วัยรุ่นกับโทรศัพท์มือถือในยุคสมัยให

วัยรุ่นกับโทรศัพท์มือถือ
ในยุคสมัยใหม่หรือบางคนก็กล่าวว่าเป็นยุคหลังสมัยใหม่ไปเรียบร้อยเมื่อนมนานแล้ว โทรศัพท์มือถือกลายเป็นวัตถุยอดนิยมที่เข้ามามีความสัมพันธ์กับมนุษย์อยู่เป็นอย่างดาษดื่น เพื่อสร้างการติดต่อสื่อสารที่รวดเร็วให้สอดคล้องกับระบบเวลาแบบอุตสาหกรรมและการไล่ทันแข่งขันกับผู้อื่น หรือการเอาชีวิตของมนุษย์ให้อยู่รอดในโลกนี้อย่างชาญฉลาดให้เท่าทันกับความเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกอย่างรวดเร็ว
แต่เราจะทราบได้อย่างไรว่าโทรศัพท์มือถือ ในฐานะวัตถุแห่งความทันสมัยนั้น แต่ละคนย่อมให้ความหมายที่แตกต่างกันและการให้เหตุผลของการครอบครองโทรศัพท์มือถือที่แตกต่างหลากหลาย แต่คนเรามักจะใช้สามัญสำนึกแบบตื้นเขินเข้ามาตัดสินคุณค่าของการถือวัตถุหรือการกระทำต่างๆ ด้วยการใช้ความคิดที่คับแคบกันอยู่หรือการคิดแบบตายด้าน จนทำให้เกิดการสร้างไม่ความเข้าใจระหว่างความสัมพันธ์ต่อกันและกัน จนนำมาสู่ปัญหามากมาย
สำหรับในสังคมไทยยุคสมัยใหม่ วัยรุ่นกับโทรศัพท์มือถือเป็นความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสิ่งของที่สามารถตีความเหตุผลและความรู้สึก เพื่อก่อรูปความเข้าใจกับความสัมพันธ์เชิงวัตถุนี้ได้ เราควรจะใช้ระบบความรู้และความคิดอยู่เป็นอย่างคณานับ แม้ว่าประเด็นนี้แลดูอาจจะเป็นเรื่องธรรมดาก็ตาม แต่ความธรรมดาหรือความสามัญ ก็ใช่ว่าคนจะเข้าใจกับสิ่งเหล่านี้ได้อย่างรอบด้านและถูกต้องอยู่อย่างเสมอไป
เรามิควรดัดจริตตามก้นความคิดแบบผู้ใหญ่ที่มีการศึกษาหรือไม่มีการศึกษาหลายๆท่าน (ไม่ใช่ทุกคน และมิได้หมายถึงว่าคนมีการศึกษาในความหมายที่กล่าวว่าจะคิดเป็นเสมอไป) กล่าวไว้ว่า การซื้อวัตถุโทรศัพท์มือถือให้กับเด็กวัยรุ่นนั้นหรือเด็กตัวเล็กๆที่ยังไม่ใช่วัยรุ่นก็ตามนั้นเป็นการสร้างนิสัยแก่เด็กให้เป็นพวกฟุ่มเฟือย หรือจะเรียกให้เป็นวิชาการที่สวยงาม คือ ลัทธิบริโภคนิยมกำลังเข้าครอบงำอยู่ทุกอณูของชีวิตวัยรุ่นอยู่ ทำไมเขามองแบบนั้น? เพราะว่า หลักการง่ายๆที่สุด คือ พวกเด็กวัยรุ่นเป็นกลุ่มคนที่ยังไม่มีรายได้เป็นของตัวเอง จะกล่าวให้ดีก็ควรกล่าวว่าพวกเด็กเมื่อวานซืนยังแบมือของตังค์ผู้ปกครองอยู่นั่นเอง
นั่นกลายเป็นเหตุผลหลักๆที่สำคัญของการกล่าวอ้างเพื่อนิยมวาจาแบบผักชีเพื่อให้ตนดูดีและรอดตัวไปเพียงเท่านั้นเอง แต่เหตุไฉนเล่าที่ผู้ใหญ่กลับปากไม่ตรงกับใจเสียอย่างงั้น วาจาที่เอื้อนออกมาก็ดูงามที แต่สุดท้ายแล้ว พวกท่านทั้งหลายกลับจำต้องยอมแพ้พ่ายลัทธิบริโภคนิยม เพราะอะไรหรือ? ก็เพราะว่า ถ้าจะสรุปเอาให้ดูดี แต่ก็มิใช่คำตอบสำเร็จรูป ก็ควรกล่าวว่าสังคมไทยมีความสัมพันธ์เชิงอำนาจที่ไม่เท่าเทียมกัน จะเอาหน้าให้รอหรือจะเร่งปลูกผักชีทั้งที ก็สมาทานทุกอย่างที่เห็นว่าเป็นของชั้นสูง อันเข้าถึงได้ยากเข้ามาครอบครอง แต่ทุนนิยมกลับฉลาดเฉลียวที่ทำให้สินค้าของพวกเขาเข้าได้ทุกชนชั้นอาชีพ แม้ว่าสังคมโลกหรือสังคมไทยก็ตามยังดำรงชนชั้นอยู่มากก็ตาม
เราอาจจะมองผิดไปที่เห็นบริโภคนิยมดูดกลืนมนุษย์ให้ตกเป็นทาสของลัทธินี้เข้าทุกที แต่จะทำอย่างไรได้เมื่อคนเริ่มรู้จักการติดต่อสื่อสารกันมากขึ้น จะทำทุกอย่างเพื่อให้เท่าทันกับเวลาแบบใหม่ที่เป็นอุตสาหกรรมที่เน้นการมองเวลาเป็นเชิงก้าวหน้า การนับถอยหลัง เพื่อเป้าหมายความสำเร็จที่เติบใหญ่กว่าเดิม
ดังนั้น วัยรุ่นก็เช่นกันที่มีโทรศัพท์มือถือนั้น ก็มีผู้ปกครองที่ทำงานจนหลังอาน ไม่มีเวลาให้ลูกหลานเหมือนสมัยเก่าก่อน เมื่อเป็นเช่นนี้ การทดแทนความรักก็ถูกสื่อด้วยการใช้วัตถุสื่อเป็นสำคัญ หรือถ้าจะกล่าวให้ดี พ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กวัยรุ่นทั้งหลาย (หรือแม้แต่เด็กตัวเล็กๆที่ยังกำลังย่างเข้าสู่วัยรุ่นหรือยังเป็นเด็กเมื่อวานซืน) กลัวบุตรหลายของตนจะน้อยหน้ากว่าเพื่อนของเด็ก กลัวเด็กน้อยใจ กระจองอแงและแล้วนั้นพวกผู้ใหญ่ทั้งหลายก็ทนความไม่เท่าเทียมอยู่ไม่ไหวนั้นเอง จึงตอบแทนด้วยการซื้อโทรศัพท์มือถือให้ลูกใช้กันอย่างาดาษดื่น
ตัวอย่างของการเห็นและเข้าใจวัยรุ่นกับโทรศัทท์มือถือ เช่นว่า เด็กวัยรุ่นยุคนี้เรียนหนังสือกันจนจะอาเจียน ไหนจะทำงาน ทำการบ้าน ไหนจะสอบจนตาแทบลาย เวลาไม่เคยเว้นว่างให้เขามีพื้นที่และเวลาเข้าผูกพันอยู่กับความสดใสมากนัก นี่คือ เด็กเรียน ส่วนเด็กไม่เรียนก็จะสดใสสนุกสนานมากกว่าการจริงจังกว่าการเรียน ไม่ว่าจะจริงจังหรือจะสดใส อารมณ์ใดก็ลงเอยด้วยหยิบมือถือกดเข้าไปหาเพื่อน ให้ทำงานให้เสร็จ เร่งงานการบ้านที่อาจารย์สั่งให้เสร็จโดยไว หรือมีปัญหากับแฟนหรือกับผองเพื่อน เด็กหลายคนกลัวความอาวุโส ก็โทรคุยกับเพื่อนนั้นแหละ แล้วไง ก็ให้เรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของเขานั้นไม่ถูกกดทับจนอัดความเครียดให้แน่นหนักและโทรศัพท์มือถือก็ช่วยผ่อนคลายภาระการงานหรือชีวิตส่วนใหญ่ของเด็กวัยรุ่นหลายประการ
จากตัวอย่างข้างต้นที่กล่าวไป คงจะพอช่วยชี้ทำให้เกิดความเข้าใจบ้างต่อเด็กวัยรุ่นว่าการใช้มือถือก็ถือว่าเป็นความจำเป็นอย่างหนึ่งในชีวิตของเขา สำหรับในทัศนะของผมนั้น ผมก็คิดว่าแล้วแต่ความคิดของแต่ละคน เราจะเอาบรรทัดฐานของเรา ที่ผมมักมองว่าเป็นสิ่งไม่จำเป็นหรือเป็นสิ่งฟุ่มเฟือย ก็จะเอาไปตีขีดเส้นความคิดคนอื่นเขาไม่ได้ หรือจะไปห้ามให้ผู้ปกครองห้ามซื้อมือถือให้เด็กหรือเด็กที่มีปัญญาซื้อมือถือก็ไม่ควรซื้อ อย่างนี้ก็ไม่ได้นะ แต่ว่าถ้าจะมองบริบทและช่วงวัยนั้น ผมเห็นว่าเด็กวัยรุ่นก็ไม่ควรใช้โทรศัพท์มือถือแบบถลุงเงินผู้ปกครองอย่างหนักหน่วง ควรรู้จักมัธยัสถ์นิยมบ้าง ไม่ใช่ไม่เป็นเรื่องคุยจำเป็นก็ดีดักจะเอาแต่โทรไปตลอดเวลา แต่ควรจะโทรในธุระที่จำเป็นหรือเป็นเหตุผลจำเป็นที่ควรโทรจริงๆ พูดง่ายๆก็คือ โทรคุยเท่าที่จำเป็นและสำคัญจริงๆ หรือจะให้ดีก็ควรทำงานหาเงินเพื่อลดเบาภาระกระเป๋าตังค์ของคนที่อุปถัมภ์ดูแลคุณอยู่!
จริงอยู่ว่าโทรศัพท์เป็นอำนาจอย่างหนึ่งในแง่ของการสื่อสาร เมื่อระบบเวลายังเร่งเร้าให้ชีวิตของคนในสังคมเกิดความเครียด หากว่าโทรศัพท์มือถือถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสร้างความสอดคล้องจำเป็นกับภาระอันหนักอึ้งไปได้ แม้ว่าผู้ใหญ่บางท่าน ผู้ใหญ่ใช้โทรศัพท์มือถือนั้นดีกว่าเด็กใช้โทรศัพท์มือถือ เพราะเพียงจะอ้างเอาว่าให้รายได้ในมือเพิ่มขึ้น เช่

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

Teens with cell phonesIn the modern era, or some people would say that is the modern era after going completely when long ago. Mobile phone has become a popular watthuiot that has a relationship with humans is very abundant. To create a fast communication, consistent with the time system, industry and pursue new competitive with others, or to remove the human life to survive in this world wisely, as the world community's changes quickly. But how do we know if a mobile phone. As an object of art, each person will have a different meaning and reason for possession of a variety of different phones, but we tend to use common sense in judging the value of incoming shallow holding objects or actions. By using the same great idea or thought dead until the cause of not understanding relative to each other, leading to many problems. สำหรับในสังคมไทยยุคสมัยใหม่ วัยรุ่นกับโทรศัพท์มือถือเป็นความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสิ่งของที่สามารถตีความเหตุผลและความรู้สึก เพื่อก่อรูปความเข้าใจกับความสัมพันธ์เชิงวัตถุนี้ได้ เราควรจะใช้ระบบความรู้และความคิดอยู่เป็นอย่างคณานับ แม้ว่าประเด็นนี้แลดูอาจจะเป็นเรื่องธรรมดาก็ตาม แต่ความธรรมดาหรือความสามัญ ก็ใช่ว่าคนจะเข้าใจกับสิ่งเหล่านี้ได้อย่างรอบด้านและถูกต้องอยู่อย่างเสมอไป เรามิควรดัดจริตตามก้นความคิดแบบผู้ใหญ่ที่มีการศึกษาหรือไม่มีการศึกษาหลายๆท่าน (ไม่ใช่ทุกคน และมิได้หมายถึงว่าคนมีการศึกษาในความหมายที่กล่าวว่าจะคิดเป็นเสมอไป) กล่าวไว้ว่า การซื้อวัตถุโทรศัพท์มือถือให้กับเด็กวัยรุ่นนั้นหรือเด็กตัวเล็กๆที่ยังไม่ใช่วัยรุ่นก็ตามนั้นเป็นการสร้างนิสัยแก่เด็กให้เป็นพวกฟุ่มเฟือย หรือจะเรียกให้เป็นวิชาการที่สวยงาม คือ ลัทธิบริโภคนิยมกำลังเข้าครอบงำอยู่ทุกอณูของชีวิตวัยรุ่นอยู่ ทำไมเขามองแบบนั้น? เพราะว่า หลักการง่ายๆที่สุด คือ พวกเด็กวัยรุ่นเป็นกลุ่มคนที่ยังไม่มีรายได้เป็นของตัวเอง จะกล่าวให้ดีก็ควรกล่าวว่าพวกเด็กเมื่อวานซืนยังแบมือของตังค์ผู้ปกครองอยู่นั่นเอง นั่นกลายเป็นเหตุผลหลักๆที่สำคัญของการกล่าวอ้างเพื่อนิยมวาจาแบบผักชีเพื่อให้ตนดูดีและรอดตัวไปเพียงเท่านั้นเอง แต่เหตุไฉนเล่าที่ผู้ใหญ่กลับปากไม่ตรงกับใจเสียอย่างงั้น วาจาที่เอื้อนออกมาก็ดูงามที แต่สุดท้ายแล้ว พวกท่านทั้งหลายกลับจำต้องยอมแพ้พ่ายลัทธิบริโภคนิยม เพราะอะไรหรือ? ก็เพราะว่า ถ้าจะสรุปเอาให้ดูดี แต่ก็มิใช่คำตอบสำเร็จรูป ก็ควรกล่าวว่าสังคมไทยมีความสัมพันธ์เชิงอำนาจที่ไม่เท่าเทียมกัน จะเอาหน้าให้รอหรือจะเร่งปลูกผักชีทั้งที ก็สมาทานทุกอย่างที่เห็นว่าเป็นของชั้นสูง อันเข้าถึงได้ยากเข้ามาครอบครอง แต่ทุนนิยมกลับฉลาดเฉลียวที่ทำให้สินค้าของพวกเขาเข้าได้ทุกชนชั้นอาชีพ แม้ว่าสังคมโลกหรือสังคมไทยก็ตามยังดำรงชนชั้นอยู่มากก็ตาม เราอาจจะมองผิดไปที่เห็นบริโภคนิยมดูดกลืนมนุษย์ให้ตกเป็นทาสของลัทธินี้เข้าทุกที แต่จะทำอย่างไรได้เมื่อคนเริ่มรู้จักการติดต่อสื่อสารกันมากขึ้น จะทำทุกอย่างเพื่อให้เท่าทันกับเวลาแบบใหม่ที่เป็นอุตสาหกรรมที่เน้นการมองเวลาเป็นเชิงก้าวหน้า การนับถอยหลัง เพื่อเป้าหมายความสำเร็จที่เติบใหญ่กว่าเดิม ดังนั้น วัยรุ่นก็เช่นกันที่มีโทรศัพท์มือถือนั้น ก็มีผู้ปกครองที่ทำงานจนหลังอาน ไม่มีเวลาให้ลูกหลานเหมือนสมัยเก่าก่อน เมื่อเป็นเช่นนี้ การทดแทนความรักก็ถูกสื่อด้วยการใช้วัตถุสื่อเป็นสำคัญ หรือถ้าจะกล่าวให้ดี พ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กวัยรุ่นทั้งหลาย (หรือแม้แต่เด็กตัวเล็กๆที่ยังกำลังย่างเข้าสู่วัยรุ่นหรือยังเป็นเด็กเมื่อวานซืน) กลัวบุตรหลายของตนจะน้อยหน้ากว่าเพื่อนของเด็ก กลัวเด็กน้อยใจ กระจองอแงและแล้วนั้นพวกผู้ใหญ่ทั้งหลายก็ทนความไม่เท่าเทียมอยู่ไม่ไหวนั้นเอง จึงตอบแทนด้วยการซื้อโทรศัพท์มือถือให้ลูกใช้กันอย่างาดาษดื่น ตัวอย่างของการเห็นและเข้าใจวัยรุ่นกับโทรศัทท์มือถือ เช่นว่า เด็กวัยรุ่นยุคนี้เรียนหนังสือกันจนจะอาเจียน ไหนจะทำงาน ทำการบ้าน ไหนจะสอบจนตาแทบลาย เวลาไม่เคยเว้นว่างให้เขามีพื้นที่และเวลาเข้าผูกพันอยู่กับความสดใสมากนัก นี่คือ เด็กเรียน ส่วนเด็กไม่เรียนก็จะสดใสสนุกสนานมากกว่าการจริงจังกว่าการเรียน ไม่ว่าจะจริงจังหรือจะสดใส อารมณ์ใดก็ลงเอยด้วยหยิบมือถือกดเข้าไปหาเพื่อน ให้ทำงานให้เสร็จ เร่งงานการบ้านที่อาจารย์สั่งให้เสร็จโดยไว หรือมีปัญหากับแฟนหรือกับผองเพื่อน เด็กหลายคนกลัวความอาวุโส ก็โทรคุยกับเพื่อนนั้นแหละ แล้วไง ก็ให้เรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของเขานั้นไม่ถูกกดทับจนอัดความเครียดให้แน่นหนักและโทรศัพท์มือถือก็ช่วยผ่อนคลายภาระการงานหรือชีวิตส่วนใหญ่ของเด็กวัยรุ่นหลายประการ
จากตัวอย่างข้างต้นที่กล่าวไป คงจะพอช่วยชี้ทำให้เกิดความเข้าใจบ้างต่อเด็กวัยรุ่นว่าการใช้มือถือก็ถือว่าเป็นความจำเป็นอย่างหนึ่งในชีวิตของเขา สำหรับในทัศนะของผมนั้น ผมก็คิดว่าแล้วแต่ความคิดของแต่ละคน เราจะเอาบรรทัดฐานของเรา ที่ผมมักมองว่าเป็นสิ่งไม่จำเป็นหรือเป็นสิ่งฟุ่มเฟือย ก็จะเอาไปตีขีดเส้นความคิดคนอื่นเขาไม่ได้ หรือจะไปห้ามให้ผู้ปกครองห้ามซื้อมือถือให้เด็กหรือเด็กที่มีปัญญาซื้อมือถือก็ไม่ควรซื้อ อย่างนี้ก็ไม่ได้นะ แต่ว่าถ้าจะมองบริบทและช่วงวัยนั้น ผมเห็นว่าเด็กวัยรุ่นก็ไม่ควรใช้โทรศัพท์มือถือแบบถลุงเงินผู้ปกครองอย่างหนักหน่วง ควรรู้จักมัธยัสถ์นิยมบ้าง ไม่ใช่ไม่เป็นเรื่องคุยจำเป็นก็ดีดักจะเอาแต่โทรไปตลอดเวลา แต่ควรจะโทรในธุระที่จำเป็นหรือเป็นเหตุผลจำเป็นที่ควรโทรจริงๆ พูดง่ายๆก็คือ โทรคุยเท่าที่จำเป็นและสำคัญจริงๆ หรือจะให้ดีก็ควรทำงานหาเงินเพื่อลดเบาภาระกระเป๋าตังค์ของคนที่อุปถัมภ์ดูแลคุณอยู่!
จริงอยู่ว่าโทรศัพท์เป็นอำนาจอย่างหนึ่งในแง่ของการสื่อสาร เมื่อระบบเวลายังเร่งเร้าให้ชีวิตของคนในสังคมเกิดความเครียด หากว่าโทรศัพท์มือถือถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสร้างความสอดคล้องจำเป็นกับภาระอันหนักอึ้งไปได้ แม้ว่าผู้ใหญ่บางท่าน ผู้ใหญ่ใช้โทรศัพท์มือถือนั้นดีกว่าเด็กใช้โทรศัพท์มือถือ เพราะเพียงจะอ้างเอาว่าให้รายได้ในมือเพิ่มขึ้น เช่

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

Adolescents with mobile phone
.In the modern era, or someone is said to be postmodern to neat when cardiopulmonary bypass. Mobile phones become popular objects in relationship with men is ดาษดื.Or the lives of human beings to survive in this world wisely to only keep up with the fast changes the world community
.But we know how mobile phones. As an object of modernity. Each person has the different meaning and reasoning of possessing different mobile phone range.By using a narrow ideas are, or think insensitive. To cause to create not understanding the relationship between each other until brings many problems
.For Thai society in the new era. Adolescents with mobile phone as the relationship between human and things that can interpret the reason and emotion. In order to form the understanding with this object relationship.Although this issue see might be common. But the ordinary or common. Yes, that people will understand these can all-round and accurate live always
.We should follow the idea of adults with heart education or education many of you (not all people and does not mean the educated in the said it was always). Said.Or you can call a beautiful academic is consumerism is in every part of life teen, why he looks like that?Because the simple principle, it is possible for young people, a group of people who have no income of their own. It is said, it should be said that the child's hand of money parents were there
.The main reason that become important argument to a popular word coriander to keep their good และรอดตัว go only. But why? That adults back as so dishonest Verbal note out looks beautiful.You must give back defeated consumerism. Why?Because if the story to look good, but it is not the answer; It should be said that the society has the power relations that are not equal. Supposed to wait or will accelerate plant coriander once. Is everything that is the higher behavioral objectivesBut capitalism back perceptive makes their goods to every class career. Although the world society or society, also maintain class is so much
.We could have mistakenly see consumerism absorbed the human slave of this doctrine in time. But what to do when people start to know to communicate more and more.Countdown. To achieve that grow more
.Therefore, teenagers as well with mobile phones. Have parents work until wroof. No time like the days of old, when children are like this. Substitution of love has been the media with the use of media objects is important.Parents of adolescents; (or even a little kid who were teenagers or a little approach). Many children will lose their fear of children, afraid child friend.They pay to buy mobile phones you don't use sesame abundant
.Examples of see and understand the teenagers with mobile phone Scott, such as that adolescents age studying books until vomit, and work to do my homework. The test until almost pattern.This is the child. Children don't learn will be bright, fun rather than more serious study. Whether serious or will be bright. What mood ended up cell press in going to finish the work.Or there is a problem with your girlfriend or with friends. Many children afraid of seniority. Call to talk with friends there, so.From the above examples, speak. Will help in understanding some point on adolescents that cell's remember as one in his life, for in my opinion. I think, but the idea of each person.I often seen as superfluous or superfluous? It will take the hit draw others to him. Or to stop the parents do not buy mobile children or wise buy cell phones should not buy. This is not.I think teenagers should not use mobile phones as silver is refined parents hard. Should know economy popular. Not matter to need good trap will always call all the time.In other words, a call as necessary and important. Or better should make money to reduce the burden of light purse foster care who you are!
.It's true that the phone is power one in terms of communication. When the system time also urge the lives of people in social stress.Even if adults as well. Adults using a mobile phone is better than children using mobile phones. Because only claims that income increases, such as in the hand