ASEAN tales Viet Nam countries. Jom kalon story Once upon a time With a young child. People known as Chom kalon. He was a clever boy, but it was the same as the name of his notification in advance is that he uses the most intelligent to talk to lie in an ant hill with various sorts of false tricked someone else around the House. No escape from the victim, he tricked Tom. My aunt and uncle who, even feed him until big after his parents died from to. One day his uncle go out plowing, which is home to a student. Best aunt, home work home. As he watched my aunt never absorbed in the kitchen. Father Chom kalon was thought cell. Think of my aunt and Uncle are tactics of their wheeled out one. He rushed in and sneak out of the House to the lung capacity to extort local farming is. "Yes, uncle, uncle." They holler uncle when he ran to the NA "Now hurry back home Auntie fall down ... one blood kradai. I don't know what to do " It's not immediately leap phlungklap ban say Word But father Chom musaklap runs along the previously cut home shortcut to Uncle. He ran to rush into the house yelling at one another. "Yes, aunt Auntie Uncle was the local na Gore have Buffalo. It seems Gore took a tight stomach! go! Oh, Yes, the dead Uncle "? He speaks not to the end. Auntie, ran out of the House to swoop in. He looks after the goal to shoot for fun and laughter are happy and fun to hiding behind the House. Aunt run run fast as legs will take a grand to nonetheless it still feels that it has not. Enough to bend the corner road. My aunt was bumped to burst someone. The husband of aunt themselves. "Sweat is soaking wet body carry Hae both looked stunned to be surprised to say no. "Damn head lying over there." now that the two people charged with designing your man into a spurious. Both uncle and aunt krotha big bad tempered "This is the last time" to allow the AI it sassy fool us. " Uncle speaks out The two men then went home. The father was found hidden behind the House so Marshal kalon drag the bamboo cages come in a big cage. Close the lid to lose tight "In this land" in the West until the "uncle and Auntie's with me to lakkrong to throw down a river. You shall not lie to deceive anyone carry the wind tour " My aunt and uncle, was find a cage to the river. When thrown into the river. Father Chom kalon, cry out that "Yes, aunt Uncle I'm realizing that a mistake, I was ready to face punishment, but got what I had something as last time, let's. I have one book. The name art of saying pot I secretly stored behind kraban rice home Ask for the booklet, I was first, let's. I have read in hell. " Both uncle aunt, both not cruel to deny the last request of the man's neck. In addition, I would like to know how to pull the uncle books it says that why? Uncle and Auntie, it's back to remove the book, man. While waiting in the cage, it yotkra the blind man who was walking by the river. A young boy, hail "คุณตาบอดครับ โปรดมาทางนี้หน่อยครับ ถ้าคุณอยากให้นัยน์ตามองเห็นอีก" ชายตาบอดได้ยินเสียงเรียกก็คลำทางมาที่กรงไม้ไผ่ เด็กหนุ่มก็บอกว่า "เร็ว ๆ หน่อยครับ รีบแก้เชือกที่ฝากรงก่อน แล้วผมจะบอกวิธีรักษาตาของคุณให้หายบอด" ชายตาบอดเอามือคลำ ๆ กรงไป จนในที่สุดก็จัดการเปิดฝาออกมาได้ ทันทีที่ฝากรงเปิด พ่อจอมกระล่อนก็กระโดดผลุงออกจากกรงวิ่งอ้าวไปเสียแล้ว เมื่อลุงกับป้ากลับมาหมายจะบอกหลานชายว่าหาหนังสือไม่พบ หลานชายก็หายไปจากกรงเสียแล้ว เห็นแต่ชายตาบอดมายืนอยู่แทนที่ คอยรับรู้ว่าจะรักษานัยน์ตาด้วยวิธีใด ทั้งสามคนโดนตุ๋นอีกครั้งหนึ่งจนได้ ยอดกระล่อนวิ่งฝ่าเข้าไปในกอไม้ไผ่กอหนาใกล้แม่น้ำนั้น ขณะที่เขาเดินเที่ยวสำรวจหาทางออกจากกอไผ่ บังเอิญไปพบหม้อเก่า ๆ เข้าใบหนึ่ง ในหม้อมีทองคำเต็ม โชคดีเสียนี่กระไร เขาเอาทองกลับบ้านไปให้ป้ากับลุง น่าขอบใจมหาสมบัตินั่นแท้ ๆ ครอบครัวของเขาร่ำรวยกลายเป็นเศรษฐีไปแล้ว ตอนนี้ป้ากับลุงยอมรับแล้วว่า ยิ่งดุด่าหลานชายเท่าใด ก็ไม่ทำให้เด็กคนนั้นเปลี่ยนนิสัยของเขาได้เลย ทั้งสองคนจึงคิดว่า บางทีถ้าเราหาผู้หญิงที่ดี ๆ ให้แต่งงานกับมันสักคนหนึ่ง เจ้าเด็กหนุ่มนี่อาจยุติการปั้นน้ำเป็นตัว เลิกเที่ยวเตร่ไม่ทำการทำงานเสียได้กระมัง แกจึงให้หลานชายแต่งงานกับสาวนางหนึ่งในหมู่บ้าน ดูท่าว่าการแต่งงานจะช่วยแก้ปัญหาไปได้ระยะหนึ่ง แต่สองสามเดือนต่อมาป้าและลุงเกิดตายลง พ่อจอมกระล่อนเริ่มเที่ยวโป้ปดมดเท็จหลอกโกงผู้คนต่อไปเหมือนอย่างเคยอีก วันหนึ่งเขาเข้าไปเตร็ดเตร่อยู่ในป่า ไปพบเอาลูกเสือสองสามตัวนอนอยู่บนหญ้า เนื่องจากเขาเป็นหนุ่มนิสัยเลว จึงจับลูกเสือเหล่านั้นมาหักอุ้งเท้ามันเสีย ลูกเสือพากันร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด พลันเขาก็ได้ยินเสียงคำรามอย่างน่าสะพรึงกลัวออกมาจากที่ใดที่หนึ่งใกล้ ๆ คงเป็นแม่ของลูกเสือเหล่านั้นนั่นเอง จอมมุสาจึงรีบวิ่งไปแอบอยู่หลังพุ่มไม้ ชั่วครู่ต่อมาเสือแม่ลูกอ่อนก็วิ่งมาหาลูก พอเห็นลูกกำลังเจ็บปวดทุรนทุรายเพราะอะไร มันก็คาบลูกไปที่โคนต้นไม้เล็ก ๆ ต้นหนึ่ง ซึ่งมีใบสีเขียว ๆ มันทึ้งใบไม้สองสามใบจากต้นใส่ปากเคี้ยว แล้วก็คาบใบไม้ในปากออกใส่อุ้งเท้าของลูก ๆ แล้วพ่อยอดกระล่อนก็อัศจรรย์ใจเหลือ ที่ภายในไม่กี่นาทีแผลของลูกเสือก็หายเป็นปลิดทิ้ง เจ้าหนุ่มคอยทีอยู่จนเสือทั้งแม่ลูกไปแล้ว เขาก็ขุดต้นไม้นั้นนำมาบ้าน เอามาปลูกในสนาม ตั้งชื่อว่า ต้นไทร นับแต่วันนั้นมา เขาเฝ้าดูแลต้นไม้อย่างระวังระไว บอกแก่ภรรยาว่า เทพเจ้าให้ต้นไม้นี้แก่เขา ใบของมันรักษาแผลได้ทุกชนิด รักษาโรคภัยได้สารพัดแม้กระทั่งช่วยคนตายแล้วให้ฟื้นขึ้นมาก็ยังได้ ขอให้ภรรยาของเขาคอยรักษาต้นไม้ให้สะอาดสะอ้าน
"อย่าเอาขยะมูลฝอยไปเทที่โคนต้นนะ ถ้าขืนทำต้นไม้จะเหาะหนีไปเสีย" เขาพร่ำเตือนแล้วเตือนอีก
แรก ๆ ภรรยาก็ทำตามที่สามีบอก แต่ไม่ช้านางก็ขัดใจกับสามีที่รักต้นไม้มากกว่าตัวนาง นางเบื่อที่จะฟังคำเตือนครั้งแล้วครั้งเล่าของสามีอยู่แล้วด้วย วันหนึ่งเกิดวิวาทกันขึ้นเรื่องต้นไม้ นางจึงอารมณ์เสียสุดจะยับยั้ง ตะโก
การแปล กรุณารอสักครู่..