ขึ้นโดยเฉพาะในกรมมหรสพ ซึ่งต่อมาคือโรงเรียนพรานหลวง และยุบเลิกไปในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ต่อมากิจการกรมมหรสพได้โอนมาอยู่กรมศิลปากร เมื่อกรมศิลปากรตั้งโรงเรียนนาฎศิลปขึ้น จึงรวบรวมครูโขนซึ่งกระจัดการจายแยกย้ายไปประกอบอาชีพอื่นมาเป็นครูสอนโขน ตามแบบแผนโขนหลวง และฟื้นฟูการแสดงโขนขึ้นใหม่ จัดแสดงให้ประชาชนชมเป็นครั้งแรก ณ โรงละครศิลปากร เมื่อ พ.ศ. 2495 ผลปรากฎว่าเป็นที่สนใจชาวไทย และชาวต่
การแปล กรุณารอสักครู่..