ระยะก่อกำเนิดของโลกาภิวัฒน์เกิดขึ้น

ระยะก่อกำเนิดของโลกาภิวัฒน์เกิดขึ้นและดำรงอยู่ในทวีปยุโรปจากช่วงต้นศตวรรษที่ 15 ถึง กลางศตวรรษที่ 18 ในระยะนี้มีการเกิดขึ้นและการเติบโตของประเทศต่างๆในยุโรปในลักษณะที่เป็น “รัฐชาติ”ขึ้นมาทดแทนระบอบศักดินาสวามิภักดิ์ (feudalism)แบบเก่า มีการขยายตัวทางการค้าและระบบเศรษฐกิจแบบเงินตรา มีกระบวนการฟื้นฟูศิลปะวิทยาการทำให้เกิดการพัฒนาทางปัญญา มีการเกิดขึ้นของความคิดแบบใหม่เกี่ยวกับมนุษยชาติ การเกิดระบบคิดแบบวิทยาศาสตร์ซึ่งมีการนำเสนอสิ่งที่เป็นศูนย์กลางจักรวาลขึ้นมาใหม่ จากเดิมที่มองว่าโลกเป็นศูนย์กลางจักรวาลก็ถูกท้าทายด้วย “ทฤษฎีดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางจักรวาล” และมีการเขียนวรรณกรรมในรูปแบบและเนื้อหาใหม่ขึ้นมา สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นพร้อมกับความเสื่อมถอยของอำนาจครอบงำศาสนจักรคาทอลิก และมีการปฏิรูปศาสนาทำให้เกิดลัทธิใหม่ในศาสนาคริสต์ขึ้นมาส่งผลให้ความเป็นสามัญการ(generalization)ของความเชื่อทางศาสนาแบบคาทอลิกลดอิทธิพลลงไป

ระยะที่สองเป็นระยะเริ่มการพัฒนา ดำรงอยู่ในยุโรประหว่างกลางศวรรตที่ 18 ถึงปลายศวรรตที่ 19 สิ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนในระยะนี้คือ ความคิดเกี่ยวกับความเหมือนและความเป็นหนึ่งเดียวของรัฐ เกิดการตกผลึกของมโนทัศน์เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างเป็นทางการขึ้นมา เกิดจินตภาพเกี่ยวกับลักษณะมาตรฐานของปัจเจกชนที่เป็นพลเมือง และมีแนวคิดที่เป็นรูปธรรมเกี่ยวกับมนุษยชาติมากยิ่งขึ้น มีการให้ความสำคัญและเห็นคุณค่าของมนุษย์มากขึ้น เน้นความมีเสรีภาพในการคิดของมนุษย์ รวมทั้งการเกิดขึ้นของทฤษฎีประชาธิปไตย และทฤษฎีการปฏิวัติสังคม ซึ่งมีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงของหลายประเทศในโลก ในด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเกิดการเพิ่มขึ้นของการประชุม ข้อตกลง ระเบียบ การสื่อสาร และองค์การระหว่างประเทศ และเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาสิทธิในการเข้าไปเป็นสมาชิกประชาคมโลกของประเทศที่ไม่อยู่ในทวีปยุโรป การถกเถียงระหว่างความคิดแบบลัทธิชาตินิยม และสากลนิยมเป็นไปอย่างเข้มข้น ยิ่งกว่านั้นการปฏิวัติอุตสาหกรรมส่งผลให้เกิดการจัดรากฐานโครงสร้างใหม่เกี่ยวกับกระบวนการผลิตและการคมนาคม

ระยะที่สามการโจนทะยาน ดำรงอยู่ระหว่างช่วงปลายศตวรรษที่ 19 (1870) ถึงต้นศตวรรษที่ 20 (1920) มีการพัฒนาของสังคมประชาชาติ เกิดแนวคิดเกี่ยวกับลักษณะสากลของปัจเจกบุคคล (แต่มีพื้นฐานจากลักษณะของเพศชาย) มีการขยายตัวของแนวคิดที่ทำให้มนุษยชาติเป็นหนึ่งเดียว แนวความคิดเกี่ยวกับ ”สังคมระหว่างประเทศ” เพียงหนึ่งเดียวเกิดขึ้น แนวคิดนี้มีลักษณะที่ใช้ยุโรปเป็นศูนย์กลาง และมีประเทศที่ไม่ใช่ยุโรปเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่ถูกนับรวมเข้ามาอยู่ในสังคมระหว่างประเทศ ความคิดนี้ถูกแพร่กระจายผ่าน “สถาบันรัฐชาติ” ซึ่งเป็นสถาบันที่เกิดขึ้นและพัฒนาในทวีปยุโรป ยิ่งกว่านั้นก็เกิดการเพิ่มขึ้นทั้งด้านปริมาณและความเร่งของรูปแบบของการสื่อสารในระดับโลก อย่างไรก็ตามมีประเทศจำนวนมากไม่ถูกนับรวมเข้ามาในกระบวนการนี้ ในยุคนี้มีการพัฒนาของการแข่งขันในระดับโลกหลายด้านขึ้นมา เช่น การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก และ รางวัลโนเบล

ระยะที่สี่ การต่อสู้เพื่ออำนาจนำ ดำรงอยู่ระหว่างกลางทศวรรษ 1920s ถึงปลาย ทศวรรษ 1960s ซึ่งมีสภาวะความขัดแย้งและสงครามอย่างเข้มข้นเกิดขึ้นเพื่อช่วงชิงอำนาจนำในระดับโลก โดยเฉพาะสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งมีความขัดแย้งเกี่ยวแนวคิด “ความเป็นสมัยใหม่” ของสังคมโลกระหว่างฝ่ายพันธมิตร (allies) กับฝ่ายอักษะ (axis) จากนั้นก็มีการช่วงชิงอำนาจนำระหว่างแนวคิดทุนนิยม กับสังคมนิยม อันเกิดเป็นภาวะของสงครามเย็น และมีภาวะของการคุกคามของความเป็นไปได้ในการเกิดสงครามโลกครั้งที่สาม ในยุคนี้มีการจัดตั้งสันนิบาติชาติแต่ตั้งได้ไม่นานก็ถูกยกเลิกไป จากนั้นก็ตั้งสหประชาชาติขึ้นมาแทน และมีการสถาปนาหลักการของความเป็นอิสระของชาติขึ้นมาใช้เป็นหลักการสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ในระยะนี้ของกระบวนการโลกาภิวัตน์ ธรรมชาติและความคาดหวังของมนุษย์ได้รับอิทธิพลจากความหายนะของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของพรรคนาซี และผลกระทบจากความหายนะของระเบิดปรมาณูที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเอาไปใช้กับประเทศญี่ปุ่นช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง

ระยะที่ห้า ระยะความไม่แน่นอน เริ่มต้นในปลายทศวรรษ 1960s และเริ่มแสดงแนวโน้มของวิกฤติการณ์ในช่วงต้นทศวรรษ 1990s เป็นต้นมา ระยะนี้มีการเน้นจิตสำนึกระดับโลก การส่งมนุษย์ไปดวงจันทร์ มีการเน้นค่านิยมหลังวัตถุนิยม (post-materialist values) เช่น การให้ความสำคัญกับความรู้สึกเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย เสรีภาพของการแสดงออกทางความคิดเห็น และการพึงพอใจในการพัฒนาปัญญาและสุนทรียภาพ

สงครามเย็นได้สิ้นสุดลงในยุคนี้และได้สร้างปัญหาเกี่ยวกับสิทธิและการเข้าถึงความรู้และอาวุธนิวเคลียร์ สถาบันระดับโลกและขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคมขยายตัวเพิ่มขึ้น มีการให้ความสำคัญและสนใจในการสื่อสารระดับโลกอย่างเข้มข้น สังคมมีการเผชิญกับปัญหาของความแตกต่างทางวัฒนธรรมและเชื้อชาติมากขึ้น แนวคิดเกี่ยวกับปัจเจกชนมีความซับซ้อนมากขึ้นตามลักษณะของเพศสภาพ ชาติพันธุ์ และเชื้อชาติ สิทธิมนุษยชนกลายเป็นประเด็นในระดับโลก ระบบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมีความยืดหยุ่นมากขึ้น และสิ้นสุดของความเป็นขั้วขัดแย้ง ความตระหนักเกี่ยวกับมนุษยชาติในฐานะที่เป็นเผ่าพันธุ์เดียวกันขยายตัวออกไป ผ่านการเคลื่อนไหวของขบวนการสิ่งแวดล้อม ความสนใจเกี่ยวกับแนวคิดประชาสังคมโลกและพลเมืองโลกเกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง มีการผนึกแน่นของระบบการสื่อสารระดับโลกที่เชื่อมโยงเป็นเครือข่าย ขณะเดียวกันก็เกิดขบวนการเคลื่อนไหวในการลดทอนโลกาภิวัฒน์แบบเดิมและการจัดระบบโลกาภิวัฒน์ใหม่จากกลุ่มผู้นับถือศาสนาอิสลามบางกลุ่มขึ้นมา

แนวคิดเกี่ยวกับขั้นตอนของโลกาภิวัฒน์ของ Robertson เป็นการแสดงลักษณะสำคัญของแต่ละยุคสมัยที่ส่งผลต่อชุมชนนานาชาติ จะเห็นได้ว่าในสี่ยุคแรกนั้นลักษณะของการเป็นโลกภิวัฒน์ถูกกำหนดมาจากความระบบคิด ความเชื่อ ค่านิยม และวัฒนธรรมของสังคมและการเมืองในประเทศยุโรปทั้งสิ้น จากนั้นก็มีการแพร่ขยายออกไปสู่ส่วนอื่นๆของโลกโดยใช้ลัทธิการล่าอาณานิคมซึ่งอาศัยความเหนือกว่าของกำลังอาวุธและกระบวนการผลิตด้านอ

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

Disgrace to good construction of phase tantayaporn and existence in Europe from the early 19th century to mid-18th century 15 in this period is the emergence and growth of different countries in Europe in such a way that a "nation State" regime replacement sakdina to surrender. (Feudalism) legacy With the expansion of trade and the foreign economy Art restoration is the process of causing the intellectual development is the emergence of new ideas about humanity. The emergence of scientific thinking system which has been proposed as the center of the universe. A look at how the Earth is the center of the universe, it is a challenge. "The Sun is the center of universe theory" and have written literature in a new format and content. These things happen with the Catholic Church and the decline of power, dominance is the Reformation caused the new doctrine in Christianity was brought up as a result of ordinary (generalization) of the Catholic religious beliefs to influence reduction. ระยะที่สองเป็นระยะเริ่มการพัฒนา ดำรงอยู่ในยุโรประหว่างกลางศวรรตที่ 18 ถึงปลายศวรรตที่ 19 สิ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนในระยะนี้คือ ความคิดเกี่ยวกับความเหมือนและความเป็นหนึ่งเดียวของรัฐ เกิดการตกผลึกของมโนทัศน์เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างเป็นทางการขึ้นมา เกิดจินตภาพเกี่ยวกับลักษณะมาตรฐานของปัจเจกชนที่เป็นพลเมือง และมีแนวคิดที่เป็นรูปธรรมเกี่ยวกับมนุษยชาติมากยิ่งขึ้น มีการให้ความสำคัญและเห็นคุณค่าของมนุษย์มากขึ้น เน้นความมีเสรีภาพในการคิดของมนุษย์ รวมทั้งการเกิดขึ้นของทฤษฎีประชาธิปไตย และทฤษฎีการปฏิวัติสังคม ซึ่งมีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงของหลายประเทศในโลก ในด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเกิดการเพิ่มขึ้นของการประชุม ข้อตกลง ระเบียบ การสื่อสาร และองค์การระหว่างประเทศ และเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาสิทธิในการเข้าไปเป็นสมาชิกประชาคมโลกของประเทศที่ไม่อยู่ในทวีปยุโรป การถกเถียงระหว่างความคิดแบบลัทธิชาตินิยม และสากลนิยมเป็นไปอย่างเข้มข้น ยิ่งกว่านั้นการปฏิวัติอุตสาหกรรมส่งผลให้เกิดการจัดรากฐานโครงสร้างใหม่เกี่ยวกับกระบวนการผลิตและการคมนาคม ระยะที่สามการโจนทะยาน ดำรงอยู่ระหว่างช่วงปลายศตวรรษที่ 19 (1870) ถึงต้นศตวรรษที่ 20 (1920) มีการพัฒนาของสังคมประชาชาติ เกิดแนวคิดเกี่ยวกับลักษณะสากลของปัจเจกบุคคล (แต่มีพื้นฐานจากลักษณะของเพศชาย) มีการขยายตัวของแนวคิดที่ทำให้มนุษยชาติเป็นหนึ่งเดียว แนวความคิดเกี่ยวกับ ”สังคมระหว่างประเทศ” เพียงหนึ่งเดียวเกิดขึ้น แนวคิดนี้มีลักษณะที่ใช้ยุโรปเป็นศูนย์กลาง และมีประเทศที่ไม่ใช่ยุโรปเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่ถูกนับรวมเข้ามาอยู่ในสังคมระหว่างประเทศ ความคิดนี้ถูกแพร่กระจายผ่าน “สถาบันรัฐชาติ” ซึ่งเป็นสถาบันที่เกิดขึ้นและพัฒนาในทวีปยุโรป ยิ่งกว่านั้นก็เกิดการเพิ่มขึ้นทั้งด้านปริมาณและความเร่งของรูปแบบของการสื่อสารในระดับโลก อย่างไรก็ตามมีประเทศจำนวนมากไม่ถูกนับรวมเข้ามาในกระบวนการนี้ ในยุคนี้มีการพัฒนาของการแข่งขันในระดับโลกหลายด้านขึ้นมา เช่น การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก และ รางวัลโนเบล
ระยะที่สี่ การต่อสู้เพื่ออำนาจนำ ดำรงอยู่ระหว่างกลางทศวรรษ 1920s ถึงปลาย ทศวรรษ 1960s ซึ่งมีสภาวะความขัดแย้งและสงครามอย่างเข้มข้นเกิดขึ้นเพื่อช่วงชิงอำนาจนำในระดับโลก โดยเฉพาะสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งมีความขัดแย้งเกี่ยวแนวคิด “ความเป็นสมัยใหม่” ของสังคมโลกระหว่างฝ่ายพันธมิตร (allies) กับฝ่ายอักษะ (axis) จากนั้นก็มีการช่วงชิงอำนาจนำระหว่างแนวคิดทุนนิยม กับสังคมนิยม อันเกิดเป็นภาวะของสงครามเย็น และมีภาวะของการคุกคามของความเป็นไปได้ในการเกิดสงครามโลกครั้งที่สาม ในยุคนี้มีการจัดตั้งสันนิบาติชาติแต่ตั้งได้ไม่นานก็ถูกยกเลิกไป จากนั้นก็ตั้งสหประชาชาติขึ้นมาแทน และมีการสถาปนาหลักการของความเป็นอิสระของชาติขึ้นมาใช้เป็นหลักการสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ในระยะนี้ของกระบวนการโลกาภิวัตน์ ธรรมชาติและความคาดหวังของมนุษย์ได้รับอิทธิพลจากความหายนะของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของพรรคนาซี และผลกระทบจากความหายนะของระเบิดปรมาณูที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเอาไปใช้กับประเทศญี่ปุ่นช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง

ระยะที่ห้า ระยะความไม่แน่นอน เริ่มต้นในปลายทศวรรษ 1960s และเริ่มแสดงแนวโน้มของวิกฤติการณ์ในช่วงต้นทศวรรษ 1990s เป็นต้นมา ระยะนี้มีการเน้นจิตสำนึกระดับโลก การส่งมนุษย์ไปดวงจันทร์ มีการเน้นค่านิยมหลังวัตถุนิยม (post-materialist values) เช่น การให้ความสำคัญกับความรู้สึกเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย เสรีภาพของการแสดงออกทางความคิดเห็น และการพึงพอใจในการพัฒนาปัญญาและสุนทรียภาพ

สงครามเย็นได้สิ้นสุดลงในยุคนี้และได้สร้างปัญหาเกี่ยวกับสิทธิและการเข้าถึงความรู้และอาวุธนิวเคลียร์ สถาบันระดับโลกและขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคมขยายตัวเพิ่มขึ้น มีการให้ความสำคัญและสนใจในการสื่อสารระดับโลกอย่างเข้มข้น สังคมมีการเผชิญกับปัญหาของความแตกต่างทางวัฒนธรรมและเชื้อชาติมากขึ้น แนวคิดเกี่ยวกับปัจเจกชนมีความซับซ้อนมากขึ้นตามลักษณะของเพศสภาพ ชาติพันธุ์ และเชื้อชาติ สิทธิมนุษยชนกลายเป็นประเด็นในระดับโลก ระบบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมีความยืดหยุ่นมากขึ้น และสิ้นสุดของความเป็นขั้วขัดแย้ง ความตระหนักเกี่ยวกับมนุษยชาติในฐานะที่เป็นเผ่าพันธุ์เดียวกันขยายตัวออกไป ผ่านการเคลื่อนไหวของขบวนการสิ่งแวดล้อม ความสนใจเกี่ยวกับแนวคิดประชาสังคมโลกและพลเมืองโลกเกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง มีการผนึกแน่นของระบบการสื่อสารระดับโลกที่เชื่อมโยงเป็นเครือข่าย ขณะเดียวกันก็เกิดขบวนการเคลื่อนไหวในการลดทอนโลกาภิวัฒน์แบบเดิมและการจัดระบบโลกาภิวัฒน์ใหม่จากกลุ่มผู้นับถือศาสนาอิสลามบางกลุ่มขึ้นมา

แนวคิดเกี่ยวกับขั้นตอนของโลกาภิวัฒน์ของ Robertson เป็นการแสดงลักษณะสำคัญของแต่ละยุคสมัยที่ส่งผลต่อชุมชนนานาชาติ จะเห็นได้ว่าในสี่ยุคแรกนั้นลักษณะของการเป็นโลกภิวัฒน์ถูกกำหนดมาจากความระบบคิด ความเชื่อ ค่านิยม และวัฒนธรรมของสังคมและการเมืองในประเทศยุโรปทั้งสิ้น จากนั้นก็มีการแพร่ขยายออกไปสู่ส่วนอื่นๆของโลกโดยใช้ลัทธิการล่าอาณานิคมซึ่งอาศัยความเหนือกว่าของกำลังอาวุธและกระบวนการผลิตด้านอ

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

Long before the advent of globalization has occurred and existed in Europe from the early 15th century to the mid 18th century in this period, with the emergence and growth of European countries in a way that is. "State of the Nation" to replace the feudal allegiance. (Feudalism) Old The expansion of trade and economic exchange. The restoration process has led to the development of intellectual arts. With the emergence of new ideas about humanity. The scientists think the system that we have introduced what is central to the new universe. Earth is the center of the old view that the universe was challenged. "Sun-centered theory of the universe," and the literary forms and new content. This coincides with the decline of the dominant Catholic Church. The Reformation caused new doctrine in Christianity came as a result of the (generalization) of a Catholic religious influence reduced to a second term as the development stage. Existed in Europe since the mid to late 18th Century BC 19th Century, things have clearly changed in this period. Thinking about the similarities and unity of the state. To crystallize the concept of international relations official came up. An imaginary about the characteristics of individuals who are citizens. And have a concrete idea about humanity more. The importance and value of more human. Emphasizes the freedom of the human mind. Including the emergence of democratic theory. And the theory of social revolution Which influence the dynamics of many countries in the world. In international relations, the rise of the agreement through communication and international organizations. And the beginning of the right to enter into a global community of countries not in Europe. The debate between the idea of nationalism. And internationalism is intense. Moreover, the Industrial Revolution resulted in the foundation of a new structure on the production process and transport the third phase of Joan soar. Existed between the late 19th century (1870) to the early 20th century (1920), the development of a national society. Ideas about the universal nature of the individual. (But based on male characteristics), with the expansion of the concept of humanity as a whole. Ideas about "International society" only occurs. This concept looks at the Europe-centered. And a non-European country only to be included into the international society. This idea is spreading through. "State of the Nation", the institutions that arise and develop in Europe. Moreover, it caused an increase in both the volume and the acceleration of patterns of communication in the world. However, many countries have not been included in this process. In this era of global competition in the development of many aspects such as the Olympics and the Nobel Prize for a fourth term. The battle for the lead Existence between the mid 1920s to the late 1960s, which is a state of conflict and war intensified happen to be in the global scramble for power. The Second World War The conflict about the concept "Modernization" of the world between the Allies (allies) against the Axis (axis), then the controversy has brought the concept of capitalism and socialism caused a state of war. The condition of the threat of the possibility of World War III. In this era, with the establishment of the League of Nations but it was soon canceled. Then set up the United Nations. And a founding principle of the independence of the nation as a key principle of international relations. In this phase of the process of globalization Human nature and expectations are influenced by the Holocaust, the genocide of the Nazi party. And the impact of the devastation of the atomic bomb, the United States took to Japan during World War II Phase Five. Term uncertainty Starting in the late 1960s and started the trend of the crisis in the early 1990s, the term has focused global consciousness. Sending humans to the Moon After materialistic values ​​are highlighted. (Post-materialist values) as the key to a sense of ownership sovereignty. Freedom of expression and opinion. And the satisfaction of intellectual and aesthetic development of the Cold War has ended and this has created problems regarding the rights and access to knowledge and nuclear weapons. Global institutions and social movements grew. There is a focus and interest in global communications intensive. Society is faced with the problem of cultural and racial differences more. The concept of individual rights is further complicated by the nature of gender, race, ethnic and human rights become an issue in the world. Relations between the countries have more flexibility. And a terminal end of the conflict. Awareness about humanity as a species expand to. Through movement, the environmental movement Interest on the concept of civil society and global citizenship widespread. The seal of the global communication system that links the network. Still, perhaps the movement to reduce global legacy and the globalization of the Islamic group up ideas about the process of globalization of Robertson demonstrate important characteristics of the era that affect. The international community It can be seen that in the first quarter, the nature of the world Suksapiwat determined by a system of ideas, beliefs, values ​​and culture of society and politics in all European countries. Then it has spread to other parts of the world using the doctrine of colonialism, which relies on the superiority of the armed forces and the production process.

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

The generator of globalization occurs and existence in Europe from the early 20th century to the middle of the century 15 18 this term has the emergence and growth of various countries in Europe in a way that is.(feudalism) old. With the expansion of trade and economic system currency. A restoration process arts and Sciences in cognitive development. The emergence of new ideas about humanity.From the original look the world center of the universe is being challenged. "Heliocentric theory." And the writing of literature in the form and new content.And the reformation caused the doctrine in Christian up resulting in an ordinary (generalization) of religious belief Catholic influence to reduce
.
.The second phase is the start development. Be in Europe during the middle to late Professor Professor วรรต that 18 วรรต that 19 things have changed in this stage is clearly Thoughts about the similarity and the unity of the state.What about the standard of individual imagery is a citizen. And there is a concrete concept about humanity even more. The significance and value of human beings. Emphasize the freedom of thought of human.And theory of social revolution. Which influence the changes of many countries in the world. In international relations is the increase of the agreement regulation, communication and organizationThe debates between the idea of nationalism. And the internationalization is intensified. Moreover, the industrial revolution resulted in the foundation of new structure about the production process and transport
.
.The third phase jump to soar during the end of the century the existence 19 (1870) to early century 20 (1920). With the development of society and nation. The concept of international style of individuals. (but based on the characteristics of male).The concept of "international society", the only one occurs. This concept has the characteristic of Europe as the center. And the country is not only a small European was included in the international society"Institute of the nation-state." The Institute is formed and developed in Europe. Moreover, it has increased both the quantity and the acceleration of the form of communication in the world.In this era, with the development of global competition in many aspects, such as the Olympic Games and the Nobel Prize
.
.Fourth term struggle for power between the middle decades of the existence 1920s to the end of the decade 1960s which มีสภาวะ conflicts and wars happened to scramble the intensive power in the world. The World War II."Modernity" of the world between the Allies (allies) with the axis powers (axis), then a range of power between the concepts brought capitalism. With socialism resulting is a condition of the cold war.