2.2 the turmeric The scientific name Curcuma longa LinnaeusSubfamily ZINGIBERACEAEOther common names, turmeric, Curry (MAI). Turmeric (Central, South). Turmeric dish (Chiang Mai) Turmeric (Chiang Mai) Mint wax (Trang, South) Eye-Yo (Karen kamphaeng Phet). Flyer Alan (Karen Mae Hong Son) Min (Trang, South) Scientific classification Curcuma lonKingdom: PlantaeDivision: MagnoliophytaClass: LiliopsidaSubclass: ZingiberidaeOrder: ZingiberalesFamily: ZingiberaceaeGenus: CurcumaSpecies: C. longa Turmeric is a biennial plant in the Zingiberaceae have originated in Southeast Asia, there are underground Rhizome. The meat of turmeric yellow, dark orange arrangementOnly the fragrant leaves elongated pointed shape resembles a bouquet of leaves, bloom is the putahracsa. Rod thrust bouquets from the Middle stump out directly between a pair of the hottest white flowering. There is a yellow bar. Ornamental white petals are expected, or green.Botanical look. Turmeric is a plant. Several years of age, 30-95 cm oval underground Rhizome has a cylindrical crack branching out side 2 opposite side in yellow, Orange, Rhizome has a characteristic odor. Single leaf JAB came out the stump is arranged, overlapping picture 12-15 cm wide, lanceolate, long 30-40 cm. flower bouquet Tang quit characterizing the insertion between shank blades. Cylindrical pale yellow petals with ornamental leaves, light green or slate colored doors 3-4 round results are 3 pool.Propagation Turmeric prefers subtropical and there is moisture in the night. How to transplant the stump used a wealth of age 11-12 months, making genetic elimination verse 1-2 eye down after 7 days, the root, it will begin to sprout should be watered every day. Later, when Kamin was 9-10 months to get used to excavate. Flavored medicines and medicinal properties Turmeric's Rhizome well aroma. Be collected when the age range of 9-10 months in bacteria, fungi, Reduce inflammation and bile, driving in the volatile oil. In the turmeric with relief Abdominal pain bloating, skin tight friction point, sickness, wind driven solve rash edit diarrhea may help treat rheumatoid arthritis. Still no conclusive verificationPart used medicinally is the stump (fresh and dried). Turmeric's Rhizome in disinfection. Bacteria, fungi, Reduce inflammation and bile, driving in the volatile oil. In the turmeric with relief Abdominal pain bloating tight friction points.วิธีใช้ประโยชน์การใช้ขมิ้นชัน แก้แพ้แก้อักเสบ แผล ฝีพุพอง แมลงสัตว์กัดต่อยภายนอก โดยใช้เหง้ายาวประมาณ 2 นิ้ว ฝนกับน้ำต้มสุกทาบริเวณที่เป็น วันละ 3 ครั้ง หรือใช้ผงขมิ้นโรยทาบริเวณที่มีอาการ ผื่นคันจากแมลงสัตว์กัดต่อยได้ อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่น จุกเสียด และอาหารไม่ย่อย ทำโดยใช้เหง้าขมิ้น ล้างให้สะอาด ไม่ต้องปอกเปลือกออก หั่นเป็นชิ้นบางๆ ตากแดดจัดสัก 1-2 วัน บดให้ละเอียดผสมกับน้ำผึ้ง ปั้นเป็นเม็ดขนาดปลายนิ้วก้อย กินครั้งละ 2-3 เม็ด วันละ 3 -4 ครั้ง หลังอาหารและก่อนนอน แต่บางคนเมื่อกินยานี้แล้วแน่นจุกเสียดให้หยุดกินยานี้นอกจากโรคเกี่ยวกับท้องแล้ว ขมิ้นยังมีสรรพคุณในการบำรุงร่างกายและช่วยบำรุงตับ รักษาระบบทางเดินหายใจที่ผิดปกติ หืด ไอ เวียนศีรษะ รักษาอาการปวดและอักเสบเนื่องจากไขข้ออักเสบอีกด้วยคะเพราะว่ามีฤทธิ์ลดการอักเสบ ลดปฏิกิริยาภูมิแพ้ เพิ่มภูมิคุ้นกันให้แก่ร่างกาย มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดหนอง มีฤทธิ์ขับน้ำดีช่วยในการย่อยและป้องกันไม่ให้เป็นนิ่วในถุงน้ำดี มีฤทธิ์ขับลม และมีการศึกษาการใช้ขมิ้นชันรักษาโรคกระเพาะในประเทศไทย (โรงพยาบาลศิริราช) พบว่า ได้ผลดีพอควรคุณค่าทางอาหาร เหง้าขมิ้นพบว่ามี วิตามินเอ วิตามินซี นอกจากนั้นยังมีเกลือแร่ต่างๆอีกพอสมควร เป็นเครื่องปรุงรส แต่งสีได้ดีมาก
ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์
เหง้าขมิ้นมีสารประกอบที่สำคัญ เป็นน้ำมันหอมระเหย "เอสเซนเซียล" และในเหง้ายังมีสารสีเหลืองส้ม ที่ทำให้ขมิ้นได้ชื่อว่า Curcumin จากการทดลองพบว่าขมิ้นสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา ลดอาการอักเสบ มีฤทธิ์ในการขับน้ำได้ดี น้ำมันหอมระเหยในขมิ้นมีสรรพคุณรักษาปวดท้องเสียด ท้องอืด แน่นจุกเสียด ขมิ้นไม่มีพิษเฉียบพลัน มีความปลอดภัยสูง
การค้นพบสรรพคุณใหม่ๆ
สรรพคุณของขมิ้นชันมีอีกมากมาย เช่น การป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือด การชลอความแก่ การเป็นสารต้านมะเร็งและเนื้องอกต่างๆ พบว่า การกินอาหารผสมขมิ้นสามารถทำลายเชื้อไวรัสที่ผ่านมาทางอาหารได้ รวมทั้งสามารถป้องกันมะเร็งจากสารก่อมะเร็งต่างๆ และยังมีสรรพคุณในการต้านไวรัส โดยเฉพาะเชื้อ HIV อันเป็นต้นเหตุของโรคเอดส์ ขมิ้นชันจึงเป็นอีกความหวังหนึ่งของผู้ป่วยเอดส์
แต่การเลือกขมิ้นชันมากินนั้น หากต้องเลือกเอง ขุดเอง ควรเลือกขมิ้นชันที่ได้คุณภาพ คือ ขมิ้นชันต้องมีอายุอย่างน้อย 9-12 เดือน จึงสามารถขุดเหง้ามาทำยาได้ และต้องไม่เก็บไว้นานเกินไป จนน้ำมันหอมระเหยหายหมด และต้องไม่ลืมว่า แสงมีปฏิกิริยากับสาระสำคัญคือ เคอร์คิวมินในขมิ้นชัน จงต้องเก็บให้พ้นแสงด้วยนะคะ มิฉะนั้นจะได้รับประทานแต่การขมิ้นชันแน่ๆ ค่ะ จะเห็นได้ว่าขมิ้นชันนั้นสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทั้งทาและกินเชียวนะคะ
ในสมัยก่อนนั้น ภูมิปัญญาท้องถิ่นพื้นบ้านของไทยได้มีการนำขมิ้นมาใช้ประกอบอาหารหลายชนิด ใช้ปรุงแต่งกลิ่นและรสในอาหาร โดยเฉพาะอาหารทางภาคใต้ เช่น แกงเหลือง แกงไตปลา แกงกะหรี่ ไก่ทอดขมิ้น เป็นต้น นับเป็นความฉลาดของคนใต้ ที่หาวิธีกินขมิ้นในชีวิตประจำวัน
สำหรับสาวๆ แล้วการใช้ขมิ้นทาผิวหน้าจะทำให้ผิวหน้านุ่มนวล คนมาเลเซียและคนไทยสมัยก่อนจะใช้ขมิ้นในการอาบน้ำ ทำให้ผิวผ่องยิ่งขึ้น วิธีการอาบน้ำด้วยขมิ้นนั้น จะทาขมิ้
การแปล กรุณารอสักครู่..