เรื่องทุกอย่างเริ่มต้นจากหญิงสาวที่

เรื่องทุกอย่างเริ่มต้นจากหญิงสาวที่ชื่อ “ไซคี” เธอเป็นหญิงที่เกิดมาพร้อมกับมีใบหน้าที่งดงามจนถูกยกย่องว่าเป็นหญิงงามที่สุดในหมู่มวลมนุษย์ ผู้คนต่างมุ่งหน้ามากรีก เพื่อชมความงามของไซคี จนกระทั่งผู้คนหลงลืมที่จะบูชา บวงสรวง เทพธิดา “อะโฟรไดต์” หรือ วีนัส เทพีแห่งความงามตัวจริง จนนางเกิดความพิโรธและริษยา จึงวางแผนการร้าย โดยสั่งให้ลูกของตน คือ อีรอส หรือที่รู้จักกัน “คิวปิด” ให้ไปยิงศรกามเทพ ให้นางไซคี นั้นไปหลงรักกับชายที่อัปลักษณ์ที่สุดในโลก
กลางดึกบนโลกมนุษย์ คิวปิดย่องเข้าไป… และเอาปลายลูกศรสัมผัสที่ไซคีอย่างแผ่วเบา แต่ว่าไซคีสะดุ้งตื่นขึ้นมาพอดี ทำให้คิวปิดตกใจ จนซุ่มซ่ามถูกปลายลูกศรตนเองซะงั้น คิวปิดจึงรีบบินหนีไป โดยที่ไซคีเห็นเพียงเป็นเงาของชายหนุ่ม….หลังจากนั้นศรรักทำงานทันที ทำให้ทั้งคู่เกิดความรักขึ้นมา แต่ถึงไซคีหลงรักคิวปิด แต่นางก็ไม่รู้ว่าบุคคลที่นางหลงรักเป็นใคร หน้าตาอย่างไร และเป็นใคร จนกระทั่งพี่สาวทั้งสองอภิเษกออกเรือนไปแล้ว นางก็ยังไม่ตกลงปลงใจกับชายใดเสียที เทพพยากรณ์จึงได้ทำนายว่า เนื้อคู่ของนางเป็นอมนุษย์ และแนะนำให้นำนางไปปล่อยที่ยอดเขาแห่งหนึ่ง
คืนวันหนึ่งขณะที่ไซคีกำลังร้องไห้อย่างเดียวดายอยู่บนยอดเขาแห่งนั้น”เซฟเฟอรัส”เทพเจ้าแห่งสายลมตะวันตก ก็พัดมา และโอบอุ้มนางลงไปยังหุบเขาเบื้องล่าง ไซคีได้ตื่นขึ้น ก็ตกใจกับสิ่งที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้า วิมานที่สวยสดงดงาม เสาและบานประตูทำด้วยทองคำ อาณาบริเวณเต็มไปด้วยดอกไม้ ส่งกลิ่นหอมตลบอบอวน ทันใดนั้น นางก็ได้ยินเสียง “ยินดีต้อนรับสู่วิมาน ทุกสิ่งทุกอย่างที่เจ้าเห็น จะเป็นสมบัติของเจ้า เจ้าปรารถนาสิ่งใดก็จะสมปรารถนา” แต่ไซคีมองไม่เห็นเจ้าของเสียงเลย ตั้งแต่นั้นมา ไซคีก็อยู่ในวิมานแห่งนั้นอย่างมีความสุข โดยเจ้าของเสียงลึกลับจะมาหานางทุกค่ำคืน
จนกระทั่งวันหนึ่ง นางได้ยินเสียงพี่สาวทั้งสองที่คิดว่าน้องตนเองตกลงไปในหุบเขา มาตะโกนโหวกเหวกอยู่บนยอด ไซคีจึงขอในพาไปพบพี่สาวทั้ง 2 เมื่อพอกันไซคีก็เล่าเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นให้กับพี่สาวฟังจึงขอตามไปยังวิมานด้วย เมื่อพี่สาวทั้ง 2 เห็นความเป็นอยู่ของน้องที่สุขสบายจึงเกิดความริษยาขึ้น และได้ยุแยงตะแคงรั่วว่า .”เจ้าของเสียงลึกลับของเจ้าเป็นปิศาจบ้าง เป็นอสูรกายบ้าง เขาจึงไม่กล้าปรากฏตัวให้เจ้าเห็น” และออกอุบายให้ไซคีจุดตะเกียงดูให้เห็นดำเห็นแดงกันไปเลย!
คืนนั้น หลังจากพี่สาวทั้งสองกลับขึ้นไปแล้ว เจ้าของเสียงลึกลับก็มาตามเคย กลางดึกหลังจากเจ้าของเสียงลึกลับหลับไป ไซคีก็จุดตะเกียงน้ำมัน และไปส่องหน้าดู ปรากฏว่าเป็นคิวปิด เทพเจ้ารูปงามนั่นเอง ไซคีถึงกับตกตะลึง! เลยเผลอทำน้ำมันร้อนจากตะเกียงหยดถูกหัวไหล่คิวปิด คิวปิดตื่นขึ้นมา จึงเกิดความเสียใจอย่างมาก เขาได้กล่าวกับนางขึ้นมาว่า “ความรักมิอาจอยู่ร่วมกับความหวาดระแวง” แล้วก็บินจากไปอย่างเศร้าสร้อย
ไซคีเสียใจร้องไห้จนสลบ เมื่อฟื้นขึ้นมาก็พบว่า นางกลับขึ้นมาอยู่ที่ยอดเขาแห่งเดิม นางเที่ยวตามหาคิวปิดไปทั่ว แต่ก็ไม่พบร่องรอย หรือข่าวคราวใดๆเลย พี่สาวทั้งสอง เมื่อรู้ว่าไซคีถูกไล่กลับมาแล้วก็ดีใจ คิดครอบครองวิมานแทน จึงวิ่งไปที่ยอดเขาแห่งนั้น และตะโกนเรียกเซฟเฟอรัส พอมีลมพัดมาก็กระโดดลงไป คอหักตาย ฝ่ายไซคีผู้มี รักแท้ก็ออกตามหาคิวปิดจนมาถึงวิหารบูชาของเทพีแห่งการเกษตร ซีรีส (พี่สาวของซูส จอมเทพ) นางเห็นเมล็ดพันธุ์พืชต่างๆ กระจัดกระจายไปทั่ว จึงได้เก็บให้เป็นระเบียบเรียบร้อย และบวงสรวงเทพีซีรีส เทพีซีรีสเห็นดังนั้นก็พอใจมาก จึงพานางไปหาวีนัสเพื่อให้นางขอโทษ และปรนนิบัติรับใช้ วีนัสเกรงใจซีรีส จึงยอมยกโทษให้ แต่ก็แกล้งใช้ไซคี ให้นางคัดแยกเมล็ดพันธุ์พืชต่างๆ ซึ่งกองรวมกันอยู่มากมายให้เสร็จภายในวันเดียว
คิวปิดรู้ดังนั้นจึงให้มดมาช่วยเหลือนาง รุ่งเช้าวีนัสมาตรวจ ก็รู้ว่าจะต้องมีใครมาช่วย จึงไม่พอใจและให้นางไปนำขนแกะจากฝูงแกะอีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำมาให้ ฝูงแกะนั้นดุร้ายมาก แต่ต้นอ้อริมแม่น้ำก็ได้แนะนำไซคี ให้ไปตัดขนแกะหลังเที่ยง ซึ่งเวลานั้น แกะจะง่วง และพักผ่อนนอนหลับ
เมื่อไซคีนำขนแกะมาให้ วีนัสก็ยังไม่พอใจ มอบงานใหม่ให้ทันที คราวนี้ให้นางไปนรก เพื่อไปขอมนต์ความงามจากนรก แต่การไปลงนรกจะต้องตายก่อน ไหนจะต้องผ่านเซอร์บิรัส สุนัข 3 หัว ที่เฝ้าปากทางอีกไซคีก็คิดเช่นนั้น หนทางสู่ยมโลกคือความตาย นางจึงขึ้นไปบนหอคอย แล้วจะกระโดดลงมา ก่อนที่จะกระโดด หอคอยได้พูดกับนาง และแนะนำให้นางเดินทางไปทางทิศตะวันตก จนถึงโขดหินสีดำ จะมีถ้ำซ่อนอยู่ ให้เข้าไปในนั้น โดยนำขนมไป 2 ก้อน และอมเหรียญไว้ 2 อัน เมื่อเจอเซอร์บิรัส ก็โยนขนมให้ 1 ก้อน จากนั้นเมื่อมาถึงแม่น้ำสตีก จะพบกับแครอน คายเหรียญในปากให้ 1 เหรียญ (แครอนเป็นคนรับจ้างแจวเรือ รับคนตายข้ามแม่น้ำสตีกสู่ยมโลก โดยค่าจ้างข้ามฟากได้แก่ เหรียญในปากศพ) เมื่อพบ เพอร์เซโฟนี ขอมนต์แห่งความงามแล้ว ขากลับก็ให้เหรียญ และขนมที่เหลือแก่ แครอน และเซอร์บิรัส จะกลับมาได้อย่างปลอดภัย ทั้งนี้ ห้ามเปิดโถที่บรรจุมนต์อย่างเด็ดขาด ไซคีทำตามทุกขั้นตอน ยกเว้นประการสุดท้าย นางกลับมายังโลกมนุษย์ได้แล้ว แต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็น อยากสวยงาม นางจึงแอบเปิดโถนั้นดูกลางทาง ไม่พบโมราแต่อย่างใด พบแต่ความง่วงแห่งความตาย นางจึงล้มลงหลับไปทันที คิวปิดคอยนางอยู่นาน ไม่เห็นนางกลับมาซะที จึงออกตามหาจนพบ และเก็บความง่วงแห่งความตายเข้าไว้ในโถอย่างเดิม ไซคีจึงฟื้นขึ้นมา
คิวปิดรู้ดีว่า วีนัสจะต้องหาเรื่องกลั่นแกล้งไซคีอีก จึงรีบไปหามหาเทพ “ซูส” เพื่ออ้อนวอนให้พระองค์เกลี้ยกล่อม วีนัส ซึ่งซูสก็กรุณาทำให้ และยังให้ เฮอร์มีส (เทพเจ้าแห่งการสื่อสาร) ไปรับนางมายังวิมานเทือกเขาโอลิมปัส เพื่อประทานน้ำอมฤตให้ดื่มให้ เพื่อที่จะได้เป็นอมตะ จากนั้นทั้งคู่ก็ได้ครองรักกันตลอดมา Happy Ending ^^

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

Every story starts from a young woman named "psyche". She is a female born with beautiful face has been regarded as the most beautiful woman among mankind. Most people head to admire the beauty of the Greek psyche, until people forget to worship. The spirits, "Ahmad fro dai" or the goddess Venus. Goddess of beauty, until the real Mrs. born to envy and wrath terrorists plan their child is ordered by Eros, known as "Cupid" Cupid arrow go, Mrs. Saikhi to fall in love with the ugly man in the world.กลางดึกบนโลกมนุษย์ คิวปิดย่องเข้าไป… และเอาปลายลูกศรสัมผัสที่ไซคีอย่างแผ่วเบา แต่ว่าไซคีสะดุ้งตื่นขึ้นมาพอดี ทำให้คิวปิดตกใจ จนซุ่มซ่ามถูกปลายลูกศรตนเองซะงั้น คิวปิดจึงรีบบินหนีไป โดยที่ไซคีเห็นเพียงเป็นเงาของชายหนุ่ม….หลังจากนั้นศรรักทำงานทันที ทำให้ทั้งคู่เกิดความรักขึ้นมา แต่ถึงไซคีหลงรักคิวปิด แต่นางก็ไม่รู้ว่าบุคคลที่นางหลงรักเป็นใคร หน้าตาอย่างไร และเป็นใคร จนกระทั่งพี่สาวทั้งสองอภิเษกออกเรือนไปแล้ว นางก็ยังไม่ตกลงปลงใจกับชายใดเสียที เทพพยากรณ์จึงได้ทำนายว่า เนื้อคู่ของนางเป็นอมนุษย์ และแนะนำให้นำนางไปปล่อยที่ยอดเขาแห่งหนึ่งคืนวันหนึ่งขณะที่ไซคีกำลังร้องไห้อย่างเดียวดายอยู่บนยอดเขาแห่งนั้น”เซฟเฟอรัส”เทพเจ้าแห่งสายลมตะวันตก ก็พัดมา และโอบอุ้มนางลงไปยังหุบเขาเบื้องล่าง ไซคีได้ตื่นขึ้น ก็ตกใจกับสิ่งที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้า วิมานที่สวยสดงดงาม เสาและบานประตูทำด้วยทองคำ อาณาบริเวณเต็มไปด้วยดอกไม้ ส่งกลิ่นหอมตลบอบอวน ทันใดนั้น นางก็ได้ยินเสียง “ยินดีต้อนรับสู่วิมาน ทุกสิ่งทุกอย่างที่เจ้าเห็น จะเป็นสมบัติของเจ้า เจ้าปรารถนาสิ่งใดก็จะสมปรารถนา” แต่ไซคีมองไม่เห็นเจ้าของเสียงเลย ตั้งแต่นั้นมา ไซคีก็อยู่ในวิมานแห่งนั้นอย่างมีความสุข โดยเจ้าของเสียงลึกลับจะมาหานางทุกค่ำคืนจนกระทั่งวันหนึ่ง นางได้ยินเสียงพี่สาวทั้งสองที่คิดว่าน้องตนเองตกลงไปในหุบเขา มาตะโกนโหวกเหวกอยู่บนยอด ไซคีจึงขอในพาไปพบพี่สาวทั้ง 2 เมื่อพอกันไซคีก็เล่าเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นให้กับพี่สาวฟังจึงขอตามไปยังวิมานด้วย เมื่อพี่สาวทั้ง 2 เห็นความเป็นอยู่ของน้องที่สุขสบายจึงเกิดความริษยาขึ้น และได้ยุแยงตะแคงรั่วว่า .”เจ้าของเสียงลึกลับของเจ้าเป็นปิศาจบ้าง เป็นอสูรกายบ้าง เขาจึงไม่กล้าปรากฏตัวให้เจ้าเห็น” และออกอุบายให้ไซคีจุดตะเกียงดูให้เห็นดำเห็นแดงกันไปเลย!คืนนั้น หลังจากพี่สาวทั้งสองกลับขึ้นไปแล้ว เจ้าของเสียงลึกลับก็มาตามเคย กลางดึกหลังจากเจ้าของเสียงลึกลับหลับไป ไซคีก็จุดตะเกียงน้ำมัน และไปส่องหน้าดู ปรากฏว่าเป็นคิวปิด เทพเจ้ารูปงามนั่นเอง ไซคีถึงกับตกตะลึง! เลยเผลอทำน้ำมันร้อนจากตะเกียงหยดถูกหัวไหล่คิวปิด คิวปิดตื่นขึ้นมา จึงเกิดความเสียใจอย่างมาก เขาได้กล่าวกับนางขึ้นมาว่า “ความรักมิอาจอยู่ร่วมกับความหวาดระแวง” แล้วก็บินจากไปอย่างเศร้าสร้อยไซคีเสียใจร้องไห้จนสลบ เมื่อฟื้นขึ้นมาก็พบว่า นางกลับขึ้นมาอยู่ที่ยอดเขาแห่งเดิม นางเที่ยวตามหาคิวปิดไปทั่ว แต่ก็ไม่พบร่องรอย หรือข่าวคราวใดๆเลย พี่สาวทั้งสอง เมื่อรู้ว่าไซคีถูกไล่กลับมาแล้วก็ดีใจ คิดครอบครองวิมานแทน จึงวิ่งไปที่ยอดเขาแห่งนั้น และตะโกนเรียกเซฟเฟอรัส พอมีลมพัดมาก็กระโดดลงไป คอหักตาย ฝ่ายไซคีผู้มี รักแท้ก็ออกตามหาคิวปิดจนมาถึงวิหารบูชาของเทพีแห่งการเกษตร ซีรีส (พี่สาวของซูส จอมเทพ) นางเห็นเมล็ดพันธุ์พืชต่างๆ กระจัดกระจายไปทั่ว จึงได้เก็บให้เป็นระเบียบเรียบร้อย และบวงสรวงเทพีซีรีส เทพีซีรีสเห็นดังนั้นก็พอใจมาก จึงพานางไปหาวีนัสเพื่อให้นางขอโทษ และปรนนิบัติรับใช้ วีนัสเกรงใจซีรีส จึงยอมยกโทษให้ แต่ก็แกล้งใช้ไซคี ให้นางคัดแยกเมล็ดพันธุ์พืชต่างๆ ซึ่งกองรวมกันอยู่มากมายให้เสร็จภายในวันเดียวคิวปิดรู้ดังนั้นจึงให้มดมาช่วยเหลือนาง รุ่งเช้าวีนัสมาตรวจ ก็รู้ว่าจะต้องมีใครมาช่วย จึงไม่พอใจและให้นางไปนำขนแกะจากฝูงแกะอีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำมาให้ ฝูงแกะนั้นดุร้ายมาก แต่ต้นอ้อริมแม่น้ำก็ได้แนะนำไซคี ให้ไปตัดขนแกะหลังเที่ยง ซึ่งเวลานั้น แกะจะง่วง และพักผ่อนนอนหลับ
เมื่อไซคีนำขนแกะมาให้ วีนัสก็ยังไม่พอใจ มอบงานใหม่ให้ทันที คราวนี้ให้นางไปนรก เพื่อไปขอมนต์ความงามจากนรก แต่การไปลงนรกจะต้องตายก่อน ไหนจะต้องผ่านเซอร์บิรัส สุนัข 3 หัว ที่เฝ้าปากทางอีกไซคีก็คิดเช่นนั้น หนทางสู่ยมโลกคือความตาย นางจึงขึ้นไปบนหอคอย แล้วจะกระโดดลงมา ก่อนที่จะกระโดด หอคอยได้พูดกับนาง และแนะนำให้นางเดินทางไปทางทิศตะวันตก จนถึงโขดหินสีดำ จะมีถ้ำซ่อนอยู่ ให้เข้าไปในนั้น โดยนำขนมไป 2 ก้อน และอมเหรียญไว้ 2 อัน เมื่อเจอเซอร์บิรัส ก็โยนขนมให้ 1 ก้อน จากนั้นเมื่อมาถึงแม่น้ำสตีก จะพบกับแครอน คายเหรียญในปากให้ 1 เหรียญ (แครอนเป็นคนรับจ้างแจวเรือ รับคนตายข้ามแม่น้ำสตีกสู่ยมโลก โดยค่าจ้างข้ามฟากได้แก่ เหรียญในปากศพ) เมื่อพบ เพอร์เซโฟนี ขอมนต์แห่งความงามแล้ว ขากลับก็ให้เหรียญ และขนมที่เหลือแก่ แครอน และเซอร์บิรัส จะกลับมาได้อย่างปลอดภัย ทั้งนี้ ห้ามเปิดโถที่บรรจุมนต์อย่างเด็ดขาด ไซคีทำตามทุกขั้นตอน ยกเว้นประการสุดท้าย นางกลับมายังโลกมนุษย์ได้แล้ว แต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็น อยากสวยงาม นางจึงแอบเปิดโถนั้นดูกลางทาง ไม่พบโมราแต่อย่างใด พบแต่ความง่วงแห่งความตาย นางจึงล้มลงหลับไปทันที คิวปิดคอยนางอยู่นาน ไม่เห็นนางกลับมาซะที จึงออกตามหาจนพบ และเก็บความง่วงแห่งความตายเข้าไว้ในโถอย่างเดิม ไซคีจึงฟื้นขึ้นมา
คิวปิดรู้ดีว่า วีนัสจะต้องหาเรื่องกลั่นแกล้งไซคีอีก จึงรีบไปหามหาเทพ “ซูส” เพื่ออ้อนวอนให้พระองค์เกลี้ยกล่อม วีนัส ซึ่งซูสก็กรุณาทำให้ และยังให้ เฮอร์มีส (เทพเจ้าแห่งการสื่อสาร) ไปรับนางมายังวิมานเทือกเขาโอลิมปัส เพื่อประทานน้ำอมฤตให้ดื่มให้ เพื่อที่จะได้เป็นอมตะ จากนั้นทั้งคู่ก็ได้ครองรักกันตลอดมา Happy Ending ^^